รู้จัก Dang Foods ขนมแบรนด์คนไทย ที่นิยมในสหรัฐอเมริกา /โดย ลงทุนเกิร์ล

ท่ามกลางกระแสใส่ใจสุขภาพในปัจจุบัน ขนมเพื่อสุขภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งของว่างที่หลาย ๆ คน
ชื่นชอบ ซึ่งในท้องตลาดก็มีให้เลือกอยู่หลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Nature Valley, Hippeas หรือ Partake Foods แบรนด์ขนมเพื่อสุขภาพที่ Rihanna ร่วมลงทุน

แต่มีขนมเพื่อสุขภาพแบรนด์หนึ่ง ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็คือ “Dang Foods”
และยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ขนมที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ที่น่าสนใจคือ เจ้าของแบรนด์ Dang Foods เป็นสองพี่น้องเชื้อชาติไทย ซึ่งได้จับพลัดจับผลูมาทำธุรกิจขนมขบเคี้ยว
แต่กลับประสบความสำเร็จ โดยไม่ได้มาจากดวงหรือรอคอยโชคชะตา

เรื่องราวของ Dang Foods น่าสนใจอย่างไร ?
ธุรกิจของพวกเขามีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Dang Foods เป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวรสชาติแปลกใหม่ที่ก่อตั้งในปี 2012 โดยคุณวินเซนต์ กิติรัตน์ตระการ และคุณแอนดรูว์ กิติรัตน์ตระการ
สองพี่น้องชาวไทยที่เติบโตใน 2 มหานคร ซึ่งก็คือ นครนิวยอร์กและกรุงเทพมหานคร

โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ต้องย้อนกลับไปในปี 2011 เมื่อคุณวินเซนต์พบว่าอาหารไทยที่มีขายในสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งมักจะเป็น ผัดไทย ข้าวเหนียวมะม่วง และชาไทย

เรื่องนี้จึงจุดประกายให้คุณวินเซนต์อยากจะเปิดร้านอาหารไทย ในซานฟรานซิสโก

ต่อมาคุณแม่แดง หรือแม่ของคุณวินเซนต์ ก็ได้ให้สูตรวิธีการทำเมี่ยงคำกับเขามา

แต่ร้านขายของชำในสหรัฐอเมริกา กลับไม่มีมะพร้าวคั่วอบกรอบที่เป็นส่วนประกอบของเมี่ยงคำขาย เขาจึงลองฝานเนื้อมะพร้าวสดและนำไปอบด้วยตนเอง

และก็กลายเป็นว่ากลิ่นหอมหวานและรสชาติกรุบกรอบของมะพร้าวอบ ดันดึงดูดความสนใจเพื่อนของเขาได้มากกว่า

คุณวินเซนต์จึงได้ไอเดียในการทำธุรกิจขนมขบเคี้ยวแทน โดยนำเนื้อมะพร้าวมาหั่นเป็นแว่นแล้วอบให้สุก เพื่อเป็นอาหารว่างคล้ายมันฝรั่งทอด

นี่เองจึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Dang Foods ของคุณวินเซนต์ร่วมกับน้องชายอย่าง คุณแอนดรูว์

โดยชื่อแบรนด์ก็มีที่มาจากชื่อของคุณแม่แดง ผู้เป็นแรงบันดาลใจของเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ Dang Foods ก็ไม่ได้ง่ายดายเท่าไรนัก เพราะมะพร้าวอบกรอบผลิตภัณฑ์แรกของพวกเขา ต้องเอาชนะอุปสรรคที่เป็นความไม่คุ้นเคยของชาวอเมริกัน ที่ไม่ได้รับประทานมะพร้าวเป็นของว่าง

นอกจากนั้นคนส่วนใหญ่ยังมองว่า มะพร้าวเป็นวัตถุดิบสำหรับทำขนม หรือเป็นเพียงของหวานที่เข้ากับช็อกโกแลตแท่ง ซึ่งมีอยู่แล้วในตลาด เช่น แบรนด์ Mounds และ Almond Joy

ดังนั้น Dang Foods จึงต้องใช้ความพยายามในการสื่อสาร และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคว่า มะพร้าวอบกรอบเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ ที่สามารถนำไปใส่ในโยเกิร์ต ทานคู่กับสลัด หรือจะใช้เป็นท็อปปิงไอศกรีมก็ยังได้

โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก, การแจกสินค้าตัวอย่าง, การสาธิตในร้านค้า และการทำแคมเปนทางโซเชียลมีเดีย

รวมถึงไม่หยุดพัฒนาสินค้า เพื่อให้สามารถสู้กับแบรนด์อื่น ๆ ได้

ซึ่งนอกจากขนมจากมะพร้าวอบกรอบแล้ว Dang Foods ยังได้ออกผลิตภัณฑ์ในอีกหลายรูปแบบ อาทิ ข้าวเหนียวอบกรอบ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้าวแต๋นน้ำแตงโม และคีโตบาร์รสชาติต่าง ๆ

จุดเด่นของ Dang Foods ก็คือ การเน้นเรื่องของสุขภาพ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ปราศจากการตัดต่อพันธุกรรม ปลอดกลูเทน และไม่ใส่สารกันบูด

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ภายใน 5 ปี Dang Foods กลายเป็นแบรนด์ขนมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
มีการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกกว่า 10,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา

โดยในปี 2016 แบรนด์สามารถทำรายได้ไปมากกว่า 300 ล้านบาท
และในปี 2019 แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการ
แต่ก็มีการรายงานว่าทางบริษัทมีรายได้เติบโตขึ้น 54% เมื่อเทียบกับปี 2018

ซึ่งปัจจัยการเติบโตหลัก ๆ ก็มาจากผลิตภัณฑ์อย่าง “คีโตบาร์” โปรตีนบาร์สำหรับชาวคีโต ที่มียอดขายสูงสุดในซูเปอร์มาร์เก็ตที่จับตลาดคนรักสุขภาพ อย่าง Whole Foods Market ในปี 2019 ตามรายงานของ FoodNavigator-USA

ในปัจจุบัน Dang Foods วางขายขนมในร้านค้าปลีกทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำหน่ายใน Publix, Walmart, Target, Kroger รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Amazon และ Dangfoods เว็บไซต์ทางการของแบรนด์

แล้วอะไรที่ทำให้ Dang Foods เติบโตได้เร็วขนาดนี้ ?

นอกจาก Dang Foods จะมุ่งความสนใจไปที่ความเป็นธรรมชาติ และเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพแล้ว

ยังมีเรื่องรสชาติของขนม ที่ผสมผสานรสชาติ และส่วนผสมของอาหารตะวันออกและตะวันตกไว้อย่างลงตัว

โดยการรวมขนมที่ชาวอเมริกันคุ้นเคยในหมวดหมู่ มันฝรั่งทอดและบาร์ธัญพืช เข้ากับส่วนผสมและรสชาติที่ได้แรงบันดาลใจจากเอเชีย เช่น มะพร้าว, ข้าวเหนียว, งา, มัทฉะ และซอสสะเต๊ะถั่วลิสง

รวมถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของ Dang Foods ที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนไม่น้อยเลย

ซึ่งอ้างอิงจากรายงานของ Pew Research Center ในปี 2021 ว่าในสหรัฐอเมริกามีจำนวนประชากรชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมากกว่า 23 ล้านคน รวมถึงมีประชากรชาวเอเชียเพิ่มขึ้น 81% ระหว่างปี 2000 ถึง 2019 ซึ่งกลายเป็นกลุ่มเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ที่เติบโตเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม Dang Foods ยังพยายามเข้าถึงผู้บริโภคชาวอเมริกันมากขึ้น และมองว่าชาวอเมริกันเต็มใจที่จะยอมรับวัฒนธรรมเอเชียมากขึ้น โดยมีสัญญาณจากกระแสความนิยมในภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians

ทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวของธุรกิจขนมขบเคี้ยวของคนไทย ที่อาจสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คน

ในช่วงเวลาเริ่มธุรกิจใหม่ ๆ บางครั้งเราอาจมองเห็นช่องทางการตลาดหลากหลายช่องทาง แต่ถ้าเราเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ และตอกย้ำทุกแง่มุมของธุรกิจก่อน

สุดท้ายแล้วช่องทางเพียงเล็กน้อยที่ว่านั้นจะสามารถนำมาขยายผลจนประสบความสำเร็จ เหมือน Dang Foods ที่สร้างยอดขายหลายร้อยล้านต่อปีก็เป็นได้..

References:
-https://dangfoods.com/
-https://www.entrepreneur.com/article/330117
-https://www.fooddive.com/news/about-dang-time-why-a-snack-brand-is-playing-up-its-asian-american-heritag/573503/
-https://www.bakeryandsnacks.com/Article/2017/05/30/Dang-Foods-aims-at-40-growth-through-the-mass-channel
-https://www.radiche.com/food-blog/the-chip-tale-dang-foods-vincent-kitirattragarn
-https://www.pewresearch.org/fact-tank/2021/04/29/key-facts-about-asian-americans/