Spirit Halloween ธุรกิจขายของฮาโลวีน เปิดปีละ 3 เดือน แต่กวาดรายได้หลักหมื่นล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล

จะเกิดอะไรขึ้น หากวันหนึ่งอาคารร้างแถวบ้านที่เราคุ้นเคย
จู่ ๆ ก็กลายเป็นร้านขายของฮาโลวีนในชั่วข้ามคืน ราวกับมีแม่มดเสกขึ้นมา

นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสหรัฐอเมริกา และร้านที่ว่าก็คือ “Spirit Halloween” เชนร้านขายสินค้าฮาโลวีน ที่นำอาคารร้างมาเนรมิตแล้วกว่า 1,525 แห่งทั่วประเทศ

เรื่องราวของ Spirit Halloween น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปในปี 1983 คุณ Joseph Marver ได้เปิดร้านขายเสื้อผ้าผู้หญิง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ระหว่างดำเนินธุรกิจอยู่นั้น คุณ Marver ก็สังเกตเห็นว่า ร้านขายสินค้าฮาโลวีนฝั่งตรงข้าม มีลูกค้ามาต่อแถวเข้าร้านเยอะมาก

และแล้ววันของเขาก็มาถึง เพราะจู่ ๆ ร้านนั้นก็ปิดตัวลง และย้ายไปทำธุรกิจที่อื่น คุณ Marver จึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าในร้านของเขาลงกระเป๋าให้หมด และหันมาขายสินค้าฮาโลวีนแทน

โดยยอดขายสินค้าฮาโลวีนของคุณ Marver เฉพาะเดือนตุลาคมในปีนั้น พุ่งสูงไปถึง 11 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่เขาเองไม่เคยทำได้มาก่อน

ด้วยผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณ Marver จึงเริ่มขยายกิจการ และตั้งชื่อร้านขายสินค้าฮาโลวีนนี้ว่า “Spirit Halloween” ที่เปิดในรูปแบบ Pop-Up Store จนมีสาขามากกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ

ซึ่งธุรกิจ Spirit Halloween ก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และระหว่างนั้นก็มีคนติดต่อมาขอซื้อกิจการนี้จากคุณ Marver เป็นจำนวนมาก

จนในปี 1999 Spencer Gifts บริษัทขาย Gag gift หรือของเล่นตลก ๆ และแกดเจ็ตแปลกใหม่ ก็ได้ดีลธุรกิจนี้ไปในที่สุด

ต้องบอกว่า ตั้งแต่ Spirit Halloween ย้ายมาอยู่ในมือของ Spencer Gifts ธุรกิจก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี จาก 60 สาขา สู่ 1,525 สาขาในปัจจุบัน

แถมยังมีการวิเคราะห์กันว่า ปี 2023 ที่ผ่านมา Spirit Halloween กวาดรายได้ไปกว่า 37,000 ล้านบาท แม้ร้านจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม หรือแค่ 3 เดือนต่อปี เท่านั้น

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ร้านที่เปิดเพียงแค่ 3 เดือนต่อปี จะมีรายได้ขนาดนี้ได้อย่างไร ?
งั้นเราลองมาดูโมเดลของธุรกิจนี้กันทีละข้อ

ต้นทุนสถานที่

Spirit Halloween เป็นธุรกิจ Seasonal หรือเรียกว่าขายได้เฉพาะช่วงเทศกาล ร้านส่วนใหญ่จึงเป็น Pop-Up Store ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ระยะยาวได้อย่างมาก

โดยทุก ๆ ปี ทีมงาน Spirit Halloween จะไปตระเวนหาอาคารร้าง ห้างเก่า หรือร้านค้าเก่าในท้องถิ่น ที่ตั้งอยู่ในทำเลดี ๆ หรืออยู่ใกล้ห้างใหญ่อย่าง Best Buy หรือ Target และนำมาเนรมิตให้เป็นร้าน Spirit Halloween ด้วยสัญญาเช่าระยะสั้น

แม้ในตอนแรกเจ้าของอาคารจะไม่พอใจกับสัญญาระยะสั้นนัก แต่ Spirit Halloween ก็ได้เสนอทางออกที่น่าสนใจ นั่นคือ หากมีผู้เช่าระยะยาวสนใจเข้ามาเช่า เขาก็ยินดีปล่อยอาคารนั้นไป

ดังนั้น สำหรับเจ้าของอาคารแล้ว แม้จะเป็นสัญญาระยะสั้น ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พื้นที่ว่างนั่นเอง

ค่าจ้างพนักงาน

เมื่อไม่มีร้านประจำ ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานประจำทั้งปี

ซึ่งทุก ๆ ปี Spirit Halloween จะเปิดรับพนักงานประมาณ​ 40,000 คน โดยให้เงินเดือนที่ต่อรองได้ แถมมี Incentive หรือ เงินรางวัลตอบแทน และส่วนลดสินค้าในร้าน 30% ให้พนักงานทุกคน

ที่น่าสนใจก็คือ หากพนักงานคนไหน เคยเป็นผู้จัดการร้านของ Spirit Halloween และกลับมาทำงานอีกครั้งในปีถัดไป ก็จะได้รับเงินเพิ่มหรือโบนัสเป็นพิเศษอีกด้วย

คนอเมริกันจริงจังกับเทศกาลฮาโลวีน

ว่ากันว่า คนอเมริกันจริงจังกับเทศกาลฮาโลวีนและคริสต์มาส คำพูดนี้คงจะจริง

เพราะมีการคาดการณ์ว่า ปีนี้จะมีการใช้จ่ายสำหรับเทศกาลฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา สูงถึง 400,000 ล้านบาท

ดังนั้น คงไม่แปลกใจ หาก Spirit Halloween ผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดสินค้าฮาโลวีนที่อยู่มานานกว่า 40 ปี จะสร้างรายได้หลักหมื่นล้านบาทได้ แม้จะเปิดร้านเพียงแค่ 3 เดือน

แม้ว่าในตอนนี้ Spirit Halloween จะเปิดเว็บไซต์เพื่อให้คนสามารถซื้อคอสตูม และของตกแต่งฮาโลวีนได้ตลอดทั้งปี

แต่ต้องยอมรับว่าการได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ซื้อของในร้านที่เป็นธีมฮาโลวีน เทศกาลที่มีเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้ง ก็เป็นเสน่ห์ที่การช็อปปิงออนไลน์ให้ไม่ได้

แถมล่าสุด ก็มีข่าวว่าพวกเขากำลังขยายธุรกิจไปสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย…

References:
-https://www.inc.com/bruce-crumley/spirit-halloween-celebrates-growth-with-christmas-store-expansion/90986570
-https://nrf.com/research-insights/holiday-data-and-trends/halloween
-https://www.businessinsider.com/the-rise-of-spirt-halloween-retail-apocalypse-photos-history-2021-10
-https://weirdmarketingtales.com/how-spirit-halloween-works-why-its-absolutely-brilliant/
-How Spirit Halloween Became a Titan of the $10 Billion Halloween Industry | WSJ The Economics Of โดย The Wall Street Journal