หลายคนอาจจะเคยเห็นร้าน Fuku Matcha ผ่านตากันมาบ้าง
รู้หรือไม่ว่า Fuku Matcha มีเจ้าของเป็นผู้หญิงที่มากความสามารถคนหนึ่ง
และเธอก็ไม่ได้ทำธุรกิจ Fuku Matcha เพียงแค่ธุรกิจเดียว

เรื่องราวของ Fuku Matcha น่าสนใจอย่างไร?
เจ้าของ Fuku Matcha คือใคร?
แล้วนอกจากธุรกิจร้าน Fuku Matcha เธอทำอะไรอีกบ้าง?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Fuku Matcha ก่อตั้งมาแล้วกว่า 8 ปี
โดยคุณฐาน์ศศิร์ ธรรมานุสาร หรือคุณปุ๋ย

จุดเริ่มต้นของ Fuku Matcha เกิดขึ้นในตอนที่คุณปุ๋ยไปเที่ยวญี่ปุ่น และได้พบกับวัฒนธรรมการดื่มชามัทฉะที่มีเสน่ห์ แถมยังรสชาติดี

เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยในสมัยนั้น
คุณปุ๋ยเห็นว่าคนไทยหันมาดื่มชากันเยอะขึ้น
แต่ส่วนใหญ่จะเป็น “ชานมไข่มุก”
และยังไม่ค่อยมีชาให้เลือกหลากหลายเหมือนในญี่ปุ่น

ส่วนชามัทฉะที่วางขายในไทย ก็ยังมีราคาสูงมาก จนทำให้คนไทยหลายกลุ่มเข้าไม่ถึง

ดังนั้น คุณปุ๋ยที่เห็นโอกาสจากเรื่องนี้
จึงเริ่มศึกษาเรื่องชาอย่างจริงจัง พร้อมกับมองหาซัปพลายเออร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเธอ ทั้งในเรื่องคุณภาพ และราคาที่จับต้องได้

หลังจากนั้น ในปี 2555 แบรนด์ Fuku Matcha ก็ได้เกิดขึ้น..

โดยชื่อ Fuku Matcha มีที่มาจากคำว่า Fuku ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีความหมายว่า โชคลาภและความสุข

และที่มีการระบุชัดเจนในชื่อแบรนด์ว่า Matcha แทนที่จะใช้คำว่า Cha ที่หมายถึง “ชา” แบบทั่วๆ ไป ก็เพราะว่ามัทฉะคือสินค้าแรกที่เธอตั้งใจวางขาย และต้องการเน้นจุดยืนที่ชัดเจนว่าเป็นร้านที่มีสินค้าหลักเป็นมัทฉะนั่นเอง

ในขณะเดียวกัน Fuku Matcha เป็นแบรนด์ชา ที่ไม่เหมือนร้านชานมไข่มุกทั่วๆ ไป
เพราะ Fuku Matcha จะเน้นขายชาในกลุ่มชาเขียวเป็นหลัก เช่น มัทฉะ และโฮจิฉะ

นอกจากนี้ Fuku Matcha ยังมีเมนูซอฟต์ไอศกรีมรสมัทฉะต่างๆ วางขายในร้านอีกด้วย

ที่น่าสนใจคือ Fuku Matcha ยึดหลักสำคัญคือ “ขายในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ไม่ใช่ขายในสิ่งที่ตัวเองต้องการขาย”

แบรนด์ Fuku Matcha เข้าใจว่า ในบางครั้งลูกค้าต้องการดื่มชาชนิดนี้
แต่ไม่ได้อยากทานคู่ทอปปิงที่ทางแบรนด์กำหนดไว้

บางคนอยากทานคู่กับถั่วแดง ไอศกรีม หรืออาจจะอยากทานคู่กับทุกอย่าง
หรือลูกค้าอยากจะเอาไอศกรีมไปปั่นรวมกับชาก็สามารถทำได้

โดยเมนูทั้งหมดก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจลูกค้า
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ร้านชาในระดับเดียวกัน จะไม่ค่อยนิยมทำแบบนี้ เพราะยุ่งยาก และเสียเวลา
แต่สำหรับ Fuku Matcha ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเอาสิ่งที่ลูกค้าต้องการเป็นหลักยึด

ด้วยความที่เป็นแบรนด์แรกๆ ในตลาดชามัทฉะที่ราคาไม่สูงมาก
ประกอบกับทำการตลาดทางออนไลน์ ทั้งผ่านทาง Social Media ของบริษัทเอง และการจ้างเหล่าอินฟลูเอนเซอร์มารีวิว ควบคู่กับการใช้ช่องทางออฟไลน์ให้เกิดประโยชน์
หลังจากเปิดร้านได้ไม่นาน Fuku Matcha ก็ค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

Fuku Matcha ยังมองว่าหน้าร้าน เป็นการสื่อสารกับลูกค้าอย่างหนึ่ง
ที่เวลาลูกค้าเดินผ่านไปผ่านมาก็จะได้รู้จักแบรนด์ และอยากจะเข้ามาลองใช้บริการ

ในขณะเดียวกัน Fuku Matcha ก็ยังจัดโปรโมชันเป็นระยะๆ
เพื่อดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ให้เข้ามาทดลองใช้บริการที่ร้าน
เพราะถ้าลูกค้าลองแล้วถูกใจ ก็อาจจะกลับมาใช้บริการที่ร้านซ้ำๆ ได้อีก

ทั้งนี้ นอกจากแบรนด์ Fuku Matcha แล้ว
คุณปุ๋ยก็ยังได้สร้างแบรนด์อื่นในเครืออีก
ได้แก่ Kyoto Inari และธุรกิจจำหน่ายใบชา
รวมถึง Fuku X2 (ฟุกุครอสทู) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

โดยการสร้างแบรนด์ขึ้นมาเพิ่มเติม ก็เพื่อขยายกลุ่มลูกค้า และตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้มากขึ้น

แล้วธุรกิจที่คุณปุ๋ยสร้างขึ้นมา สร้างรายได้มากแค่ไหน?

บริษัท มายฟุกุ มัทชะ รับผิดชอบแบรนด์ Fuku Matcha
ปี 2562 รายได้ 207 ล้านบาท

บริษัท อูเบอร์ ซักเซส รับผิดชอบแบรนด์ Kyoto Inari
ปี 2562 รายได้ 29 ล้านบาท

บริษัท บีพีเอ็ม 59 จำกัด รับผิดชอบจำหน่ายผงชาและใบชาชนิดต่างๆ
ปี 2562 รายได้ 17 ล้านบาท

หมายความว่า หากนำรายได้ของทุกบริษัทที่คุณปุ๋ยเป็นเจ้าของมารวมกัน จะทำรายได้รวมทั้งหมดกว่า 253 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้ที่ทุกธุรกิจต้องเจอกับวิกฤติโควิด 19
ทาง Fuku Matcha ก็ได้บอกกับเราว่า พวกเขาพยายามมองหาโอกาสในทุกๆ สถานการณ์

และเมื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับวิกฤติไม่ได้ ก็ต้องคิดหาทางออก..

ดังนั้นแทนที่จะอยู่เฉยๆ เพื่อรอให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
Fuku Matcha กลับใช้ช่วงเวลานี้ในการศึกษาพัฒนาสินค้าใหม่

มีการเจรจากับซัปพลายเออร์ทั้งในและต่างประเทศ
รวมทั้งมองหาโอกาสในการขยายสาขาเพิ่ม
ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่แบรนด์กำลังมีอำนาจต่อรองสูง

ทำให้ Fuku Matcha สามารถรักษายอดขายได้เท่าเดิม
ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ให้ลดลงได้ด้วย

นอกจากนั้นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ ก็คือเรื่องการรักษากำลังใจของพนักงาน
เนื่องจากคุณปุ๋ยมองว่า พนักงาน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต
ดังนั้น เธอจึงไม่มีการลดเงินเดือน หรือลดจำนวนของพนักงานในช่วงวิกฤติ

จากเรื่องราวทั้งหมดนี้
จึงถือได้ว่า Fuku Matcha เป็นหนึ่งในแบรนด์ชาที่น่าจับตามอง
และก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ร้านชาที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร อายุ 8 ปี แบรนด์นี้ จะเติบโตไปไกลอีกแค่ไหนในอนาคต

และสำหรับใครอีกหลายคน Fuku Matcha ก็น่าจะเป็นหนึ่งในดวงใจ
ที่เมื่อนึกถึงมัทฉะทีไร ก็จะนึกถึงแบรนด์นี้..

Reference
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ Fuku Matcha