<อัปเดต> Tinder เผยรายละเอียด แผนการนัดเดตบนโลก Metaverse

หลังจาก Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อสื่อถึงทิศทางของบริษัท ที่จะให้ความสำคัญกับการสร้าง Metaverse ก็ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มประกาศแผนตอบรับแนวทางนี้ออกมาตาม ๆ กัน

ล่าสุด Match Group บริษัทแม่ของ Tinder เอง ก็ได้ออกมาอัปเดตว่า
ทางบริษัทกำลังวางแผนพัฒนา การออกเดตในโลก “Metaverse” หรือโลกเสมือน เพื่อรองรับเศรษฐกิจรูปแบบใหม่บนโลกเสมือนแล้ว (Virtual Economy)

จากที่เมื่อไม่นานมานี้ Tinder ได้อัปเดตแอปพลิเคชันครั้งใหญ่ไป
ด้วยการปล่อยฟีเชอร์ “Explore” ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้มากขึ้น เช่น

Swipe Night เกมอินเตอร์แอ็กทีฟ ที่การปัดแต่ละครั้งจะนำไปสู่เรื่องราวต่าง ๆ ทำให้เกิดการพูดคุยใหม่ ๆ หรือคนใหม่ ๆ ที่มีความสนใจตรงกัน, การแช็ตแบบเรียลไทม์, รวมถึงการจับคู่ตามความสนใจ

โดยในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมาของ Match Group บริษัทแม่ของ Tinder
ได้ออกมาเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ระยะยาวขององค์กร ในปี 2022 และปีถัด ๆ ไป

ซึ่งทางบริษัทต้องการจะขยายการให้บริการ ให้ครอบคลุมในเรื่องของประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจบนโลกเสมือน

ทั้งการขายสินค้าบนโลกเสมือน (Virtual Goods), การใช้ Tinder Coin ในแอปฯ และประสบการณ์การเดตแบบเสมือน ผ่านตัว Avatar

ทางบริษัทกล่าวว่า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาดเดตออนไลน์ที่กำลังเกิดขึ้น
Tinder ได้พยายามเร่งเครื่องให้ผู้ใช้งานได้พบประสบการณ์ในโลกเสมือน หรือ “Metaverse”
ที่สามารถเดตกันภายในแอปฯ แทนที่จะให้ผู้คนออกมาเจอกันในโลกจริง โดยมีการใช้ตัว Avatar เป็นหลัก

สำหรับการสร้างเศรษฐกิจโลกเสมือน (Virtual Economy)

การพัฒนาในส่วนแรกจะเริ่มจาก Tinder Coin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของทางบริษัท ที่ได้เริ่มมีการทดสอบเหรียญในหลายประเทศแถบยุโรปแล้ว

โดยทางบริษัทกล่าวว่าในปีถัดไป Tinder Coin จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้ใช้งานจริง ผ่านการซื้อหรือเข้าร่วมเงื่อนไขตามที่ Tinder กำหนด

เพื่อให้ได้รับเหรียญ มาใช้จ่ายซื้อสินค้าภายในแอปฯ เช่น ไอเทมอย่าง Boost หรือ Super Like
ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเพิ่มโอกาสการจับคู่ได้มากขึ้น

รวมถึงใช้ซื้อบางฟีเชอร์ของ Tinder แบบจ่ายค่าบริการตามที่ใช้จริง จากเดิมที่จะต้องจ่ายแบบรายเดือนเท่านั้น เช่น ฟีเชอร์ See Who Likes You ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถเลือกกดดูเฉพาะผู้ที่สนใจเราได้

นอกจากนั้น Tinder Coin ยังจะถูกใช้ในการจูงใจให้ผู้ใช้งานมีพฤติกรรมที่เหมาะสม เช่น กระตุ้นให้ผู้ใช้งานยืนยันตัวตนจากรูปโปรไฟล์ หรือให้พวกเขาเพิ่มวิดีโอลงให้หน้าประวัติ

ซึ่งในระยะยาว Tinder กล่าวว่าจะพัฒนาแอปฯ ที่วางขายสินค้าเสมือนจริง
รวมถึงสร้างระบบนิเวศการที่รองรับการซื้อขายสินค้าเสมือนจริงด้วย

ส่วนในด้านสินค้าในโลกเสมือน คุณ Shar Dubey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของ Match Group ได้กล่าวว่า

“สินค้าในโลกเสมือนของ Tinder จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มความเป็นตัวเองได้มากขึ้น รวมถึงยังเพิ่มความโดดเด่นให้ตัวเองได้ด้วย โดยสินค้าเสมือนที่เรานึกถึง ก็จะเป็นอะไรที่สามารถสะสม หรือให้เป็นของขวัญแก่ผู้อื่นได้”

ซึ่งในปี 2022 นี้ ทางบริษัทจะเริ่มจาก การออกแบบสินค้าในโลกเสมือน, จัดกลุ่มสินค้า, กำหนดมูลค่าของสินค้า และกำหนดตำแหน่งที่จะแสดงรายการสินค้าบนโปรไฟล์ Tinder ของผู้ใช้

รวมไปถึง จะต้องทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด และปรับแต่งให้ออกมาดีและเหมาะสมที่สุด

นอกจากนี้ คุณ Dubey ยังได้พูดถึงประโยชน์ของ Hyperconnect บริษัทสร้างแอปพลิเคชันสัญชาติเกาหลีใต้ ที่ทาง Match Group ได้เข้าซื้อด้วยมูลค่ากว่า 57,900 ล้านบาท เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

โดยเธอพูดเกี่ยวกับการทดสอบแอปฯ เดตที่ใช้ Avatar ไปอยู่ในโลกเสมือนที่เรียกว่า “Single Town”
ซึ่งเป็นโลกเสมือนที่ผู้ใช้งานจะสามารถสามารถพาตัว Avatar เข้าไปเจอกันใบบาร์ (เสมือน) แล้วนั่งคุยกันแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ Audio ได้

ทั้งนี้ ในการใช้งาน ผู้ใช้จะต้องแสดงความสนใจต่ออีกฝ่ายก่อน
เพื่อให้สามารถเลือกคนที่อยากพูดคุย และติดต่อกันแบบส่วนตัวต่อไป

จะเห็นได้ว่า ทั้งจากการทดสอบ และแผนระยะยาวของ Match Group ในครั้งนี้
ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า การออกเดตนั้น จะสามารถนำมาปรับใช้กับโลก Metaverse ได้อย่างไร

เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ทางบริษัทพัฒนาให้การออกเดตก้าวไปสู่อีกขั้นแห่งโลกยุคใหม่

และคงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่ทำให้โลกเสมือน เหมือนจริงยิ่งขึ้น
ก็ไม่แน่ว่า ในอนาคตโลกหลักที่เราใช้ชีวิต อาจจะไม่ใช่โลกแห่งความจริง
แต่เป็น Metaverse..

Reference:
-https://techcrunch.com/2021/11/03/match-group-details-plans-for-a-dating-metaverse-tinders-virtual-goods-based-economy/