FashionBusiness
รู้จัก แบรนด์เสื้อผ้า Lirika Matoshi ที่เป็นไวรัลจากการ “กักตัว”
1 ก.พ. 2021
รู้จัก แบรนด์เสื้อผ้า Lirika Matoshi ที่เป็นไวรัลจากการ “กักตัว” /โดย ลงทุนเกิร์ล
ปี 2020 ถือว่าเป็นปีที่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากที่สุดเลยก็ว่าได้
เมื่อประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองจากสถานการณ์โรคระบาด
ธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ที่คนจะหยิบใส่ตะกร้า
เมื่อประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองจากสถานการณ์โรคระบาด
ธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือย ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ที่คนจะหยิบใส่ตะกร้า
แต่สำหรับ Lirika Matoshi แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์ “แฟรี่เทล” ในราคาหลักหมื่น
กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่าในช่วงกักตัว
กลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่าในช่วงกักตัว
แบรนด์เสื้อผ้า Lirika Matoshi น่าสนใจอย่างไร?
ทำไมคนถึงอยากซื้อชุดที่ดูแฟนซีราคาแพง ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านกัน?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
ทำไมคนถึงอยากซื้อชุดที่ดูแฟนซีราคาแพง ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านกัน?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับแบรนด์ Lirika Matoshi กันก่อนดีกว่าค่ะ
Lirika Matoshi คือร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับแฮนด์เมดออนไลน์
ที่มีคารักเตอร์ราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ที่เน้นสีสันสดใสและความฟูฟ่อง
ที่มีคารักเตอร์ราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ที่เน้นสีสันสดใสและความฟูฟ่อง
ซึ่งชื่อแบรนด์ Lirika Matoshi ก็ตั้งมาจากชื่อของผู้ก่อตั้ง
โดยเปิดมาได้เพียง 5 ปีเท่านั้น แต่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเกือบ 1 ล้านคน
โดยเปิดมาได้เพียง 5 ปีเท่านั้น แต่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเกือบ 1 ล้านคน
รวมทั้งมีชุดหลายต่อหลายชุด ที่คนดังระดับฮอลลีวูดเลือกใส่ในงานประกาศรางวัล
เช่น Joey King และ Bella Thorne
เช่น Joey King และ Bella Thorne
และล่าสุด Jennie วง Blackpink ยังหยิบชุดจากแบรนด์นี้ มาใส่หลายต่อหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นบนเวทีคอนเสิร์ต หรือในช่องยูทูบของเธอ
ไม่ว่าจะเป็นบนเวทีคอนเสิร์ต หรือในช่องยูทูบของเธอ
แต่ก่อนที่คุณ Matoshi จะประสบความสำเร็จ และมีสินค้าส่งไปทั่วโลกอย่างนี้
จุดเริ่มต้นของร้านเธอก็มาจากการขายสินค้าชิ้นเล็กๆ
จุดเริ่มต้นของร้านเธอก็มาจากการขายสินค้าชิ้นเล็กๆ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 หลังจากที่คุณ Matoshi ย้ายจากคอซอวอ ประเทศบ้านเกิดของเธอ
มาลงหลักปักฐานที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
มาลงหลักปักฐานที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เธอก็เริ่มสร้างแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Lirika Matoshi” ที่เริ่มจากการขายเครื่องประดับแฮนด์เมด
ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มประเภทสินค้าเป็นถุงน่อง กางเกงเลกกิ้ง และพัฒนาสู่ห้องเสื้ออย่างปัจจุบัน
ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มประเภทสินค้าเป็นถุงน่อง กางเกงเลกกิ้ง และพัฒนาสู่ห้องเสื้ออย่างปัจจุบัน
ซึ่งตอนที่คุณ Matoshi เริ่มทำแบรนด์ เธอมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น
และที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ เธอไม่ได้เรียนจบด้านแฟชั่นมาโดยตรง
และที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ เธอไม่ได้เรียนจบด้านแฟชั่นมาโดยตรง
แต่เธอเรียนรู้การออกแบบทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง และจาก Teuta Matoshi พี่สาวของเธอที่เป็นดีไซเนอร์
โดยในปี 2019 เธอก็เริ่มออกแบบและตัดเสื้อผ้าแบรนด์ของเธอ
ซึ่งหลังจากที่เธอโพสต์รูปลงบนอินสตาแกรมเพียงแค่ไม่กี่นาที
ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าของเธออย่างล้นหลาม
ซึ่งหลังจากที่เธอโพสต์รูปลงบนอินสตาแกรมเพียงแค่ไม่กี่นาที
ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าของเธออย่างล้นหลาม
แต่แบรนด์ Lirika Matoshi ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไรนัก
จนกระทั่งมีคนลงคลิปวิดีโอใน TikTok โดยที่สวมใส่ชุด “Strawberry Dress”
ชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่องลายสตรอว์เบอร์รี หนึ่งในคอลเลกชันของแบรนด์ Lirika Matoshi
ชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่องลายสตรอว์เบอร์รี หนึ่งในคอลเลกชันของแบรนด์ Lirika Matoshi
ซึ่งคลิปนั้นได้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว
โดยแค่เพียงคลิปที่โพสต์ใน TikTok ก็มียอดการรับชมถึง 5.4 ล้านครั้ง
โดยแค่เพียงคลิปที่โพสต์ใน TikTok ก็มียอดการรับชมถึง 5.4 ล้านครั้ง
เรื่องนี้ยังส่งผลให้จำนวนการค้นหาชุด “Strawberry Dress” บน Google เพิ่มขึ้นทวีคูณ
ภายในระยะเวลาแค่ 10 วัน ผู้คนมีการเสิร์ชหาคำนี้เพิ่มขึ้นถึง 738%
และนำมาสู่ยอดขายชุดที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า ทั้งๆ ที่ชุดนี้ก็มีราคาสูงถึง 14,690 บาท
ภายในระยะเวลาแค่ 10 วัน ผู้คนมีการเสิร์ชหาคำนี้เพิ่มขึ้นถึง 738%
และนำมาสู่ยอดขายชุดที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า ทั้งๆ ที่ชุดนี้ก็มีราคาสูงถึง 14,690 บาท
ปัจจุบันชุด Strawberry Dress ก็ยังไม่หมดความนิยม มีทั้งคนที่โชว์รูปตอนสวมใส่ หรือแม้แต่การโชว์การแกะกล่องหรือที่เราเรียกว่า Unboxing เต็มฟีดในโซเชียลมีเดีย
ซึ่งจากกระแสนิยมนี้ ก็ส่งผลทำให้เสื้อผ้าชุดอื่นๆ ของแบรนด์กลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เรามาดูถึงจุดเด่นของแบรนด์ Lirika Matoshi ที่ทำให้คนสนใจขนาดนี้กันค่ะ
อันดับแรก เสื้อผ้ามี “เอกลักษณ์” ที่โดดเด่น
โดยเสื้อผ้าของเธอ มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนอย่างมาก
ไม่ว่าใครมอง ก็ดูออกได้ไม่ยาก ว่านี่คือแบรนด์ “Lirika Matoshi”
โดยเธอเลือกใช้ เนื้อผ้าที่ดูหรูหรา และสีสันที่ดูสดใส
ไม่ว่าใครมอง ก็ดูออกได้ไม่ยาก ว่านี่คือแบรนด์ “Lirika Matoshi”
โดยเธอเลือกใช้ เนื้อผ้าที่ดูหรูหรา และสีสันที่ดูสดใส
ที่สำคัญคือสินค้าทุกชิ้นเป็นงาน “แฮนด์เมด”
โดยเสื้อผ้าทุกชุดจะถูกตัดเย็บอย่างประณีต จากฝีมือทีมช่างที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด
อย่างชุดไหมพรม “Clouds Knit Sweater” ที่สาว Jennie ใส่ก็ถูกถักด้วยมือทั้งชุด
หรือชุด “Strawberry Dress” ก็ต้องใช้คนถึง 2 คน และเวลากว่า 3 วัน สำหรับผลิตชุดหนึ่งตัวขึ้นมา
อย่างชุดไหมพรม “Clouds Knit Sweater” ที่สาว Jennie ใส่ก็ถูกถักด้วยมือทั้งชุด
หรือชุด “Strawberry Dress” ก็ต้องใช้คนถึง 2 คน และเวลากว่า 3 วัน สำหรับผลิตชุดหนึ่งตัวขึ้นมา
นอกจากนั้นเธอยังให้การสนับสนุนผู้หญิง ด้วยการจ้างแรงงานที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด
และยังสนับสนุนแรงงานจากประเทศบ้านเกิดอย่างคอซอวออีกด้วย
และยังสนับสนุนแรงงานจากประเทศบ้านเกิดอย่างคอซอวออีกด้วย
อย่างสุดท้าย คือ “ไซซ์เสื้อผ้าที่ครอบคลุม”
ปัญหาหนักใจของผู้หญิงเวลาเลือกเสื้อผ้า ก็คือ เจอชุดที่ถูกใจ แต่กลับไม่มีไซซ์ของตัวเอง
แต่สำหรับแบรนด์ Lirika Matoshi เรื่องนี้กลับไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เนื่องจากที่ร้านมีไซซ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ XS ไปจนถึง XXXL เลยทีเดียว
เนื่องจากที่ร้านมีไซซ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ XS ไปจนถึง XXXL เลยทีเดียว
เพราะคุณ Matoshi อยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน “ให้ผู้หญิงภูมิใจในรูปร่างของตัวเอง”
ดังนั้นปัญหาหนักใจของลูกค้าแบรนด์นี้ จึงไม่ใช่หาไซซ์เสื้อไม่ได้
แต่อาจเป็นเสื้อผ้าที่สวยไปหมด จนลูกค้าเลือกไม่ถูกแทน
ดังนั้นปัญหาหนักใจของลูกค้าแบรนด์นี้ จึงไม่ใช่หาไซซ์เสื้อไม่ได้
แต่อาจเป็นเสื้อผ้าที่สวยไปหมด จนลูกค้าเลือกไม่ถูกแทน
เมื่อเราเห็นถึงความพิถีพิถันของแบรนด์ Lirika Matoshi แล้ว
จึงไม่น่าแปลกใจว่าถึงแม้ราคาสูง แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้า
จึงไม่น่าแปลกใจว่าถึงแม้ราคาสูง แต่ก็ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้า
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจรู้สึกว่า แบรนด์ Lirika Matoshi โชคดี
ที่บังเอิญกลายเป็นไวรัล จนดังในชั่วข้ามคืน
ที่บังเอิญกลายเป็นไวรัล จนดังในชั่วข้ามคืน
แต่ก็อย่าลืมว่า ถ้าสุดท้ายแล้วสินค้าคุณภาพไม่ดี สมกับราคาที่ตั้งไว้
แบรนด์ก็คงขายสินค้าได้เพียงแค่ครั้งเดียว เพราะไม่มีลูกค้ากลับมาซื้อ
แบรนด์ก็คงขายสินค้าได้เพียงแค่ครั้งเดียว เพราะไม่มีลูกค้ากลับมาซื้อ
ดังนั้นหัวใจสำคัญอย่างแรกของการดำเนินธุรกิจ
ก็คงจะเป็นการทำสินค้าหรือบริการของเราให้ดีก่อน
เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึง ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม..
ก็คงจะเป็นการทำสินค้าหรือบริการของเราให้ดีก่อน
เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึง ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม..