ยอดชา x ลงทุนเกิร์ล

ใครที่เป็นสายชอบดื่มชาหรือชอบเช็กอินคาเฟ
อาจจะคุ้นหูกับแบรนด์ยอดชา หรือ เคยมีโอกาสไปเช็กอินยอดชาคาเฟ คาเฟชาเขียวจากเชียงใหม่แท้ ๆ

หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ยอดชาเป็นโรงอบชามากว่า 70 ปีแล้ว
ในอดีตยังไม่มีชื่อแบรนด์เป็นของตัวเอง เพราะรับหน้าที่ผลิตชาให้กับแบรนด์ต่าง ๆ และคาเฟดัง ๆ มากมาย จนกระทั่งตัดสินใจสร้างแบรนด์ของตัวเอง ก็ติดอันดับแบรนด์ชายอดฮิต ที่ขายดีในห้างแม็คโคร, โก โฮลเซลล์, ท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนร้านยี่ปั๊วเจ้าใหญ่ ๆ ของตลาดไทย รวมถึงมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ

นอกจากนี้แบรนด์ยอดชา ยังเป็นเจ้าของยอดชาคาเฟ ที่เปิดตัวมาไม่ทันไรก็กระแสปังสุด ๆ จนต้องยอมเปิดแฟรนไชส์ เพราะทนกระแสเรียกร้องไม่ไหว
ซึ่งผลปรากฏว่า ปังไม่แพ้ตอนทำร้านเอง​

หลังจากเปิดรับแฟรนไชส์ ได้เพียง 6 เดือน ก็ขยายสาขาไปแล้วกว่า 20 สาขา
และยังมีส่วนที่รอพิจารณาอยู่อีกกว่า 30 สาขา
ซึ่งหากผ่านการพิจารณาทั้งหมด เท่ากับ ยอดชาคาเฟ จะมี 50 สาขาในเวลาไม่ถึง 1 ปี

แบรนด์ยอดชา น่าสนใจอย่างไร
ทำไมใคร ๆ ถึงอยากเปิดแฟรนไชส์คาเฟ
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ยอดชาเป็นโรงอบชาที่มีประสบการณ์กว่า 70 ปี
โดดเด่นด้วยผลผลิตชา ที่สดจากภูเขาสูงเชียงใหม่ ส่งถึงผู้ประกอบการคาเฟทั่วประเทศ ผ่านร้านตัวแทนจําหน่ายปลีก-ส่ง ร้านเบเกอรีรวมถึงห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ

จากกระแสตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ยอดชา ตัดสินใจขยายมาสู่ธุรกิจคาเฟ
ประเดิมด้วยการเปิด “​YODCHA CAFE เชียงใหม่ ออริจินอล” สาขาแรกที่เมเจอร์รัชโยธิน

ด้วยความตั้งใจว่า อยากให้ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทําเครื่องดื่มพรีเมียมสําหรับผู้ประกอบการได้เข้ามาดูกรรมวิธีการสกัดชา-กาแฟแบบเชียงใหม่แท้ ๆ เพื่อนําไปต่อยอด

ผลปรากฏว่า YODCHA CAFE กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้า จากเมนูยอดฮิตที่เป็นซิกเนเชอร์มากมาย
จนเกิดกระแสบอกต่อปากต่อปาก และมีเสียงเรียกร้องให้เปิดรับแฟรนไชส์.
“YODCHA CAFE เชียงใหม่ ออริจินอล” แฟรนไชส์จึงเกิดขึ้น และเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่ได้มีการทำการตลาด

ถ้าให้ลองวิเคราะห์เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้แฟรนไชส์ ของ “YODCHA CAFE เชียงใหม่ ออริจินอล” เนื้อหอม เหตุผลก็น่าจะมาจาก

1. ระบบการคัดสรรพาร์ตเนอร์อย่างละเอียด
ยอดชาคาเฟ ไม่ได้เปิดรับทุกคนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ แต่จะรับเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเท่านั้น
โดยเฉพาะทัศนคติของการเป็นเจ้าของกิจการ เคารพกฎกติกาของแบรนด์
ที่สำคัญ คือ มีใจรักในการดื่มชาและวัฒนธรรมเชียงใหม่เท่านั้น

เพราะเชื่อว่า การขายหน้าร้านจะต้องมาจากใจ การเลือกผู้ประกอบการที่ไม่เพียงมีทุนทรัพย์
แต่ยังมีความเข้าใจในธุรกิจ และแบ่งปันวิสัยทัศน์เดียวกัน จึงถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ

2. สตอรีแบรนด์ที่มาจากเรื่องจริง
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ยอดชา มาจากคุณประยงค์ ผู้ก่อตั้ง
ในอดีตจะใช้วิธีอบใบชาแบบดั้งเดิม จากเตาอบดินเผา ที่สร้างโดยช่างฝีมือท้องถิ่น ผสมผสานกลิ่นหอมแห่งธรรมชาติ

โดยโรงอบของยอดชาจะตั้งอยู่ใจกลางสวนลำไย ที่จังหวัดเชียงใหม่
ทุกครั้งที่เปิดเตาอบ กลิ่นใบชาและดอกลำไยจะหอมไปทั่วบริเวณ

มาถึงปัจจุบัน แม้การอบดินเผาดั้งเดิม จะเปลี่ยนมาเป็นเครื่องจักรสมัยใหม่
แต่ยังคงรักษาหลักการและการดิไซน์เดิม เพื่อเลียนแบบการอบเตาดินเผาแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน
การเชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์และนวัตกรรมไว้ ทำให้ชาเขียวเชียงใหม่ของยอดชา ไม่เพียงมีความลึกซึ้งในรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นไปยังตลาดโลก

ที่สำคัญยังทำให้ชาตรายอดชา มีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืน

3. โมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นและมั่นคง
หนึ่งในหลักการบริหารที่ยอดชาคาเฟแฟรนไชส์ให้ความสำคัญ คือ การสร้างโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น แต่ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพสูง

โดยจะมีทีมงานให้คำแนะนำ และการสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์ในทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบร้าน ไปจนถึงการบริหารจัดการสต็อก และการฝึกอบรมพนักงาน

และเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจน ทุกสาขาจะสื่อสารการตลาดไปในทางเดียวกัน
หากเกิดปัญหาในแต่ละสาขา จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่ออกแบบมาเพื่อสาขานั้นเท่านั้น
เพราะมองว่า ปัญหาแต่ละสาขามาจากกลุ่มลูกค้าที่ต่างกัน

ดังนั้น การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ คิดหาทางออกขึ้นมาใหม่ เพื่อตอบโจทย์สาขานั้น ๆ ไปเลย
โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดแบบแผนแฟรนไชส์ดั้งเดิม ที่จะต้องทำทุกอย่างเหมือนกันทุกสาขา

4. การสื่อสารและการตลาด
แม้ว่ายอดชาคาเฟจะไม่ได้ใช้เงินมากมายในการทำโฆษณา แต่จะเน้นการสื่อสารและกลยุทธ์การตลาด ไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้า

ยอดชาคาเฟใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย ในการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ เมนูที่เป็นเอกลักษณ์
ซึ่งล้วนเป็นงานฝีมือ เป็นศิลปะของการชงชาแบบเชียงใหม่

ไม่ว่าจะเป็น เมนูชาไทยคั่วเข้มไฟแรง ที่ตอนนี้เป็นกระแสอย่างมาก หรือเมนูกาแฟที่คั่วสดใหม่สัปดาห์ต่อสัปดาห์ โดยใช้อะราบิกาจากเกษตรกรท้องถิ่นเชียงใหม่แท้ ๆ 100%

ด้วยส่วนผสมในองค์ความรู้ และการทำตลาดที่เข้าถึงลูกค้านี้เอง ทำให้แฟรนไชส์คาเฟยอดชา สามารถสร้างความแตกต่าง และยืนหยัดในตลาดที่แข่งขันสูงได้สำเร็จ

แม้ว่าในหลายสาขาสามารถเปิดใกล้ ๆ กับชาแบรนด์ดัง ก็ยังสามารถยืนหยัดและเติบโตได้พร้อมตัวเลขกำไรที่สวยงามและสูงขึ้นเรื่อย ๆ

5. นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการเติบโตทั้งในประเทศ และนอกประเทศ
อีกหนึ่งจุดแข็งของยอดชาคาเฟ คือ ไม่ได้มีเพียงแค่แฟรนไชส์ที่มีความยั่งยืน และประสบความสำเร็จในการขยายสาขาเท่านั้น
แต่ยังมีผลิตภัณฑ์ชาภายใต้ชื่อแบรนด์ของตัวเอง เพื่อเจาะกลุ่มร้านชากาแฟแบบรุ่นใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อแฟรนไชส์ อย่างเช่น

- นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชาเขียว ที่เป็นซิกเนเชอร์ของตรายอดชา
มีให้เลือก 2 แบบ คือ กรีนทีลาเต้ สีพาสเทล เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบถ่ายรูปในโทนพาสเทลละมุน หรูหรา และชาเขียวนมสูตรภัตตาคารโบราณที่มีความเข้มข้น

โดยกรีนทีลาเต้ที่มีสีพาสเทล ทำมาเพื่อร้านชากาแฟพรีเมียมระดับกลางไปถึงระดับบน
ส่วนในเรื่องรสชาติ ก็ได้รับการกล่าวถึงว่า มีรสชาติและสีสันสวยงาม ใกล้เคียงกับเมนูกรีนทีลาเต้ของร้านกาแฟชื่อดังระดับโลก

- ผลิตภัณฑ์ชาไทยที่หลากหลาย แบ่งการคั่วออกเป็นสามระดับ : คั่วเข้มไฟแรง, คั่วไฟปานกลาง และสูตรคลาสสิก โดยทั้งหมดเป็นชาจากเชียงใหม่ ทำโดยคนเชียงใหม่แท้ ๆ 100%

มาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่า อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้แฟรนไชส์ของยอดชาคาเฟ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และมั่นคงในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี

หลัก ๆ มาจาก รากฐานของแบรนด์ ที่โดดเด่นและมีนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง
ทำการตลาดแบบลงลึกรายละเอียดสำคัญ คล้ายกับการทอผ้าแบบเชียงใหม่ดั้งเดิม
ที่โฟกัสทุกลวดลายและเส้นใย ไม่ได้เน้นแค่แพ็กเกจจิงสวยงามล่อใจอย่างเดียว ​ ​

ทั้งหมดนี้ ทำให้แฟรนไชส์ของยอดชาคาเฟ ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำด้านชาเขียวและชาไทยเท่านั้น
แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง

ด้วยการเน้นย้ำคุณภาพ, นวัตกรรม และกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
ทำให้ชาตรายอดชา และยอดชาคาเฟได้สร้างฐานลูกค้าที่ภักดี และการขยายตัวที่ยั่งยืน นั่นเอง