รู้จัก CEO หญิงคนแรก ของ Hershey บริษัทที่เป็นมิตรกับผู้หญิง มากสุดในโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ว่า นับจนถึงช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 ที่ผ่านมา มีผู้หญิงเกือบ 3 ล้านคนในสหรัฐฯ ลาออกจากงาน
ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้หญิงกว่า 64 ล้านคนทั่วโลก ต้องสูญเสียงานในช่วงวิกฤติโรคระบาด

ซึ่งสาเหตุของการลาออก ก็มีอยู่หลายปัจจัย เช่น ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก, การทำงานล่วงเวลา, ความเครียด,
การขาดโอกาส, ค่าแรงที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ จะเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่า “โรคระบาด” เป็นตัวเน้นย้ำ ที่ทำให้ผลกระทบต่อผู้หญิง มันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

เนื่องจากหลาย ๆ ครั้ง ผู้หญิงก็ถูกบังคับให้ต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับโอกาสในการทำงาน โดยหลาย ๆ บริษัท ไม่เปิดโอกาสให้กับผู้หญิงที่มีภาระที่บ้านเท่าไรนัก

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ยังมีบริษัทที่ไม่มองข้ามความสามารถของพนักงานไป เพียงเพราะว่าเขาเป็นแค่ผู้หญิงเท่านั้น

โดยจากผลสำรวจของ Forbes ได้จัดอันดับบริษัทที่เป็นมิตรหรือให้การสนับสนุนผู้หญิงมากที่สุด และนั่นก็คือ บริษัทขนมอย่าง Hershey

ที่น่าสนใจคือ CEO คนปัจจุบันของ Hershey ยังเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของ อาณาจักรช็อกโกแลต ที่อยู่มานานถึง 127 ปี อย่างคุณ Michele Buck

ซึ่งเธอยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้ Hershey เติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญหน้ากับโควิด 19

ทำไมบริษัทที่ตลอดเวลาร้อยกว่าปี ไม่เคยมี CEO ที่เป็นผู้หญิง กลับยอมรับและเลือกให้คุณ Michele Buck ก้าวขึ้นมาเป็น CEO ?
แล้วอะไรที่ทำให้ Hershey กลายเป็นบริษัท ที่เป็นมิตรกับผู้หญิงมากที่สุด ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประวัติการทำงานของคุณ Michele Buck แบบสั้น ๆ กันก่อน

งานแรกของเธอ เริ่มต้นตอนอายุ 10 ขวบ โดยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
พอโตขึ้นก็ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ และขายสินค้าเครื่องสำอาง แบบไปเดินเคาะตามประตูบ้าน

เมื่อเรียนมหาวิทยาลัย ในสาขาด้านธุรกิจ เธอก็เข้าทำงานเป็นนักวิเคราะห์การคลัง

ต่อมา เธอก็เข้าสู่การทำงานให้กับแบรนด์ Cheetos ในเครือของบริษัท PepsiCo รวมถึง
Cool Whip ของบริษัท Kraft Foods

จากอาชีพทั้งหมดที่ผ่านมาส่งผลให้เธอมีประสบการณ์การทำงานกับผู้คน ในหลากหลายสภาพแวดล้อม

ซึ่งหลังจากทำงานอยู่ที่ Kraft Foods กว่า 17 ปี เธอก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Hershey
ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และ 6 ปีต่อมาก็ได้เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง CGO (Chief Growth Officer)

จนกระทั่งในปี 2017 คุณ Michele Buck ก็ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่ง CEO

ด้วยความสามารถของเธอในตอนที่เป็น CGO ส่งผลให้ CEO คนก่อนหน้าอย่างคุณ John Bilbrey
ยอมรับ และพร้อมที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง CEO อย่างไม่ลังเลเลย

ซึ่งเมื่อ Hershey เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของคุณ Michele Buck นอกจากจะรักษาความโดดเด่นในด้านขนมเอาไว้แล้ว เธอยังได้ขยายสินค้าของบริษัท ไปยังสินค้าอาหารว่างอื่น ๆ จนทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในฐานะประธานและ CEO การทำให้ธุรกิจเติบโตไม่ใช่แค่เรื่องเดียว
เพราะการดูแลคนในองค์กรให้ดี ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องได้รับความใส่ใจไม่แพ้กัน

โดยข้อมูลจากรายงานความยั่งยืนของ Hershey ได้เปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทพยายามจะเพิ่มอัตราส่วนของพนักงานผู้หญิง เป็น 47-50% และพนักงานผิวสีอีก 30-40% ภายในปี 2025

นอกจากนี้บริษัทยังต้องการให้คนผิวสีและผู้หญิง เข้ามามีบทบาทในระดับผู้บริหารมากขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารของ Hershey เอง ก็มีอัตราส่วนผู้หญิง 5 คนจาก 12 คน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนขึ้น โดยยึดตามความสามารถของคนที่จะเข้ารับตำแหน่ง

สำหรับในเรื่องค่าแรงของพนักงานในองค์กรนั้น ก็มีความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเราจะมีผิวสีอะไร หรือเป็นคนเพศไหน

และเพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในด้านความเท่าเทียม ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก บริษัท Hershey จึงได้เปิดตัวโครงการชื่อ The Pathways ขึ้น

โดยเน้นไปที่การเข้าร่วมและเปิดโอกาสให้คนที่มีความสามารถได้มีงานทำ, การแสดงจุดยืนเพื่อผู้บริโภคและชุมชนต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาความสามารถ ให้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

นอกจากนี้ Hershey ก็ยังใส่ใจในเรื่องสวัสดิการของพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีความสุข เช่น สวัสดิการ
การลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร ซึ่งสามารถลาได้ติดต่อกันสูงสุด 6 สัปดาห์ เพราะเมื่อพนักงานมีความสุข ก็จะสามารถทำงานได้ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ

และในปี 2020 บริษัท Hershey ยังเปิดโอกาสให้พนักงานกำหนดเวลาทำงานเองได้ เพื่อให้ทุกคนมีความยืดหยุ่นในการทำงาน และมี Work-Life Balance ตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งตอบโจทย์กับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดในยุคนี้อย่างมาก

ซึ่งจากโครงการทั้งหมดที่กล่าวมาของ Hershey ก็ทำให้ในปีนี้ Forbes ได้จัดอันดับ
ให้ Hershey กลายเป็นบริษัทที่เป็นมิตรกับผู้หญิงมากที่สุด

เรียกได้ว่า เรื่องราวของคุณ Michele Buck ก็คงทำให้ใครหลายคน ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะในยุคนี้ไม่ว่าใคร หรือเพศไหน ก็สามารถเป็นผู้นำได้ ขอแค่บุคคลนั้นมีความสามารถที่เหมาะสมก็พอแล้ว..

References:
-https://www.forbes.com/sites/samanthatodd/2021/11/02/meet-the-worlds-top-female-friendly-companies-2021
-https://www.thehersheycompany.com/en_us/home/newsroom/blog/empowered-by-pathways-embarking-on-an-equitable-future-together.html
-https://hbr.org/2021/10/advancing-gender-equity-as-you-lead-out-of-the-pandemic
-https://www.thehersheycompany.com/content/dam/hershey-corporate/documents/pdf/hershey_2020_sustainability_report_.pdf#page=54
-https://www.thehersheycompany.com/en_us/home/newsroom/blog/a-journey-of-intentional-actions-what-it-takes-to-be-named-the-worlds-top-female-friendly-company.html
-https://www.fooddive.com/news/how-hershey-ceo-michele-buck-came-to-create-a-snacking-powerhouse/572347/