Business
สรุปกลยุทธ์ที่ Medyceles ผู้นำเข้าเวชภัณฑ์และยาให้คลินิกเสริมความงาม ใช้ดันยอดขายสู่ 1,000 ล้าน ภายในปี 2024
13 ธ.ค. 2024
Medyceles x ลงทุนเกิร์ล
ในยุคที่ใคร ๆ ก็เดินเข้าคลินิกความงาม จนกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจ Red Ocean แห่งปี
สงสัยหรือไม่ว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการของคลินิกความงามได้ง่ายขึ้น
สงสัยหรือไม่ว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการของคลินิกความงามได้ง่ายขึ้น
หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังการนำเข้าฟิลเลอร์ และโบทูลินัมท็อกซินเกาหลีคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ที่เหล่าคลินิกใช้กันกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศไทย ก็คือ Medyceles (เมดิเซเลส)
บริษัทร่วมทุนข้ามชาติระหว่างบริษัท เซเลส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เมดิท็อกซ์ คอปเปอเรชั่น (มหาชน) จากเกาหลีใต้ ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ความงามอันดับต้น ๆ ในเกาหลีใต้
โดยเมดิเซเลส ปิดจบปี 2023 ด้วยรายได้ 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 60%
ส่วนในปี 2024 นี้ เมดิเซเลส ก็ตั้งเป้าโตด้วยรายได้ 1,000 ล้านบาท และกำไรกว่า 300 ล้านบาท
ซึ่งหากทำได้จริง ก็นับว่ายอดขายโตกว่า 4 เท่า ภายใน 3 ปีเท่านั้น
ส่วนในปี 2024 นี้ เมดิเซเลส ก็ตั้งเป้าโตด้วยรายได้ 1,000 ล้านบาท และกำไรกว่า 300 ล้านบาท
ซึ่งหากทำได้จริง ก็นับว่ายอดขายโตกว่า 4 เท่า ภายใน 3 ปีเท่านั้น
แล้วกลยุทธ์อะไร ที่ทำให้เมดิเซเลส มั่นใจว่าจะเติบโตเช่นนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หากใครทราบดีจะรู้ข่าวในปี 2020 เมดิเซเลสเคยเจอวิกฤติหนักจากสงครามทางการค้า
จนทำให้บริษัทโดนระงับการจำหน่ายสินค้าหลัก ที่ทำรายได้ให้บริษัทถึง 90% เป็นเวลา 3 ปี
จนทำให้บริษัทโดนระงับการจำหน่ายสินค้าหลัก ที่ทำรายได้ให้บริษัทถึง 90% เป็นเวลา 3 ปี
ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนั้น ถ้ารากฐานของธุรกิจไม่แข็งแรง หรือผู้บริหารถอดใจไปก่อนก็อาจจะทำให้ธุรกิจล้ม
แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารหญิง 2 ท่านที่เป็นผู้นำคนสำคัญขององค์กร
คือคุณวิภารัตน์ วูวงศ์ CEO ซึ่งดูแลในส่วนของภาพรวมและเป้าหมายขององค์กร และคุณอารียา วูวงศ์ COO ผู้ดูแลในส่วนกลยุทธ์การขายและการตลาด ก็สามารถยืนหยัด จนพลิกยอดขายให้กลับมาโตได้
คือคุณวิภารัตน์ วูวงศ์ CEO ซึ่งดูแลในส่วนของภาพรวมและเป้าหมายขององค์กร และคุณอารียา วูวงศ์ COO ผู้ดูแลในส่วนกลยุทธ์การขายและการตลาด ก็สามารถยืนหยัด จนพลิกยอดขายให้กลับมาโตได้
ลองมาดูกันว่าเมดิเซเลสทำอย่างไร ถึงดันบริษัทจากยอดขายเกือบติดลบ สู่เป้าหมาย 1,000 ล้านบาทในปีนี้
1. โตให้ไวแบบ Startup (Growth Hacking Strategies)
ว่ากันว่ายุคนี้ ธุรกิจไหนมี Data จะสามารถโตได้ไว เพราะรู้ใจลูกค้ามากกว่า
ซึ่งเมดิเซเลส ก็เก็บข้อมูลลูกค้าหลังบ้าน ทั้งจากการสอบถามจากลูกค้าโดยตรง ฟีดแบ็กที่ได้จากโซเชียลมีเดีย และทำงานวิจัย
นำมาวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจและทำการตลาดเชิงรุก เนื่องด้วยวิกฤติธุรกิจที่ผ่านมา ทำให้เมดิเซเลส ต้องรีบดันยอดขายสินค้ารอง ให้สามารถหล่อเลี้ยงบริษัทได้
นอกจากนั้นยังมีแนวคิดการตลาดเชิงสร้างสรรค์
เช่น การนำแบรนด์ในเครือไปคอลแลบแบรนด์อื่น อย่างการคอลแลบกับ Guss Damn Good แบรนด์คราฟต์ไอศกรีม ออกมาเป็นไอศกรีมรสชาติ “You Are So Beautiful และ I Miss You” รวมถึงสร้างแคมเปญการตลาดร่วมกับ Grab
ด้วยกลยุทธ์นี้ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่และวัยทำงานได้มากขึ้น จนยอดขายเติบโตมากถึง 346% จากปี 2021
2. สร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าที่เคยมีปัญหาแบบเร่งด่วน (Re-Launching Strategies)
แม้จะมีฮีโรโปรดักต์ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในใจลูกค้า ที่ได้คุณซน เย จิน นักแสดงคุณแม่ยังสาว นั่งแท่นเป็นพรีเซนเตอร์
แต่หากวันหนึ่งที่สินค้าหายไปจากตลาดนานถึง 3 ปี ก็ยากที่จะกลับมาครองใจลูกค้าดังเดิม
ซึ่งเมดิเซเลส ก็เพิ่มความเชื่อมั่นกับแบรนด์ให้กลับมา โดยการดึงพรีเซนเตอร์ระดับประเทศ อย่างคุณแต้ว-ณฐพร และคุณนนกุล-ชานน มาเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของแบรนด์ และติดป้ายโฆษณาทั่วกรุงเทพฯ ผ่านการโฆษณาบนรถไฟฟ้า และจอ LED ในตึกออฟฟิศทั้งหมด
รวมถึงการจัดโปรโมชันใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่กว่า 50 แคมเปญ และเรียกให้ลูกค้าเก่ากลับมาสนใจ และยังทำ Brand Collaboration โดยเข้าร่วมกับ Grab เพื่อให้เข้าถึงคนยุคใหม่มากขึ้น
ซึ่งด้วยกลยุทธ์นี้ เมดิเซเลสสามารถดันยอดขายให้โตถึง 200% ภายใน 1 ปี
3. บริหารธุรกิจด้วยคนรุ่นใหม่ (Young-Gen Teamwork Management)
เมดิเซเลส ขับเคลื่อนด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนมากอายุน้อยกว่า 30 ปี จึงเหมือนสถานที่ที่เปิดกว้างให้พนักงานได้ลองผิดลองถูก
โดยบริษัทก็เปิดรับไอเดียใหม่ ๆ และพร้อมสนับสนุนให้ทีมงานนำข้อมูลมาปรับใช้ในการพัฒนาการตลาดและแคมเปญใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับลูกค้ามากขึ้น
4. พัฒนาระบบ CRM (Loyalty Customers Strategies)
เมดิเซเลสถือเป็นเจ้าแรกที่ให้ความสำคัญกับระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management
โดยบริษัทได้ลงทุนกับการสร้างระบบ CRM หลายล้านบาทเพื่อสร้างฐานลูกค้าที่ยั่งยืน และช่วยทำให้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดี
ตอนนี้ เมดิเซเลส เป็นบริษัทด้านความงามของคนไทยเจ้าแรก ที่กำลังจะก้าวสู่บริษัทรายได้ 1,000 ล้านบาท
ด้วยความมุ่งมั่นของ 2 ผู้บริหารหญิงมากความสามารถ ที่ตั้งใจจะเป็นบริษัทชั้นนำของคนไทยในด้านยาและเวชภัณฑ์ความงาม และตั้งเป้าจะเติบโตอีก 25% ในปี 2025
ซึ่งด้วยกลยุทธ์ทั้งหมด พร้อมกับทีมงานที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าเป้าหมายในการเติบโตในปีถัดไป
จนถึงเป้าหมายในการสร้างยอดขายทะลุ 3,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
จนถึงเป้าหมายในการสร้างยอดขายทะลุ 3,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
Tag:Medyceles