
Business
สรุป ธุรกิจ “สุกี้ช้างเผือก” ร้านสุกี้เจ้าดังในเชียงใหม่ ที่เปิดมาแล้วกว่า 33 ปี
10 ก.พ. 2025
สรุป ธุรกิจ “สุกี้ช้างเผือก” ร้านสุกี้เจ้าดังในเชียงใหม่ ที่เปิดมาแล้วกว่า 33 ปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
เชียงใหม่ ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักกิน เพราะที่นี่มีร้านอาหารอร่อย ๆ ซ่อนตัวอยู่มากมาย
และหนึ่งในร้านที่ห้ามพลาด ก็คือ “สุกี้ช้างเผือก” ร้านสุกี้ที่ใครไปเชียงใหม่แล้วไม่ได้แวะไป อาจเรียกว่ามาไม่ถึง
เรื่องราวของสุกี้ช้างเผือก น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 2535 หรือประมาณ 33 ปีที่แล้ว เดิมที สุกี้ช้างเผือก เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ที่มีเมนูสุกี้ขาย ตั้งอยู่ตรงข้ามคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ต่อมา ร้านก็ย้ายมาขายอยู่ที่ตลาดโต้รุ่งช้างเผือก จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สุกี้ช้างเผือกเป็นที่รู้จักมากขึ้น
เมื่อลูกค้าเริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ก็มีลูกค้าประจำ จนเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้ร้านได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้
ปัจจุบัน ร้านสุกี้ช้างเผือกยังคงเป็นธุรกิจครอบครัว และไม่มีการขายแฟรนไชส์
อีกทั้งสาขาทั้งหมด ยังตั้งอยู่แค่ในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็น สาขาช้างเผือก, สาขาสันทราย, สาขาหลังมอ, สาขาแยกสนามบิน (มีเฉพาะ Delivery), สาขากรีนพาร์ค, สาขา Bangkok Plaza และล่าสุด คือสาขาแม่ริม ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็น สาขาช้างเผือก, สาขาสันทราย, สาขาหลังมอ, สาขาแยกสนามบิน (มีเฉพาะ Delivery), สาขากรีนพาร์ค, สาขา Bangkok Plaza และล่าสุด คือสาขาแม่ริม ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แต่ในช่วงปลายปี 2567 สุกี้ช้างเผือกก็มีโอกาสได้มาเปิด Pop-up ที่สยามพารากอน ซึ่งกระแสตอบรับก็ดีเกินคาด มีคนรอต่อคิวยาวเหยียดตั้งแต่ห้างเปิด เพื่อลิ้มลองรสชาติสุกี้ในตำนาน ถึงขั้นมีการรับหิ้วสุกี้ช้างเผือกกันเลยทีเดียว
ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ใคร ๆ ต่างก็อยากลิ้มลองสุกี้ช้างเผือกสักครั้ง คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “เอกลักษณ์ของรสชาติ ต้นตำรับครอบครัวสุกี้ช้างเผือก”
โดยสุกี้ช้างเผือกจะพิถีพิถันในการปรุงสุกี้แบบจานต่อจาน เพื่อคงความสดกรอบของผัก
และเพิ่มความหอมอันเป็นเอกลักษณ์จากกระทะ ที่เมื่อผสานกับวุ้นเส้นเหนียวนุ่มหนึบ จึงเกิดเป็นรสชาติกลมกล่อมที่ลงตัว ยากจะเลียนแบบ
ซึ่งทุกสาขา จะใช้มาตรฐานเดียวกัน ทำให้สุกี้ช้างเผือกทุก ๆ จาน มีรสชาติคงที่
เท่านั้นยังไม่พอ ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งของร้านอยู่ที่ “น้ำจิ้มรสเด็ดสูตรเฉพาะ” ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นแบบไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการส่งต่อเคล็ดลับความอร่อยจากมือสู่มือ ไม่มีการซื้อขาย
น้ำจิ้มสูตรนี้จึงเป็นเหมือน “ต้นตำรับ” และ “สัญลักษณ์” ของร้านสุกี้ช้างเผือกนั่นเอง
นอกจากเมนูสุกี้แห้งและสุกี้น้ำแล้ว ภายในร้านยังมีเมนูอื่น ๆ เช่น สุกี้ราดข้าว ก๋วยเตี๋ยวเครื่องปลา หรือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ให้ลองชิมกันอีกด้วย
ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจอาหารที่สั่งสมมานาน สุกี้ช้างเผือก จึงเริ่มขยายธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเติมในปี 2566 นั่นก็คือ HEY POT สุกี้หม้อไฟ by สุกี้ช้างเผือก ร้านสุกี้หม้อไฟร้อน ๆ ที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มสุกี้ช้างเผือก
จะเห็นได้ว่า สุกี้ช้างเผือกยังคงใช้ชื่อแบรนด์เดิมบางส่วน เพื่อสื่อถึงความเป็นร้านในเครือเดียวกัน และใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการมากขึ้น เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิม ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ นั่นเอง
แถมล่าสุด ยังเอาใจแฟน ๆ ที่อยากลิ้มลองรสชาติสุกี้ถึงบ้าน ด้วยการเปิดขายน้ำจิ้มสุกี้ช้างเผือกสูตรต้นตำรับแบบบรรจุขวด โดยเปิดให้พรีออร์เดอร์เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
เรียกได้ว่า สุกี้ช้างเผือก ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการรักษามาตรฐานความอร่อย และการบริหารธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
ก็น่าติดตามว่า ในอนาคต สุกี้ช้างเผือก จะมีแผนขยายสาขาไปยังจังหวัดไหนเพิ่มเติม
รวมถึงจะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดหรือไม่..
Reference:
-เฟซบุ๊กสุกี้ช้างเผือก
-เฟซบุ๊กสุกี้ช้างเผือก