เบื้องหลังความพิเศษ Speedmaster 38 มม. จาก OMEGA ที่โดนใจคนรักนาฬิกา ที่ชอบการลงทุน
Fashion

เบื้องหลังความพิเศษ Speedmaster 38 มม. จาก OMEGA ที่โดนใจคนรักนาฬิกา ที่ชอบการลงทุน

27 พ.ค. 2024
OMEGA x ลงทุนเกิร์ล
ใครที่เป็นสาวกของ OMEGA แบรนด์นาฬิกา สัญชาติสวิส ที่มีอายุกว่า 170 ปี
คงรู้จักคอลเลกชัน OMEGA Speedmaster 38 มม. ที่เผยโฉมครั้งแรกในปี 2017 มาพร้อมสัมผัสแห่งความหรูหราผ่านตัวตนของนาฬิกาโครโนกราฟ เป็นอย่างดี
มาถึงวันนี้ OMEGA ได้มีการขยายคอลเลกชัน Speedmaster 38 มม. เพิ่มเติมถึง 8 รุ่น ที่ต้องบอกว่าพิเศษและชวนให้น่าจับจองเป็นเจ้าของกว่าเดิม
แล้วการขยายคอลเลกชัน Speedmaster 38 มม. มีไฮไลต์อะไรที่น่าสนใจ
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะผ่านตา Speedmaster 38 มม. คอลเลกชันใหม่
ที่เฉิดฉายบนข้อมือของสามสาวแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ OMEGA อย่างไกอา เกอร์เบอร์, ฮันโซฮี และหลิว ซือซือ มาแล้วใน Ad แคมเปญล่าสุด
แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ยลโฉม Speedmaster 38 มม. คอลเลกชันใหม่
หรือไม่แน่ใจว่า ใช่หรือเปล่า เพราะสังเกตว่ามีรายละเอียดบางอย่างที่แปลกตาไป
เฉลยให้หายข้องใจตรงนี้เลยว่า ในปีนี้ OMEGA ได้ขยายคอลเลกชันด้วยนาฬิกาใหม่ถึง 8 รุ่น ประกอบด้วย
- Speedmaster 38 มม. 2 รุ่น ที่ถูกรังสรรค์ด้วยวัสดุทอง Sedna™ 18K ของ OMEGA
- Speedmaster 38 มม. 2 รุ่น ที่รังสรรค์ด้วยวัสดุทอง Moonshine™ 18K
- Speedmaster 38 มม. 4 รุ่น ที่ผลิตด้วยวัสดุสเตนเลสสตีลสุดคลาสสิก
ที่สำคัญ ยังมาพร้อมกับตัวเรือนที่ขัดเงา และขอบตัวเรือนที่ส่องประกายด้วยเพชรประมาณ 1.5 กะรัต
เสริมความโดดเด่นด้วยหน้าปัด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาในอดีต
เช่น หน้าปัดสีเขียวบนนาฬิกา Moonwatch ขนาด 42 มม. สำหรับนาฬิกาที่รังสรรค์จากทอง Moonshine™ กับหน้าปัดสีน้ำตาลของ De Ville Chocolate ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะเพิ่มเติมความหรูหราให้กับเรือนเวลา
แต่ทางแบรนด์ ก็ยังรักษาเอกลักษณ์ของ Speedmaster 38 มม. ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมและมรดกที่สั่งสมมาของโครโนกราฟระดับไอคอนิก
ทีนี้ลองมาดูกันบ้างว่า รายละเอียดแต่ละรุ่นมีความน่าสนใจอย่างไร
เริ่มจากรุ่นที่ผลิตจากทอง Sedna™ 18K มาพร้อมกับหน้าปัดเคลือบ PVD สีน้ำตาล กับหน้าปัดย่อยทรงรีแนวระดับที่เคลือบด้วยสีเงิน
ชุดเข็มชั่วโมง/นาทีผลิตจากทอง Sedna™ 18K ที่ขัดแบบไดมอนด์บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาวที่เรืองแสงสีเขียว
หนึ่งรุ่นจะนำเสนอพร้อมสายนาฬิกาทอง Sedna™ 18K ขัดเงาสลับด้าน พร้อมกับระบบปรับสายแบบ comfort release สิทธิบัตรของ OMEGA
อีกรุ่นมาพร้อมกับสายหนังสีน้ำตาลพร้อมหัวสายแบบบานพับทอง Sedna™ 18K
ส่วนเรือนเวลาทอง Moonshine™ 18K ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าปัดเคลือบ PVD สีเขียว
ที่ประกอบด้วยหน้าปัดย่อยทรงรีแนวระดับ พร้อมเคลือบด้วยสีเงิน กับหน้าต่างวันที่ทรงรีแนวดิ่งที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
ชุดเข็มชั่วโมง/นาทีรังสรรค์จากทอง Moonshine™ 18K ขัดเงาแบบไดมอนด์และบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาวที่เรืองแสงสีเขียว
สามารถเลือกได้ทั้งสายนาฬิกาทอง Moonshine™ 18K ขัดเงาสลับด้านที่มาพร้อมกับระบบปรับสายแบบ comfort release สิทธิบัตรของ OMEGA หรือสายหนังสีเขียวพร้อมหัวสายแบบบานพับจากทอง Moonshine™ 18K
มาถึงอีก 4 รุ่น ผลิตด้วยวัสดุสเตนเลสสตีลสุดคลาสสิก ประกอบด้วยหน้าปัด PVD สีน้ำตาลกับสีเขียว
หน้าปัดย่อยทรงรีแนวระดับที่เคลือบด้วยสีเงิน หน้าต่างวันที่แนวดิ่งที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
รวมถึงชุดเข็มชั่วโมง/นาทีชุบโรเดียมขัดเงาแบบไดมอนด์ที่บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว
สำหรับสายนาฬิกา สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นระบบปรับสายแบบ comfort release สิทธิบัตรของ OMEGA
หรือสายหนังที่เข้าคู่กันกับหัวสายแบบบานพับจากสเตนเลสสตีล
ทั้งนี้นาฬิกา​ทุกรุ่น จะถูกติดตั้งด้วยฝาหลังขันเกลียว ประดับด้วยเหรียญม้าน้ำ
อันแสดงถึงความยกย่องให้กับประวัติศาสตร์อันโดดเด่นของ Speedmaster 38 มม.
มาพร้อมกลไก OMEGA Co-Axial Calibre 3330 ซึ่งเป็นกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติ
ที่ใช้คอลัมน์วีล ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial และบาลานซ์สปริงแบบอิสระที่ติดตั้งด้วยซิลิคอนบาลานซ์สปริง
เรียกได้ว่า การขยายคอลเลกชัน Speedmaster 38 มม. ของ OMEGA ครั้งนี้
นอกจากจะสร้างสีสันใหม่ให้กับวงการ ยังทำให้คนรักนาฬิกาอดใจไม่ไหว มีความเป็นยูนิเซ็กซ์ สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ดังนั้น ไม่ว่าจะซื้อเพื่อใส่วันนี้ ก็คุ้มค่า หรือจะซื้อเก็บเป็นมรดก เพื่อส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ก็น่าสนใจ​
เพราะอย่างที่รู้ว่า นาฬิกาเป็นหนึ่งในสินค้าไม่กี่ประเภท ที่นอกจากจะให้ความสุขทางใจ จากการได้เป็นเจ้าของแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ในแง่ของการลงทุน ​
เพราะโดยปกติแล้ว บรรดาแบรนด์ลักชัวรี ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์กระเป๋าหรือนาฬิกาหรู มักจะมีการปรับราคาให้สูงขึ้นทุกปีอยู่แล้ว
โดยสาเหตุในการปรับขึ้นราคาก็มาจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น, วัสดุคุณภาพที่หายาก, อัตราเงินเฟ้อ ไปจนถึงอัตราแลกเปลี่ยน
อย่าง OMEGA ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ทรงคุณค่า
เพราะด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของแบรนด์ที่ยาวนาน และน่าเชื่อถือ บวกกับผลงานการสร้างสรรค์เรือนเวลา ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความประณีต ผสานกับคุณสมบัติด้านการใช้งานอันโดดเด่น
จึงทำให้ OMEGA ไม่เพียงตอบโจทย์ครบทั้งในเชิง Functional และ Emotional
โดยในแต่ละปี ราคาแต่ละคอลเลกชัน จะมีการปรับขึ้นประมาณ 4-7% ต่อปี
(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละปีด้วย)
เปรียบเทียบให้เห็นภาพตามง่าย ๆ ว่า ถ้าของชิ้นนั้น เราเคยซื้อได้ในราคา 100 บาท
เมื่อเวลาผ่านไป ก็อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเป็น 104-107 บาท เพื่อเป็นเจ้าของสิ่งนั้น
ดังนั้น สำหรับใครที่ชอบนาฬิกาแบรนด์หรู ถ้าเลือกถูกรุ่น ซื้อถูกจังหวะ
มีแต่ได้กำไรเห็น ๆ เพราะ ถ้าใส่เบื่อแล้ว ก็สามารถนำไปขายต่อ (Reselling)
อย่างน้อย ถ้าราคาไม่ได้ขึ้น ก็ถือว่าเป็นกำไรที่ได้ใส่
แต่ถ้าโชคดี ราคานาฬิกาขึ้น ก็ได้กำไรงาม ๆ มาเป็นโบนัส
สุดท้ายแล้ว มีแต่คุ้มกับคุ้ม
ดังนั้น สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดเป็นเจ้าของเรือนเวลาที่เลอค่าเช่นนี้
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูติก OMEGA สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 02-160-5959 สาขาสยามพารากอน โทร. 02-129-4878 สาขา เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า โทร. 076-510-818 หรือ LINE OA: @OMEGAThailand
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.