หุ้น Prada +8% โตแรง แม้ตลาด Luxury ทั่วโลก เริ่มซบเซา /โดย ลงทุนเกิร์ล

Prada Group บริษัทแบรนด์หรู เจ้าของ Prada และ Miu Miu ได้ประกาศผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2024

บริษัทมีรายได้ 140,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%

หากเจาะรายได้แยกตามภูมิภาค จะพบว่ามีการเติบโตเป็นเลขสองหลักในแทบทุกตลาด

ญี่ปุ่น +53%, ตะวันออกกลาง +24%, ยุโรป +18%, เอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) +12%, อเมริกา +8%

อีกไฮไลต์คือ รายได้จาก Miu Miu ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

รายได้ 9 เดือนแรกปี 2024 เติบโต 97% หากเทียบกับ 9 เดือนแรกปี 2023
และเติบโต 105% หากเทียบไตรมาสที่ 3 ปี 2024 นี้ กับไตรมาสที่ 3 ปี 2023

จะเห็นได้ว่า ข่าวดีของ Prada ที่ทำให้ราคาหุ้นของบริษัท วันนี้ปรับตัวขึ้น +8%

เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมแบรนด์หรูกําลังเผชิญกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น

LVMH อาณาจักรแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ในไตรมาส 3 ปี 2024 บริษัทมีรายได้ลดลง 3%

โดยกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง มีรายได้ลดลง 5% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี และต่ำกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดไว้

Kering บริษัทแม่ของ Gucci, Balenciaga และ Saint Laurent ที่ไตรมาสล่าสุดนี้ รายได้ลดลง 16%

โดยเฉพาะ Gucci แบรนด์ที่สร้างยอดขายเกือบครึ่งหนึ่งให้กับบริษัท ก็มีรายได้ลดลง 25%

ขณะที่ Hermès แม้ในไตรมาส 3 ปี 2024 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 11.3% แต่ก็ยังเห็นถึงการชะลอตัวของยอดขายในจีน

ส่วน Chanel ไม่มีการประกาศงบรายไตรมาส แต่ล่าสุดผู้บริหารของ Chanel ได้ออกมาเผยว่า Chanel กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้น จากความอิ่มตัวและ “Luxury Fatigue” หรือความเหนื่อยล้าจากความหรูหรา

อีกทั้งระบุว่าปี 2025 และปี 2026 จะเป็นปีที่ “ซับซ้อน” สำหรับอุตสาหกรรมแบรนด์หรู
หลังจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาเป็นเวลา 3 ปี

เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้กำลังประสบปัญหาจากความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากจีน ท่ามกลางวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีนและอัตราการว่างงานของเยาวชนในประเทศจีน..

References:
-เอกสารงบการเงินบริษัท Prada Group, LVMH, Kering และ Hermès
-https://fortune.com/europe/2024/10/29/china-fashion-empires-chanel-lvmh-luxury-fatigue/