Business
Samyang หุ้นบวก 30% ผลประกอบการโตแรง หลัง Cardi B โชว์กินรามยอน
20 พ.ค. 2024
Samyang หุ้นบวก 30% ผลประกอบการโตแรง หลัง Cardi B โชว์กินรามยอน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ล่าสุด หุ้น Samyang บริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี ดีดขึ้น 30% ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
และมีมูลค่าบริษัทแซงหน้าคู่แข่งอย่าง NongShim เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
และมีมูลค่าบริษัทแซงหน้าคู่แข่งอย่าง NongShim เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024
ผลปรากฏว่าบริษัทมีผลประกอบการโตแรงเกินขาด
ผลปรากฏว่าบริษัทมีผลประกอบการโตแรงเกินขาด
โดยเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายในสหรัฐอเมริกาและจีน
ที่น่าสนใจคือ รายรับในไตรมาสแรกของบริษัท Samyang America Inc. ในสหรัฐฯ ยังพุ่งขึ้น 209.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ท่ามกลางกระแสไวรัลของรามยอน Buldak Carbonara บนโซเชียลมีเดีย
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง Cardi B ได้โพสต์คลิปสั้นโชว์กินรามยอนชนิดนี้ และบรรยายว่าเธอใช้เวลาขับรถ ตามหาสิ่งนี้นานถึง 30 นาที ก็ยิ่งจุดกระแสความสนใจของผู้คน
และถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความนิยมของ Buldak Carbonara ได้เป็นอย่างดีว่าแม้จะมีวางขายตามเชนค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Amazon, Walmart, Costco หรือแม้จะเป็นคนดังก็ยังหาซื้อได้ยาก..
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Samyang
Samyang หรือที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Samyang Foods คือ บริษัทเกาหลี “แห่งแรก” ที่เริ่มผลิตรามยอน และยังเป็นผู้บุกเบิกที่ทำให้รามยอน กลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของชาวเกาหลี จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือ จุดเริ่มต้นของรามยอนนั้น
เกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับ Samyang
เกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับ Samyang
โดยเมื่อปี 1961 Samyang ได้เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นอย่างเป็นทางการ
ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงหลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุดได้เพียง 8 ปี และเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องรัดเข็มขัด
เนื่องจากเกาหลีใต้ ต้องเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจ และยังขาดแคลนอาหารหลัก อย่างเช่นข้าวและธัญพืช
ดังนั้น Samyang ที่มองเห็นปัญหาตรงนี้ จึงเริ่มกลับมาทบทวนว่าพอจะมีสินค้าอะไร ที่จะมาแก้ปัญหานี้ได้บ้าง
ในที่สุด ปี 1963 Samyang ก็ได้ผลิตสินค้า ที่สามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างการขาดแคลนอาหารในประเทศได้สำเร็จ
ซึ่งก็คือ “Samyang Ramen” และถือเป็น “รามยอนแบรนด์แรก” ของเกาหลีใต้
ซึ่งก็คือ “Samyang Ramen” และถือเป็น “รามยอนแบรนด์แรก” ของเกาหลีใต้
ด้วยความที่รามยอนเป็นสินค้าราคาถูก เก็บได้นาน และสามารถทานได้ง่าย จึงได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีอย่างรวดเร็ว
และรามยอนยังกลายเป็น “อาหารหลัก อันดับที่สอง” ของชาวเกาหลีใต้ในสมัยนั้นอีกด้วย
ซึ่งหลังจากที่เกาหลีใต้หลุดพ้นจากปัญหาความอดอยากแล้ว เศรษฐกิจก็กำลังเติบโตไปได้ดี และเกาหลีใต้เริ่มกลายเป็นประเทศที่สามารถพึ่งพาตัวเองในการผลิตอาหารได้แล้วบางส่วน
Samyang ก็เริ่มพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น
จากเดิมที่มีเป้าหมาย เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนอาหาร
ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นการ “เพิ่มคุณภาพ” ในอาหารแทน
จากเดิมที่มีเป้าหมาย เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนอาหาร
ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นการ “เพิ่มคุณภาพ” ในอาหารแทน
เริ่มจากการสร้างฟาร์ม Samyang Daegwallyeong
สำหรับการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อนำมาทำน้ำซุปรามยอน
และเลี้ยงโคนมที่เหมาะกับการนำมาผลิตสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส, โยเกิร์ต, นมสด
สำหรับการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อนำมาทำน้ำซุปรามยอน
และเลี้ยงโคนมที่เหมาะกับการนำมาผลิตสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส, โยเกิร์ต, นมสด
ต่อมาในปี 2016 ชื่อของ Samyang ก็ได้กลับมาโด่งดังอีกครั้ง จากสินค้าในกลุ่ม “Buldak Ramen” หรือ “รามยอนไก่เผ็ด” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ด ชนิดที่ว่า ทั้งแสบทั้งร้อน จนต้องปาดเหงื่อ
ซึ่งจริง ๆ แล้ว รามยอนไก่เผ็ด เริ่มผลิตและวางขายตั้งแต่ในปี 2012
โดยตอนแรก แผนของบริษัทก็คือ การผลิตรามยอนรสเผ็ดจัดจ้านนี้ เพื่อให้กับกลุ่มลูกค้าในเกาหลี ที่ชื่นชอบรสเผ็ดแบบสุดโต่ง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างเล็กมาก
โดยตอนแรก แผนของบริษัทก็คือ การผลิตรามยอนรสเผ็ดจัดจ้านนี้ เพื่อให้กับกลุ่มลูกค้าในเกาหลี ที่ชื่นชอบรสเผ็ดแบบสุดโต่ง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างเล็กมาก
แต่อยู่ดี ๆ ในปี 2016 รามยอนไก่เผ็ด กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
โดยเฉพาะในประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยเฉพาะในประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สาเหตุก็เพราะว่า รามยอนไก่เผ็ด ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ เนื่องจากเหล่ายูทูบเบอร์ พากันทำคลิปท้าพิสูจน์ความเผ็ด ที่เมื่อทานไปแล้วเหงื่อตก ปากเจ่อไปตาม ๆ กัน
เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมหลาย ๆ คน อยากจะซื้อมาลองทานเองบ้าง ว่าจะเผ็ดสมคำร่ำลือแค่ไหน
ซึ่งนี่ได้กลายเป็นการโฆษณาอย่างดีให้กับบริษัท
ซึ่งนี่ได้กลายเป็นการโฆษณาอย่างดีให้กับบริษัท
และจากกระแสที่ร้อนแรงนี้ ส่งผลให้ในปี 2017 เพียงปีเดียว Samyang สามารถขายรามยอนไก่เผ็ด ไปได้กว่า 400 ล้านซองเลยทีเดียว
แล้วช่วงที่ผ่านมา ผลประกอบการของ Samyang เป็นอย่างไรบ้าง?
ปี 2021 มีรายได้ 17,120 ล้านบาท กำไร 1,503 ล้านบาท
ปี 2022 มีรายได้ 24,241 ล้านบาท กำไร 2,128 ล้านบาท
ปี 2023 มีรายได้ 31,811 ล้านบาท กำไร 3,366 ล้านบาท
ปี 2022 มีรายได้ 24,241 ล้านบาท กำไร 2,128 ล้านบาท
ปี 2023 มีรายได้ 31,811 ล้านบาท กำไร 3,366 ล้านบาท
นี่หมายความว่า 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ Samyang เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 36.3%
และกำไรเติบโตเฉลี่ย 49.7%
และกำไรเติบโตเฉลี่ย 49.7%
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ เราคงจะเห็นแล้วว่า ความสำเร็จของบริษัท Samyang คือ การมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ แล้วจึงผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการนั้น
ซึ่งใครจะคิดว่า สินค้าธรรมดา ๆ อย่างรามยอน
จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกาหลี จวบจนถึงทุกวันนี้..
จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกาหลี จวบจนถึงทุกวันนี้..
References:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-05-17/spicy-noodles-featured-by-cardi-b-spur-30-surge-in-korean-stock
-https://www.kedglobal.com/korean-stock-market/newsView/ked202405170017
-https://www.foodnavigator-asia.com/Article/2019/02/28/
-https://www.samyangfoods.com/eng/information/company/index.do
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-05-17/spicy-noodles-featured-by-cardi-b-spur-30-surge-in-korean-stock
-https://www.kedglobal.com/korean-stock-market/newsView/ked202405170017
-https://www.foodnavigator-asia.com/Article/2019/02/28/
-https://www.samyangfoods.com/eng/information/company/index.do