Fresh จากการขายสบู่ก้อน สู่แบรนด์ความงาม ในเครือเดียวกับ Louis Vuitton /โดย ลงทุนเกิร์ล

สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
คงเคยได้ยินชื่อแบรนด์ “Fresh (เฟรช)” ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยไม่น้อย
และน่าจะเคยเห็นลิปมันที่มีคำว่า Sugar ตัวใหญ่ ๆ บนบรรจุภัณฑ์กันมาบ้าง

แล้วรู้หรือไม่ ก่อนที่ Fresh จะกลายเป็นแบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางระดับโลก
ผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัว กลับเป็นเพียงสบู่ก้อน ที่วางขายในร้านค้าเล็ก ๆ ในชุมชนเท่านั้น

เรื่องราวของ Fresh มีความเป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปในปี 1991

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Fresh เกิดขึ้นโดยคุณ Lev Glazman และคุณ Alina Roytberg คู่รักผู้อพยพชาวรัสเซีย ที่อาศัยอยู่ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา

เริ่มแรกพวกเขาเปิดร้านขายยาเล็ก ๆ ในบอสตัน
แต่ในเวลาต่อมา ทั้งคู่ก็ได้เล็งเห็นว่า ผลิตภัณฑ์จำพวกความงาม ที่ใช้กันทุกวันยังไม่ค่อยตอบโจทย์ความต้องการเท่าไร

ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะผลิตสินค้าเหล่านี้ขึ้นมาเสียเอง โดยอาศัยความรู้จากการเปิดร้านขายยา

ซึ่งสินค้าความงามที่พวกเขาตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น จะไม่ใช่แค่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความรู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดียวกันด้วย

นอกจากนี้ พวกเขายังใฝ่ฝันถึงร้านค้าที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ จากส่วนผสมธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลก และมีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง เช่นเดียวกับบรรยากาศของตลาดขายอาหารแบบยุโรป ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่ และเต็มไปด้วยวัตถุดิบนานาชนิด

ด้วยความคิดทั้งหมดนี้ แบรนด์ Fresh จึงได้ก่อกำเนิดขึ้นมา..

โดยสินค้าแรกที่ทั้งสองร่วมกันคิดค้นขึ้น ก็คือ “สบู่รูปไข่” ที่พวกเขาห่อกันเองด้วยมืออย่างสวยงามทุกก้อน ในชื่อ “Oval Soap Collection”

และผลลัพธ์ที่ออกมา ก็คือ Fresh ได้รับความสนใจจากคนในชุมชนทันทีที่เปิดตัว
รวมถึงกลายเป็นแบรนด์ดูแลผิวในดวงใจของใครหลาย ๆ คนในขณะนั้นอีกด้วย

ซึ่งสบู่คอลเลกชันดังกล่าว ก็สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากการใช้ส่วนผสมธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน

ส่งผลให้ในเวลาต่อมา Fresh ได้พัฒนากลายเป็นแบรนด์ความงาม ที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 150 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เส้นผม ริมฝีปาก น้ำหอม หรือแม้กระทั่งเทียนไขก็มีวางขายใน ร้าน Fresh เช่นกัน

อีกทั้ง Fresh ยังได้รับการยกย่องในเรื่องการใช้ “ส่วนผสมจากธรรมชาติที่แปลกใหม่” มาเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำตาล, น้ำนม, ถั่วเหลือง, ข้าว, ดอกกุหลาบ, ดอกบัว, น้ำตาล, สาเก และชาดำ

ที่น่าสนใจคือ ในปี 2000 Fresh ได้ถูกซื้อกิจการ โดยเครือบริษัทแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลกอย่าง LVMH ที่เป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton, Christian Dior และ Celine

แน่นอนว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับแบรนด์

แต่ที่มากไปกว่านั้น คือ Fresh จะได้รับผลประโยชน์ที่เกินกว่าจะประเมินค่าได้ หลังจากถูกควบรวมกิจการ

ซึ่งนั่นคือ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึง ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัย เช่นเดียวกับที่ Guerlain, Christian Dior และ Givenchy ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทในเครือ LVMH ใช้อีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่ากุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ Fresh คืออะไร ?
คงหนีไม่พ้นคำว่า “ความสม่ำเสมอ”

ตั้งแต่วันแรก จนถึงทุกวันนี้ ที่ LVMH กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว

สองผู้ก่อตั้งก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ และแบรนด์ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยการผสมผสานคุณค่าจากส่วนผสมธรรมชาติที่มีศักยภาพ กับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้าด้วยกัน

ที่น่าสนใจคือ สามี-ภรรยาคู่นี้มักจะใช้เวลาเดินทางท่องโลก
เพื่อค้นหาวัตถุดิบทางธรรมชาติและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มาเป็นไอเดียสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์

อย่าง “Umbrian Clay Collection” หนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ขายดีที่สุดของแบรนด์ ที่ใช้โคลนจากเมือง Nocera Umbra ของประเทศอิตาลี ก็เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สองผู้ก่อตั้งได้ค้นพบระหว่างการเดินทางเช่นกัน

ซึ่งโคลนของประเทศอิตาลีชนิดนี้ ได้ช่วยเพื่อนของพวกเขาที่ประสบปัญหาสิว ให้มีผิวที่ดีขึ้น และพวกเขายังสืบพบว่าโคลนชนิดนี้ถูกใช้ในการบำบัดรักษา ประทินผิว มายาวนานหลายศตวรรษ

นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังอาศัยประสบการณ์ ภูมิปัญญา ความทรงจำในวัยเด็ก
มาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามของแบรนด์อีกทาง

เช่น “Sugar Collection” คอลเลกชันที่มีลิปอันโด่งดัง ติดอันดับสินค้าขายดีของแบรนด์ ก็ได้แรงบันดาลใจจาก “วัยเด็กของผู้ก่อตั้งทั้งสอง”

โดยคุณยายชาวรัสเซียของพวกเขาต่างใช้น้ำตาลที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ ในการรักษาผิว และรอยแผล นอกจากนี้น้ำตาลยังช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น

ทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่า “น้ำตาล” เหมาะกับการนำมาทำสินค้าประเภทลิปบาล์ม, ครีมบำรุงผิว, โฟมล้างหน้า และสครับขัดผิวเป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน Fresh เป็นบริษัทความงามระดับโลก ที่มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
พร้อมทั้งวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามในร้านค้าชั้นนำทั่วโลก

เรียกได้ว่า หลังจากผ่านมา 30 ปี ความฝันที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองอยากจะมีร้านค้าที่นำเสนอผลิตภัณฑ์
จากส่วนผสมธรรมชาติทั่วทุกมุมโลก ก็กลายเป็นจริงแล้วในตอนนี้..

References:
-https://www.fresh.com/us/aboutus.html
-https://www.spacenk.com/jp/inside-space/uncovered/behind-the-brand-fresh.html
-https://www.lvmh.com/houses/perfumes-cosmetics/fresh/
-https://www.sevendials.co.uk/stores/fresh/