รู้จัก Bordier Butter เนยที่นิยมใช้ใน ร้านอาหารมิชลินสตาร์
Business

รู้จัก Bordier Butter เนยที่นิยมใช้ใน ร้านอาหารมิชลินสตาร์

7 เม.ย. 2025
รู้จัก Bordier Butter เนยที่นิยมใช้ใน ร้านอาหารมิชลินสตาร์ /โดย ลงทุนเกิร์ล
มีคำกล่าวที่ว่า “จะไม่มีการปรุงอาหารฝรั่งเศส หากปราศจากเนย”
เพราะชาวฝรั่งเศสใช้เนยมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี และยังเป็นวัตถุดิบที่มีบทบาทสำคัญต่อรสชาติ ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับอาหารฝรั่งเศส
และรู้หรือไม่ว่า มีเนยแบรนด์หนึ่งที่ชื่อว่า “Bordier” (บอร์ดิเยร์) เป็นสุดยอดแบรนด์เนยจากฝรั่งเศส ที่เชฟมิชลินสตาร์ทั่วโลกเลือกใช้
เรื่องราวของเนย Bordier น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนย้อนไปที่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันหอมหวานนี้กันค่ะ
Bordier เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Jean-Yves Bordier ลูกหลานในครอบครัวผู้ผลิตเนยและชีส
เริ่มแรก คุณ Jean-Yves Bordier มีความฝันอยากเป็นกะลาสีเรือ ทำให้ชีวิตของเขาเข้าสู่เส้นทางทหารเรืออยู่ช่วงหนึ่ง แต่ด้วยระเบียบวินัยที่เคร่งครัดของอาชีพทหาร ทำให้เขารับรู้ว่าสิ่งนี้คงไม่ใช่แนวทางที่เขาใฝ่ฝัน
แต่แล้วจุดเปลี่ยนของคุณ Jean-Yves Bordier ก็มาถึง ในปี 1985 เมื่อเขาได้เข้าซื้อกิจการร้านเนยและชีส “La Maison du Beurre” ที่ก่อตั้งขึ้นมาอยู่แล้วตั้งแต่ปี 1927 ในแคว้น Brittany ประเทศฝรั่งเศส
และบริเวณด้านหลังของร้านนี้นี่เอง มีเครื่องมือเก่าแก่ที่เจ้าของเดิมทิ้งไว้ ทำให้เขาได้ค้นพบว่า การใช้ Malaxer หรือกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมจากศตวรรษที่ 19 ที่ปัจจุบันไม่มีใครทำแล้วนี้ได้ผลลัพธ์เนยที่สมบูรณ์แบบ
ซึ่งกรรมวิธีการผลิตนั้น คือ การอาศัยวงล้อโต๊ะไม้ทรงกลม ที่มีสกรูไม้แบบมีร่องนวดเนยด้วยความเร็วต่ำ และใช้ไม้พายตบ ๆ ที่เนยเพื่อไล่น้ำส่วนเกินออก ทำให้เนยมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม รวมถึงมีกลิ่นหอมละมุนตามธรรมชาติ
และอีกหนึ่งเคล็ดลับ คือกระบวนการโรยเกลือระหว่างการนวดเนย โดยเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความแม่นยำ ในการทำให้เนยมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bordier
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเริ่มสงสัยแล้วว่า เนยของ Bordier แตกต่างจากเนยทั่วไปอย่างไร ?
อย่างแรก คือ คุณภาพ
Bordier เลือกใช้น้ำนมเกรดสูงสุดจากฟาร์มออร์แกนิกในรัศมี 100 กิโลเมตรจากแหล่งผลิต โดยแม่วัวพันธุ์ดีจะถูกเลี้ยงด้วยดอกไม้สดและสมุนไพรในช่วงฤดูร้อน แต่หากเป็นฤดูหนาวก็จะถูกเลี้ยงด้วยถั่วแอลแฟลฟา ซึ่งช่วยให้แม่วัวผลิตนมที่มีความเข้มข้นและให้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
อีกทั้ง ทั่วไปแล้วเนยที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมจะใช้เวลาในการบ่มเพียง 6 ชั่วโมง แต่เนยของ Bordier จะใช้เวลาบ่มถึง 72 ชั่วโมง เรียกได้ว่านานกว่าเนยในท้องตลาดถึง 12 เท่า
โดยทุกขั้นตอนการผลิตเนย ตั้งแต่การนวด ปั้น ไปจนถึงการขึ้นรูป ล้วนทำด้วยมือจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด
อย่างที่สอง คือ รสชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย
นอกจากเนยรสคลาสสิกแบบใส่เกลือและไม่ใส่เกลือแล้ว Bordier ยังมีเนยที่มีรสชาติเฉพาะตัวให้เลือกอีกมาก เช่น
“Vanille de Madagascar” เนยรสวานิลลามาดากัสการ์ เหมาะสำหรับทานกับขนมปังปิ้ง เครป ทาร์ตตาแต็ง รวมถึงนำไปปรุงอาหารจำพวกสัตว์ปีก หรือหอยเชลล์ย่างก็ได้
“Yuzu” เนยรสยูซุ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะสำหรับนำไปปรุงรสแบบซอส หรือใช้อบเพื่อกลบรสขมของเนื้อปลา
“Sarrazin” เนยรสบักวีต ที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ เหมาะสำหรับรับประทานทั้งกับอาหารคาวและอาหารหวาน
อีกทั้งเนยบางรสชาติยังเป็นเกียรติประวัติของแบรนด์ เช่น
“Huile d’Olive Citronnée” เนยรสน้ำมันมะกอกและเลมอน ที่สั่งทำโดยเชฟระดับโลกอย่างคุณ Guy Savoy
“Algues” เนยรสสาหร่าย ที่สั่งทำโดยคุณ Joël Robuchon เชฟผู้ถือครองดาวมิชลินมากที่สุดในโลก โดยการดึงความเข้มข้นของสาหร่ายทะเล เหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารทะเลและเมนูหอย
ซึ่งเชฟ เจ้าของร้านอาหารและเจ้าของโรงแรมสามารถรีเควสต์ให้ Bordier ผลิตเนยตามความต้องการของตนเอง ตั้งแต่น้ำหนัก รูปร่าง ปริมาณเกลือ และรสชาติที่เพิ่มเข้าไป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองได้อีกด้วย
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ก็เป็นส่วนผสมสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Bordier จนได้ชื่อว่าเป็น “เนยที่ดีที่สุดในโลก” นั่นเอง..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.