รู้จัก Polène แบรนด์กระเป๋าหนังจากฝรั่งเศส ที่ผู้ก่อตั้ง ได้แรงบันดาลใจมาจาก Hermès /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าพูดถึงแบรนด์กระเป๋าหนัง สัญชาติฝรั่งเศส หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อแบรนด์ “Polène” เท่าไร
เพราะ Polène ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่พึ่งก่อตั้งได้เพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น
ต่างจากแบรนด์เครื่องหนังหรูชื่อดังอื่น ๆ ที่มีประวัติความเป็นมา ยาวนานมากกว่า 100 ปี

ถึงจะเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่ในตอนนี้ Polène กำลังเป็นแบรนด์ที่มาแรง ทั้งในฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รวมถึงไทย
ซึ่งเหล่าติกต็อกเกอร์และยูทูบเบอร์หลายคน ต่างพากันออกมารีวิวกระเป๋าแบรนด์ Polène กันไม่ขาดสาย

แถมกระเเสความนิยมของแบรนด์ Polène ยังขยายไปไกลถึงแฟชั่นในราชวงศ์อังกฤษ อย่างคุณ Kate Middleton ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่เธอมักจะเลือกหยิบกระเป๋าของแบรนด์นี้ มาถือออกงานสำคัญอยู่บ่อยครั้ง

แล้วอะไรที่ทำให้แบรนด์กระเป๋าน้องใหม่อย่าง Polène ประสบความสำเร็จ และเป็นกระแสขึ้นมาได้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

หากจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Polène คงต้องย้อนกลับไปในปี 2014

เมื่อสามพี่น้องตระกูล Mothay ได้แก่ คุณ Mathieu, คุณ Antoine และคุณ Elsa มีโอกาสไปเยี่ยมชมเวิร์กช็อป การผลิตกระเป๋าหนังของแบรนด์หรูอย่าง Hermès ในประเทศสเปน

โดยระหว่างการเข้าชมงานเวิร์กช็อป ทั้งสามพี่น้องต่างพากันชื่นชมในความประณีต และความพิถีพิถัน ในทุกขั้นตอนของการผลิตกระเป๋าหนังแต่ละใบ จากช่างฝีมือของ Hermès เป็นอย่างมาก

ซึ่งจากความประทับใจในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาเกิดเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะสร้างแบรนด์กระเป๋าหนังร่วมกันเป็นของตนเองบ้าง

แต่ด้วยความที่ทั้งสามคน ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจ และการทำกระเป๋าหนัง มาก่อนเลย..
ทำให้พวกเขาต้องเริ่มต้นนับหนึ่ง ศึกษาตั้งแต่งานด้านแฟชั่น ทั้งการออกแบบ และการตัดเย็บกระเป๋าด้วยตนเอง ควบคู่ไปกับเรื่องการสร้างแบรนด์ และการตลาด

ซึ่งพวกเขาต้องใช้เวลาเรียนรู้งาน และคิดค้นต้นแบบกระเป๋า เป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่ง ก่อนที่จะมั่นใจในฝีมือ และเริ่มก่อตั้งแบรนด์ Polène ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในปี 2016

ส่วนชื่อแบรนด์ Polène นั้น ก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก ชื่อเรียกบ้านในชนบทของพวกเขา ที่ตั้งอยู่ในแคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม ทั้งสามผู้ก่อตั้ง ต่างรู้ดีว่า Polène ของพวกเขา เป็นแบรนด์กระเป๋าน้องใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาด
ดังนั้นวิธีเอาตัวรอด ท่ามกลางคู่แข่งแบรนด์ใหญ่ ๆ คือ ต้องคิดหาความแตกต่างหรือจุดเด่น ให้ตัวสินค้า

ซึ่งสิ่งที่ว่านั้น สำหรับแบรนด์ Polène ก็คือ การออกแบบสินค้าที่ดูเหนือกาลเวลา เรียบง่ายแต่กลับให้ลุคที่ดูหรู

โดยกระเป๋าของ Polène จะเน้นรูปทรงที่ดูโดดเด่น มีสัดส่วนโค้งเว้าเป็นลูกเล่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
และบางรุ่นยังสามารถพับปรับแต่งทรงกระเป๋าได้ คล้ายกับโอริกามิ หรือศิลปะการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น

มากไปกว่านั้น ด้วยคอนเซปต์ที่ดูเรียบง่าย ทำให้กระเป๋าของ Polène แต่ละใบ เน้นใช้สีเอิร์ทโทน ที่เลียนแบบมาจากสีของธรรมชาติรอบตัว และสามารถแมตช์กับเสื้อผ้าได้หลายสไตล์

นอกจากการออกแบบแล้ว Polène ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า และพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ของการผลิตกระเป๋า เช่นเดียวกับแบรนด์ Hermès ที่ทั้งสามผู้ก่อตั้ง ต่างชื่นชม

อย่างการตัดเย็บกระเป๋าทุกใบจะทำด้วยมือ โดยช่างฝีมือผู้มีความชำนาญงานเครื่องหนัง จากเมืองอูบริเก ในประเทศสเปน
โดยวัสดุหนังที่ใช้ทำ มาจากหนังลูกวัว ที่ผลิตมาจากโรงฟอกหนัง ในประเทศสเปนและอิตาลีโดยเฉพาะ

เพราะที่นี่ได้รับการรับรองระดับนานาชาติ จาก Leather Working Group ซึ่งการันตีได้ถึงมาตรฐานในการผลิตหนัง ที่เป็นมิตรต่อคน และยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม

และอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของ Polène คือ “ราคาที่จับต้องได้” เมื่อเทียบกับคุณภาพสินค้า

แม้รูปลักษณ์ของ Polène จะมีความหรูหรา และเป็นงานฝีมือที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง แต่กลับมีราคาที่ไม่สูงมาก
โดยกระเป๋าของ Polène มีราคาประมาณ 10,000 - 17,500 บาท ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นราคาที่ลูกค้าค่อนข้างเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับแบรนด์หรูอื่น ๆ

จากจุดเด่นทั้งงานดิไซน์กระเป๋าที่เรียบง่าย แต่ช่วยเสริมลุคผู้ถือให้ดูแพง รวมถึงความประณีตในการผลิต และราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยาก

ส่งผลให้กระเป๋าแบรนด์ Polène เป็นที่ถูกอกถูกใจสาว ๆ ทั้งอินฟลูเอนเซอร์และบล็อกเกอร์แฟชั่น จนเกิดการแนะนำแบบปากต่อปาก ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์

ทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์ เริ่มเป็นที่รู้จัก และกระจายไปไกลถึงลูกค้าระดับราชวงศ์ อย่างคุณ Kate Middleton ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่เธอเองยังไว้ใจในชื่อของ Polène และเลือกใช้กระเป๋าแบรนด์นี้ ออกงานอยู่บ่อย ๆ
ซึ่งการได้เห็น Polène อยู่บนแขนของคนที่มีชื่อเสียง ก็ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ไปด้วย

มากไปกว่านั้น กระเป๋าแบรนด์ Polène ยังได้ไปปรากฏตัวอยู่ในซีรีส์ชื่อดังบน Netflix อย่าง Emily in Paris ซีซัน 2 เคียงคู่กับความสดใสของนางเอกในเรื่อง ซึ่งถึงแม้เราอาจจะบอกไม่ได้ว่า เป็นการ Tie-in สินค้าหรือไม่

แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการโปรโมตสินค้าที่ดีมากวิธีหนึ่ง เพราะไม่ว่าใคร ก็คงเคยมีประสบการณ์ที่อยากจะถือกระเป๋า หรือใช้สินค้าแบบเดียวกันกับนางเอก Emily ที่ตนเองชื่นชอบ

โดยปัจจุบันแบรนด์ Polène มีหน้าร้านบูทีกอยู่เพียง 3 แห่งทั่วโลกเท่านั้น คือ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และล่าสุดได้ไปเปิดร้านที่ญี่ปุ่น เพื่อขยายฐานลูกค้าชาวเอเชีย ให้สามารถเข้าถึงแบรนด์ได้มากกว่าเดิม

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่า การที่แบรนด์ Polène ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี อาจมาจากการได้รับอานิสงส์ของกระแสบนสื่อโซเชียลมีเดีย และคนมีชื่อเสียงระดับโลก

แต่หากลองกลับไปดูเบื้องหลังของแบรนด์แล้ว เราก็จะพบว่า แท้จริงแล้วความสำเร็จทุกอย่างของ Polène ล้วนแลกมาด้วยความทุ่มเท และความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง ที่อยากจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากพวกเขาไม่มีความหลงใหลในสิ่งที่ทำ

และการได้ทำในสิ่งที่รักนี่แหละ คือจุดเริ่มต้นของหนทางสู่ความสำเร็จของ Polène..

References:
-https://www.scmp.com/magazines/style/fashion/trends/articl
-https://fashionista.com/2022/10/polene-paris-bag-brand-interview
-https://www.vogue.fr/mode/article/kate-middleton-sac-polene
-https://www.vogue.com.au/fashion/news/kate-middleton-polene
-https://www.afar.com/magazine/the-most-popular-handbag-in-paris
-https://www.purewow.com/fashion/polene-handbag-review
-https://nl.polene-paris.com/collections/all?sort_by=price-ascending&layout=small&p=5
-https://nl.polene-paris.com/pages/about-the-brand
-https://www.afar.com/magazine/the-most-popular-handbag-in-paris
-https://www.tatlerasia.com/style/fashion/polene-kate-middleton-handbag-brand-flagship-store-tokyo-japan-photos