EB Denim จากแบรนด์ของเด็กมัธยมปลาย สู่ กางเกงยีน ที่เซเลบริตีเลือกใส่
Business

EB Denim จากแบรนด์ของเด็กมัธยมปลาย สู่ กางเกงยีน ที่เซเลบริตีเลือกใส่

13 ม.ค. 2025
EB Denim จากแบรนด์ของเด็กมัธยมปลาย สู่ กางเกงยีน ที่เซเลบริตีเลือกใส่ /โดย ลงทุนเกิร์ล
การหารายได้เสริม หรือสร้างแบรนด์ของตัวเองตั้งแต่สมัยเรียน อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ของวัยรุ่นสมัยนี้
แต่จะมีสักกี่แบรนด์ของวัยรุ่น ที่เซเลบริตีระดับโลกหยิบมาใช้หรือเลือกมาสวมใส่
และวัยรุ่นคนที่เรากำลังพูดถึงนี้ คือคุณ Elena Bonvicini
หญิงสาวชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ EB Denim
จากจุดเริ่มต้นที่เธอขายกางเกงยีน DIY ให้เพื่อนในโรงเรียน
ปัจจุบัน EB Denim กำลังก้าวสู่แบรนด์กางเกงยีนรายได้ 100 ล้านบาท ที่มี Taylor Swift และ Kylie Jenner สวมใส่ จนกลายเป็นไวรัล
เรื่องราวของการสร้างแบรนด์ EB Denim น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2016 ขณะที่คุณ Elena Bonvicini เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เธอมักจะไปเที่ยวร้านขายของมือสองกับคุณยายเป็นประจำ
ซึ่งระหว่างที่คุณยายเลือกจานชาม คุณ Bonvicini ก็จะเลือกดูเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกงยีน เมื่อได้ตัวที่ถูกใจ เธอก็จะซื้อมันกลับมา DIY ให้กลายเป็นกางเกงตัวเดียวบนโลกที่ไม่เหมือนใคร
วันหนึ่งคุณ Bonvicini ใส่กางเกงยีนขาสั้น Levi’s ที่เธอ DIY เองไปโรงเรียน ก็มีนักเรียนรุ่นน้องเข้ามาสอบถามถึงกางเกงที่เธอใส่ และขอร้องให้คุณ Bonvicini ทำออกมาขายให้เธอใส่บ้าง
คุณ Bonvicini จึงเริ่มขายกางเกงยีนให้คนในโรงเรียน จาก 1 ตัว กลายเป็นหลักร้อยตัวในเวลาถัดมา โดยเธอจะเปิดขายทุกวันศุกร์ บริเวณล็อกเกอร์ในโรงยิม ราคาเริ่มต้นตัวละ 340 บาท ถึง 1,000 บาท
แม้ราคาต่อชิ้นที่เธอขายจะไม่แพง แต่เธอก็เห็นถึงศักยภาพในการทำกำไรต่อตัวที่ค่อนข้างสูง เพราะต้นทุนกางเกงที่เธอซื้อมาราคาตัวละไม่ถึง 34 บาท
เมื่อคุณ Bonvicini อายุครบ 18 ปี เธอก็เริ่มสร้างแบรนด์ EB Denim โดยโพสต์ขายลงบนแพลตฟอร์ม Etsy และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ พร้อมกับส่งกางเกงที่เธอออกแบบเองไปให้เซเลบริตีชื่อดังหลายคน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็ดีเกินกว่าที่เธอคาด เมื่อแฟชั่นไอคอนอย่าง Chiara Ferragni และ Danielle Bernstein ใส่กางเกงของแบรนด์ EB Denim และโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ช่องทางการขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มีผู้คนเข้ามาดูเยอะขึ้น และยอดขายก็เพิ่มขึ้นไปด้วย
จนกระทั่งคุณ Bonvicini เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอเริ่มจ้างพนักงานแพ็กของ พอวันหยุดเธอก็ไปหาซื้อกางเกงยีนจากร้านมือสองเรื่อย ๆ รวมถึงออกกางเกงดิไซน์ใหม่ ๆ
จากจุดเริ่มต้นที่ขายกางเกงตัวละไม่เกิน 1,000 บาท เธอก็สามารถขายให้เพื่อนในมหาวิทยาลัยได้ในราคาตัวละ 7,500 บาท และบางวันเธอทำยอดขายได้สูงถึง 410,000 บาท ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
หลังจากนั้น คุณ Bonvicini ก็ตัดสินใจขยายสินค้าเพิ่มเติม เธอเริ่มทำเดรสมาขาย รวมถึงเสื้อยืด และแจ็กเก็ต พร้อมกับการที่แบรนด์ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจุดที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็คือหลังจบงาน MTV Video Music Awards ปี 2023 เมื่อนักร้องชื่อดังอย่าง Taylor Swift เลือกใส่แบรนด์ของเธอ
ภายในคืนเดียว ยอดขายของแบรนด์ก็เพิ่มขึ้นถล่มทลาย และยังทำให้ภายในปีนั้นแบรนด์มียอดขายสูงถึง 68 ล้านบาท และคาดว่าจะจบปี 2024 ที่ 100 ล้านบาท
ปัจจุบันคุณ Bonvicini อายุ 26 ปี เป็นนักธุรกิจอายุน้อยที่น่าจับตา และยังติดอันดับ Forbes Magazine’s 30 Under 30 สาขา Art & Style ประจำปี 2025
นอกจากนี้ คุณ Bonvicini ได้ให้สัมภาษณ์กับ Entrepreneur magazine ถึงเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้แบรนด์ EB Denim ประสบความสำเร็จหลัก ๆ 2 ข้อ
อย่างแรกคือ อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง
ในช่วงการเริ่มทำแบรนด์ช่วงแรก คุณ Bonvicini จะ DIY กางเกงทุกตัวที่เธอซื้อมา แต่ด้วยความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถผลิตงานแบบแฮนด์เมดได้อีก
เธอจึงปรับธุรกิจให้สินค้าประมาณ 95% ของร้านเป็นสินค้าผลิตใหม่ พร้อมทำ Brand Positioning ให้เป็นแบรนด์ยีนระดับพรีเมียมที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปที่โรงงานในประเทศปากีสถาน โดยเลือกโรงงานที่เน้นความยั่งยืนในการใช้พลังงานหมุนเวียน และยังคงใช้วัสดุคุณภาพสูง
ในตอนแรก คุณ Bonvicini กังวลว่ามันจะทำให้เธอสูญเสียจุดยืนของแบรนด์ที่เน้นการรีไซเคิลกางเกงที่ใช้แล้ว แต่หากไม่เลือกทางนี้ ธุรกิจก็คงขยายไม่ได้
เรื่องถัดมาคือ การลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากการบริหารธุรกิจเสื้อผ้าไม่ได้พึ่งพาเรื่องความคิดสร้างสรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องโลจิสติกส์ ซัปพลายเชน การตลาด และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างคุณ Bonvicini ก็ได้ผู้เชี่ยวชาญด้าน PR ที่มาช่วยเธอติดต่อกับเซเลบริตี และสิ่งนี้เป็นจุดเปลี่ยนให้แบรนด์ของเธอเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น
และขอปิดท้ายด้วยข้อคิดที่คุณ Bonvicini ได้ฝากไว้กับผู้ประกอบการคนอื่น ๆ ว่า “การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในทักษะและวิสัยทัศน์ของตัวเอง”
เหมือนกับคุณ Bonvicini ที่แม้ในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่ เธอจะเริ่มปั้นแบรนด์จนสร้างรายได้ให้ตัวเองได้แล้ว
แต่เธอก็ยังไม่ทิ้งการเรียนในสาขาประชาสัมพันธ์และการเป็นผู้ประกอบการ เธอมองว่าการเรียนนั้นช่วยส่งเสริมธุรกิจที่เธอทำได้ในหลายด้าน
จนท้ายที่สุด เธอก็สามารถบริหารเวลา โดยไม่ทิ้งทั้งการเรียน และการปั้นแบรนด์ธุรกิจตามความฝันของตนเอง..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.