กรณีศึกษา Khan Academy แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ที่ Bill Gates เลือกใช้สอนลูก
Business

กรณีศึกษา Khan Academy แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ที่ Bill Gates เลือกใช้สอนลูก

6 เม.ย. 2023
กรณีศึกษา Khan Academy แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ที่ Bill Gates เลือกใช้สอนลูก /โดย ลงทุนเกิร์ล
Khan Academy คือแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ สัญชาติอเมริกัน ที่มีสื่อการสอนในหลากหลายแขนงวิชา
ไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ การเงิน ไปจนถึงทักษะชีวิต
โดย Khan Academy มีปณิธานว่า “ต้องการให้ทุกคนบนโลก สามารถเข้าถึงเครื่องมือการศึกษาที่ฟรี และเท่าเทียมกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษาลง”
ซึ่งความตั้งใจนี้ ไม่ได้ตั้งไว้เพื่อขายฝัน เพราะหนึ่งในตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่า Khan Academy เป็นแหล่งเรียนรู้ฟรี ที่ช่วยสร้างโอกาสให้กับทุกคน
นั่นคือ กรณีเด็กสาวคนหนึ่งในอัฟกานิสถาน ที่เธอไม่สามารถไปโรงเรียนได้ เพราะถูกกลุ่มตาลีบัน กีดกันทางการศึกษา เธอจึงใช้ Khan Academy เพื่อเรียนหนังสือ จนในที่สุดก็สามารถสอบเข้าเรียนที่ Caltech ได้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีอย่างคุณ Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของ Khan Academy เช่นกัน โดยเขาใช้แพลตฟอร์มนี้ เพื่อเป็นตัวช่วยติวบทเรียนต่าง ๆ ให้กับลูก ๆ ก่อนที่ต่อมา เขาก็ได้กลายมาเป็น หนึ่งในผู้สนับสนุนเงินทุนหลักให้กับ Khan Academy
แล้วเรื่องราวของ Khan Academy มีที่มาอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นไอเดียของ Khan Academy เกิดขึ้นในปี 2004 หรือเมื่อ 19 ปีที่แล้ว
เมื่อผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Salman Khan ตอบตกลงที่จะช่วยสอนพิเศษให้กับคุณ Nadia ลูกพี่ลูกน้องของเขา ที่กำลังประสบปัญหาการเรียนวิชาพีชคณิต เนื่องจากเธอยังตามเนื้อหาในห้องเรียนไม่ทัน
ด้วยความที่ทั้งคู่อยู่กันคนละเมือง ทำให้ต้องใช้วิธีติวกันผ่านทางโทรศัพท์ โดยหลังจากการติวในครั้งนั้น นอกจากคุณ Nadia จะเข้าใจบทเรียนมากขึ้นแล้ว เธอยังรู้สึกประทับใจกับการสอนของคุณ Khan ที่เข้าใจง่ายมาก ๆ
เธอจึงนำความประทับใจนี้ ไปเล่าและบอกต่อให้กับญาติคนอื่นฟัง ทำให้ญาติ ๆ หลายคน ต่างมาร้องขอให้คุณ Khan ช่วยติวคณิตศาสตร์ให้
พอเป็นแบบนี้ คุณ Khan จึงตัดสินใจทำเป็นคลิปวิดีโอสอนและอัปโหลดลงบน YouTube แทน เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ที่สำคัญจะเปิดวนเพื่อทบทวนบทเรียนกี่รอบก็ได้
เวลาผ่านไป คลิปวิดีโอการสอนบน YouTube กลับไม่ได้มีแค่ญาติของคุณ Khan เท่านั้น ที่เข้ามาดู แต่ยังมีคนอื่น ๆ เข้ามาดูด้วย จนยอดวิวแต่ละคลิปที่สอน เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะหลักล้านวิว
นอกจากนี้ ทุกคนต่างก็เข้ามาคอมเมนต์ขอบคุณ คุณ Khan ที่ทำให้พวกเขาเข้าใจบทเรียนมากขึ้น
เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณ Khan เริ่มเห็นว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ มันสามารถปฏิวัติการศึกษาได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร จะอยู่ที่ใดในโลก ก็สามารถเรียน และหาความรู้กันได้
เขาจึงอยากหันมาทุ่มเทกับงานด้านการศึกษาอย่างเต็มตัว
ทำให้ในปี 2009 คุณ Khan ตัดสินใจลาออกจากงานที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ เพื่อมาก่อตั้ง Khan Academy โดยเขาตั้งใจจดทะเบียนบริษัท เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อให้สอดคล้องกับความตั้งใจ ที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ฟรี สำหรับทุกคนจากทุกที่
สำหรับ Khan Academy ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์ม เพื่อการเรียนออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการสอนแบบ Interactive Learning หรือการเรียนที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับผู้เรียน ผ่านแบบฝึกหัดและแบบทดสอบต่าง ๆ
เพื่อช่วยให้ครูหรืออาจารย์ สามารถติดตามความคืบหน้า และความเข้าใจของผู้เรียน รวมไปถึงปรับแต่งการสอนให้เหมาะสม ตามกลุ่มวิชาเป้าหมายได้ด้วย
ในส่วนของเนื้อหาที่สอน ก็มีหลากหลายวิชาอย่างที่พูดไว้ตอนต้น โดยมีการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไปจนถึงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในสหรัฐฯ เช่น SAT, LSAT, MCAT
ทีนี้หลายคนคงสงสัยว่า เมื่อ Khan Academy มีโมเดลเป็นธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไร แล้วจะนำเงินจากไหน มาลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม และบทเรียน ?
คำตอบคือ “เงินทุนอุดหนุนผ่านการบริจาค” แต่ต้องบอกว่าในช่วงแรกของการพัฒนา Khan Academy นั้น เงินทุนทั้งหมดมาจากเงินเก็บของคุณ Khan
จนในปี 2010 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ Khan Academy เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เมื่อคุณ Bill Gates ได้พูดถึงคุณ Khan และแพลตฟอร์มของเขา ในงาน Aspen Ideas Festival
โดยเหตุผลที่คุณ Bill Gates พูดถึง Khan Academy เนื่องจากลูกสาวของเขาใช้แพลตฟอร์มนี้ ในการทบทวนบทเรียนบ่อยมาก จนทำให้เขาเริ่มรู้สึกสนใจ นอกจากนี้เมื่อได้ฟังเรื่องราวของคุณ Khan กับความตั้งใจในการก่อตั้งแล้ว ยิ่งทำให้คุณ Bill Gates รู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีก
ซึ่งต่อมาคุณ Bill Gates ก็กลายมาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักให้กับ Khan Academy ผ่านมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ของเขาและอดีตภรรยา
เมื่อ Khan Academy ถูกมหาเศรษฐีระดับโลกพูดถึง และให้ความสนใจ ทำให้หลังจากนั้น เงินบริจาคก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ จากหลากหลายองค์กร เช่น Google, Adobe, Walt Disney, Bank of America
นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจชื่อดัง อย่างคุณ Reed Hastings ผู้ร่วมก่อตั้ง Netflix, คุณ Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ไปจนถึงคุณ Elon Musk ที่บริจาคเงินสนับสนุนให้กับ Khan Academy ด้วย
ซึ่งเหตุผลที่หลายคนต่างสนับสนุนใน Khan Academy เพราะส่วนใหญ่มองว่า Khan Academy คือเครื่องมือสำคัญที่กำลังช่วยขยายความหมายของการศึกษาที่เปิดกว้าง ให้ทุกคนได้เข้าถึงอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม Khan Academy ไม่ได้หวังพึ่งรายได้จากเงินอุดหนุนเท่านั้น เพราะปัจจุบันองค์กร ได้พยายามสร้างรูปแบบธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
เช่น Khan Lab School ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ที่เน้นให้ผู้เรียนค้นหาศักยภาพและความสนใจของตนเอง
หรือการร่วมมือกับ College Board ในการพัฒนารูปแบบโปรแกรม สำหรับการเตรียมสอบ SAT
โดยปัจจุบัน Khan Academy มีบทเรียนมากถึง 5,000 บทเรียน กลายเป็นห้องเรียนออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 135 ล้านคน กระจายอยู่ใน 190 ประเทศทั่วโลก
มาถึงตรงนี้ Khan Academy ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าชื่นชม เพราะต้องยอมรับว่าโลกของเรา ยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่ ซึ่ง Khan Academy มองเห็นจุดนี้และตั้งใจเข้ามา เพื่อเปลี่ยนแปลงให้การศึกษา เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าถึงได้ง่าย ฟรี และเท่าเทียม
เพราะพื้นฐานสำคัญ ที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ทุกคน มีความรู้ ความสามารถ เพื่อพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้ หนึ่งในนั้นก็คือ “การศึกษา” นั่นเอง..
-----------------------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
-----------------------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.