Business
รู้จัก แพลตฟอร์ม ที่ช่วยให้นักเขียนมีรายได้ ด้วยการตีพิมพ์หนังสือ ขายทั่วโลก
12 ม.ค. 2023
รู้จัก แพลตฟอร์ม ที่ช่วยให้นักเขียนมีรายได้ ด้วยการตีพิมพ์หนังสือ ขายทั่วโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล
จากการศึกษาของ Statista พบว่า เกือบ 1 ใน 5 ของคนอเมริกันมีงานอดิเรกคือ “การเขียน”
แต่จะดีแค่ไหน ถ้ากิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุข ช่วยเพิ่มรายได้ในกระเป๋าในระหว่างทางไปด้วย
โดยทุกวันนี้ เราสามารถตีพิมพ์งานเขียน อย่างรวดเร็วทันใจภายในไม่กี่นาที และเข้าถึงนักอ่านได้ทั่วโลก ผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “Kindle Direct Publishing”
แล้วโมเดลของ Kindle Direct Publishing น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Kindle Direct Publishing หรือ KDP เป็นแพลตฟอร์มภายใต้บริษัท Amazon ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2007
ซึ่ง KDP เปิดโอกาสให้คนทั่วไป สามารถนำงานเขียนของตนมาตีพิมพ์ได้ ทั้งในรูปแบบของหนังสือรูปเล่ม และแบบ E-Book
โดยหนังสือเหล่านี้จะถูกวางขายบนเว็บไซต์ Amazon เว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่น่าสนใจคือ เจ้าของผลงานยังได้รับค่าตอบแทน สูงสุดถึง 70% ของราคาขาย เลยทีเดียว
สำหรับขั้นตอนการใช้บริการ KDP
เริ่มจากกรอกข้อมูล, ตั้งราคา แล้วอัปโหลดไฟล์งานเขียนเข้าสู่ระบบ
เริ่มจากกรอกข้อมูล, ตั้งราคา แล้วอัปโหลดไฟล์งานเขียนเข้าสู่ระบบ
โดยเกณฑ์ของงานเขียน ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรมากนัก
เพียงแค่ความยาวของงานเขียน ต้องมีจำนวนอย่างน้อย 24 หน้า และเป็นหนึ่งใน 46 ภาษาที่ KDP รองรับเท่านั้น
ซึ่งก็น่าเสียดายที่ปัจจุบัน KDP ยังไม่รองรับภาษาไทย
ซึ่งก็น่าเสียดายที่ปัจจุบัน KDP ยังไม่รองรับภาษาไทย
หลังจาก อัปโหลดไฟล์งานเขียนของเราเข้าสู่ระบบ
ก็จะสามารถเลือกตีพิมพ์ได้ ทั้งในรูปแบบของหนังสือรูปเล่ม และ E-Book
ก็จะสามารถเลือกตีพิมพ์ได้ ทั้งในรูปแบบของหนังสือรูปเล่ม และ E-Book
โดยในส่วนนี้ KDP ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ ด้วย เช่น
-ออกแบบปกหนังสือ
-พิสูจน์อักษร
-จัดหน้ากระดาษ
สำหรับการตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม KDP จะใช้วิธี “Print On Demand” หมายความว่า หนังสือเล่มนั้นจะถูกตีพิมพ์ ต่อเมื่อมีลูกค้ากดซื้อเท่านั้น
ซึ่งทาง KDP จะทำการผลิตหนังสือรูปเล่ม และจัดส่งให้ลูกค้าทั้งหมด
จุดนี้เองที่กลายเป็นข้อดี ที่ทำให้เจ้าของผลงาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโปรโมตหนังสือ, ไม่จำเป็นต้องบริหารสต็อกหนังสือ อีกทั้งยังไม่ต้องจัดพิมพ์ และส่งให้ลูกค้าเอง
พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มมีคำถามว่า
แล้วแบบนี้ ลิขสิทธิ์หนังสือจะเป็นของใคร ?
แล้วแบบนี้ ลิขสิทธิ์หนังสือจะเป็นของใคร ?
คำตอบคือ ลิขสิทธิ์หนังสือ ยังเป็นของนักเขียน
ทำให้สามารถวางขายผลงานที่อื่น หรือบนเว็บไซต์อื่นได้
ทำให้สามารถวางขายผลงานที่อื่น หรือบนเว็บไซต์อื่นได้
อย่างไรก็ดี Amazon ก็มีโปรแกรม KDP Select
สำหรับผลงานรูปแบบ E-Book ที่ตั้งใจจะวางขายเฉพาะบน KDP เท่านั้น
สำหรับผลงานรูปแบบ E-Book ที่ตั้งใจจะวางขายเฉพาะบน KDP เท่านั้น
โดยเจ้าของผลงานในโปรแกรม KDP Select จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น นั่นเอง
คำถามต่อมาคือ KDP มีเกณฑ์การแบ่งค่าตอบแทนอย่างไร ?
สำหรับ ค่าตอบแทนของการตีพิมพ์หนังสือรูปเล่ม จะเป็นอัตราคงที่ 60%
หรือทุก ๆ การขาย 100 บาท เราจะได้รับส่วนแบ่ง 60 บาท ในขณะที่ Amazon จะได้รับส่วนแบ่ง 40 บาทไป
หรือทุก ๆ การขาย 100 บาท เราจะได้รับส่วนแบ่ง 60 บาท ในขณะที่ Amazon จะได้รับส่วนแบ่ง 40 บาทไป
ส่วนทางด้าน E-Book จะมีแพ็กเกจค่าตอบแทนให้นักเขียน 2 แบบ ได้แก่
แบบที่ 1 คือ 35% ของราคาขาย
แบบที่ 2 คือ 70% ของราคาขาย ซึ่งในรูปแบบนี้จะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา
แบบที่ 2 คือ 70% ของราคาขาย ซึ่งในรูปแบบนี้จะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา
ทั้งนี้ มีรายงานว่า Amazon จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับนักเขียนสูงถึงปีละ 8,650 ล้านบาท และในปี 2021 มีนักเขียนกว่า 1,000 คนที่มีรายได้จาก KDP สูงถึงเกือบ 3.5 ล้านบาท
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ ปัจจุบัน ยอดขายหนังสือ KDP
ยังนับเป็น 31% ของยอดขาย E-Book ทั้งหมดของ Amazon
ยังนับเป็น 31% ของยอดขาย E-Book ทั้งหมดของ Amazon
และทั้งหมดนี้คือโมเดลของ KDP ที่ Amazon พยายามสร้าง Ecosystem บนแพลตฟอร์มของตัวเองให้ได้มากที่สุด
โดยมีจุดเด่นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการให้บริการ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ดี
จึงไม่แปลกใจที่แพลตฟอร์มนี้ กลายเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ และครองตลาด E-Book ถึง 80% ในปัจจุบัน..
--------------------------------------------------------
(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป พุ่งเป้าพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เพื่อเข้ามาเติมเต็มและต่อจิกซอว์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มาใช้บริการร้าน Marimekko Pop-Up Café คาเฟแห่งแรกในโลก พร้อมเดินหน้าปูทางธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์อื่นในเครือ หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y - Gen Z มากขึ้น
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
--------------------------------------------------------
References:
-https://www.statista.com/forecasts/997050/hobbies-and-activities-in-the-us
-https://kdp.amazon.com/en_US/
-https://selfpublishing.com/kdp/
-https://kdp.amazon.com/en_US/help/topic/G201537300
-https://selfpublishing.com/kindle-unlimited/
-https://wordsrated.com/amazon-book-sales-statistics/
-https://publishdrive.com/what-is-the-typical-royalty-rate-for-an-author.html
-https://www.insiderintelligence.com/insights/amazon-revenue/
-https://www.statista.com/statistics/623566/web-visits-to-amazoncom/
-https://www.statista.com/forecasts/997050/hobbies-and-activities-in-the-us
-https://kdp.amazon.com/en_US/
-https://selfpublishing.com/kdp/
-https://kdp.amazon.com/en_US/help/topic/G201537300
-https://selfpublishing.com/kindle-unlimited/
-https://wordsrated.com/amazon-book-sales-statistics/
-https://publishdrive.com/what-is-the-typical-royalty-rate-for-an-author.html
-https://www.insiderintelligence.com/insights/amazon-revenue/
-https://www.statista.com/statistics/623566/web-visits-to-amazoncom/