Business
โมเดลธุรกิจ Life Time Fitness ฟิตเนสคลับหรู ทำรายได้ หมื่นล้านทุกปี
20 ธ.ค. 2024
โมเดลธุรกิจ Life Time Fitness ฟิตเนสคลับหรู ทำรายได้ หมื่นล้านทุกปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
เชนฟิตเนสที่เรารู้จักกันทั่วไปในไทย มักตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้า และมีพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมค่อนข้างจำกัด หากใครอยากเล่นกีฬาที่ต้องใช้พื้นที่กว้าง เช่น ตีเทนนิส หรือว่ายน้ำ เราก็ต้องออกไปจองสนามทำกิจกรรมนั้น ๆ โดยเฉพาะ
แต่รู้หรือไม่ว่า ในสหรัฐฯ และแคนาดา มีเชนฟิตเนสคลับขนาดใหญ่ ระดับพรีเมียม ที่มุ่งเน้นการสร้างไลฟ์สไตล์สุขภาพที่ดีให้กับสมาชิก
ให้บริการด้านสุขภาพและฟิตเนสแบบครบวงจร มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ สปา ร้านอาหาร ไปจนถึงบริการไลฟ์สไตล์ เช่น บริการปล่อยเช่าห้องพักอาศัย, จัดงานวันเกิด และ พื้นที่สำหรับ Co-Working Space
เรากำลังพูดถึง “Life Time Fitness” ที่มีมูลค่าบริษัทแตะระดับ 167,000 ล้านบาท แถมทำรายได้หลักหมื่นล้านบาท เป็นประจำทุกปี
เรื่องราวของ Life Time Fitness น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Life Time Fitness ก่อตั้งโดยคุณ Bahram Akradi ชายหนุ่มชาวอิหร่าน ที่ย้ายถิ่นฐานมายังสหรัฐอเมริกา
ซึ่งตอนที่เขาอายุ 17 ปี เขาเคยทำงานเสริมที่เชนฟิตเนสแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ จนเกิดแนวคิดว่า ยิมสามารถเป็นสถานที่ ที่ให้มากกว่าการออกกำลังกายได้
จากนั้นในปี ค.ศ. 1992 คุณ Akradi ก็ได้ทำตามความฝันที่อยากเปิดกิจการฟิตเนสของตัวเอง โดยตัดสินใจขายสินทรัพย์ส่วนตัวทั้งหมด เพื่อเปิด Life Time Fitness สาขาแรกที่เมือง Brooklyn Park รัฐมินนิโซตา ในพื้นที่ขนาด 2,500 ตารางเมตร
แต่ความท้าทายคือ พื้นที่ที่คุณ Akradi เลือกนั้น เคยมีฟิตเนสคลับที่เคยเปิดมาก่อนหน้านี้ 3 เจ้า แต่ก็ต้องปิดตัวลงไปทุกเจ้า
ไม่เพียงเท่านั้น คุณ Akradi ยังตั้งเป้าที่จะทำยอดเมมเบอร์สูงถึง 2,700 ราย ภายในปีแรก เรียกได้ว่าแค่เริ่มต้น เขาก็ตั้งเป้าธุรกิจและความคาดหวังไว้สูงทีเดียว
อย่างไรก็ตามคุณ Akradi สามารถทำยอดได้ตามเป้า และค่อย ๆ ขยายการให้บริการและขยายสาขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีจำนวนสาขามากกว่า 180 แห่งทั่วสหรัฐฯ และแคนาดา
หากเรามาดูผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา
ปี 2021 รายได้ 44,900 ล้านบาท ขาดทุน 19,700 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 62,100 ล้านบาท ขาดทุน 60 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 75,500 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
9 เดือนแรก ปี 2023 รายได้ 66,700 ล้านบาท กำไร 4,100 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 62,100 ล้านบาท ขาดทุน 60 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 75,500 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
9 เดือนแรก ปี 2023 รายได้ 66,700 ล้านบาท กำไร 4,100 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าบริษัทสามารถฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนในช่วงวิกฤติโรคระบาด ได้อย่างรวดเร็ว กลับมามีกำไรในปี 2023 และในปีนี้บริษัทยังสามารถทำรายได้ และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกด้วย
ทีนี้ หลายคนอาจสงสัยแล้วว่า Life Time Fitness มีจุดแข็งอะไรที่โดดเด่นในตลาด ?
อันดับแรกคือ กิจกรรมหลากหลาย
เนื่องจากอุดมการณ์ของ Life Time Fitness ตั้งใจให้เป็นฟิตเนสคลับที่สามารถใช้พื้นที่ได้แทบทุกกิจกรรมในชีวิต ดังนั้นแต่ละสาขามักมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนให้ได้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
กิจกรรมออกกำลังกาย เช่น บริการฟิตเนสที่ทันสมัย, สระว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, มวย, เทนนิส, พิลาทิส และปีนผากิจกรรมไลฟ์สไตล์ เช่น สปา, ทำเล็บ, และทรีตเมนต์ผิวพื้นที่สำหรับกิจกรรมนันทนาการ เช่น คาเฟ, บาร์, คลับชายหาด และ Co-Working Spaceบริการอื่น ๆ เช่น ปล่อยเช่าห้องพักอาศัย ซึ่งสามารถใช้บริการฟิตเนสคลับเมมเบอร์ระดับ Signature และ จัดงานปาร์ตีสำหรับเด็ก
ถัดมาคือ ครอบคลุมลูกค้าทุกช่วงวัย
Life Time Fitness ให้บริการลูกค้า ตั้งแต่เด็กทารกอายุ 90 วัน ไปจนถึงวัยชราอายุ 90 ปีขึ้นไป
สำหรับลูกค้าที่มีอายุน้อยสุด ตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี สามารถเข้า Child Care คอร์สพัฒนาประสาทสัมผัส และกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการอื่น ๆ รวมถึงคอร์สออกกำลังกายร่วมกับผู้ปกครอง เช่น โยคะ และว่ายน้ำ
ส่วนลูกค้าสูงอายุ จะมีคอร์สที่ชื่อ Arora โปรแกรมออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ เช่น คลาสว่ายน้ำ, เต้น และโยคะ รวมไปถึงมีเทรนเนอร์ที่เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
สุดท้ายคือ ระบบการแบ่งระดับสมาชิก
ราคาค่าสมาชิกของ Life Time Fitness ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาว่ามีการให้บริการด้านใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดระดับคล้ายกับฟิตเนสทั่วไป เช่น One-day, Membership, Standard Membership และ Signature Membership
ซึ่งราคาจะสูงขึ้นตามลำดับ เริ่มต้นโดยประมาณที่ 1,300 บาทต่อวัน จนถึง 11,000 บาทต่อเดือน (ไม่รวมค่าบริการเสริมอื่น ๆ เช่น คลาสพิเศษ หรือการเทรนส่วนตัว)
ที่น่าสนใจคือ Life Time Fitness ยังมีระบบสมาชิกที่เรียกว่า Digital Membership เป็นระบบสมาชิกที่สามารถเข้าถึง การออกแบบการดูแลสุขภาพของตัวเองได้ผ่านแอปพลิเคชัน เช่น
โปรแกรมออกกำลังกายที่ปรับแต่งตามกายภาพของแต่ละคน แนะนำโดยเทรนเนอร์ส่วนตัวคลาสเรียนออกกำลังกายแบบออนไลน์บทความและคอนเทนต์เรื่องสุขภาพ เช่น การลดน้ำหนัก, อาหาร และดีท็อกซ์Apple Fitness+ บริการฟิตเนสแห่งแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้ Apple Watch เป็นหลัก
ทั้งหมดนี้คือจุดแข็งของ Life Time Fitness ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ คนรักสุขภาพทุกช่วงวัย และคนที่มองหาประสบการณ์พรีเมียม พร้อมจ่ายค่าบริการเพื่อคุณภาพและความสะดวกสบาย
นอกจากนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ Life Time Fitness เป็นที่พูดถึงมากขึ้น เพราะมีเซเลบริตีชื่อดังระดับโลก เช่น พ็อปสตาร์ Justin Bieber และนักกีฬาบาสเกตบอล LeBron James มาใช้บริการ
อีกทั้ง ในปีนี้ Life Time Fitness ยังเน้นลงทุนขยายสนามกีฬา Pickleball กีฬาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จนเกิดเป็นกระแสในสหรัฐฯ
ซึ่งตรงนี้นักลงทุนมองว่า Life Time Fitness มีศักยภาพ และจุดแข็งในการปรับเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยม ให้เข้ากับ Branding ของบริษัท ที่เน้นตอบโจทย์กีฬา และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐฯ ยังมีฟิตเนสคลับระดับพรีเมียมที่คล้าย ๆ กับ Life Time Fitness เป็นคู่แข่งที่น่าจับตาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Equinox, The Houstonian Club และ LA Fitness
ก็น่าติดตามว่า Life Time Fitness จะมีบริการแปลกใหม่ และหมัดเด็ดอะไร ที่จะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดฟิตเนสคลับระดับพรีเมียมต่อไปได้อีกในอนาคต..