
Uncategorized
5 ธุรกิจสุดฮิตน่าลงทุนในปี 2025
6 ก.พ. 2025
ข่าวประชาสัมพันธ์
ปี 2025 กำลังจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความสะดวกสบายมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 ธุรกิจมาแรงที่นักลงทุนไม่ควรพลาด พร้อมทั้งแนวทางการลงทุนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
1. ธุรกิจสุขภาพ: ตลาดมูลค่าล้านล้านที่กำลังเติบโต
การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยสถาบันโกลบอลเวลเนส (Global Wellness Institute; GWI) ประเมินว่า ธุรกิจเวลเนสทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 5.61 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2022 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปจนถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2025 ทำให้ธุรกิจนี้มีความน่าสนใจ และน่าลงทุน ตัวอย่างธุรกิจกลุ่มสุขภาพที่ได้รับความนิยม เช่น อาหารเสริม Wellness Center
หากสนใจลงทุนในตลาดธุรกิจสุขภาพ และต้องการประสบความสำเร็จ นักลงทุนควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน และเฉพาะเจาะจง เช่น ผู้สูงอายุที่ชอบออกกำลังกาย รักสุขภาพ เพื่อจะได้สื่อสารอย่างตรงจุด และสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการมีผู้เชี่ยวชาญพูดให้ความรู้ หรือคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ทำอยู่ รวมถึงการแสดงใบรับรองคุณภาพต่างๆ ที่ได้รับ เพื่อเป็นการการันตีถึงคุณภาพและมาตรฐานเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย
2. E-Commerce: โอกาสทองของธุรกิจออนไลน์
เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น พร้อมๆ กับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงทุกขณะ ส่งผลให้รูปแบบการชอปปิงเปลี่ยนไป จากที่เคยชอปที่ห้างสรรพสินค้า มาเป็นการชอปออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ แล้วรอของมาส่งที่บ้าน ด้วยความสะดวกสบายดังกล่าว ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับ Thailand E-Commerce Landscape 2024 ที่คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาทในปี 2025 และทะลุ 2 ล้านล้านบาทในปี 2030
หากสนใจทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง ควรสร้างความแข็งแกร่งโดยใช้ 3 C คือ Content: สร้างเนื้อหาให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย Community: สร้างพื้นที่ให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความชอบ ความสนใจแบบเดียวกันมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน และท้ายสุด Customer Experience: สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการหา insight และความต้องการที่แท้จริง เพื่อจะได้นำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความสนใจของแต่ละคนมากขึ้น
3. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง: โอกาสใหม่ในยุคที่สัตว์เลี้ยงคือครอบครัว
ด้วยความที่สังคมในปัจจุบันมีความเป็นปัจเจกมากขึ้น ไม่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่เหมือนก่อน และคนนิยมอยู่เป็นโสดมากขึ้น ทำให้เทรนด์ Pet Parents หรือการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกกลายเป็น Mega Trend ที่น่าจับตา สอดคล้องกับที่คุณวีระพล บดีรัฐ (K WEALTH CIO จากธนาคารกสิกรไทย) กล่าวถึงการเติบโตของธุรกิจสำหรับสัตว์เลี้ยงว่า ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายใน 10 ปีข้างหน้า
หากนักลงทุนท่านใดสนใจในธุรกิจสัตว์เลี้ยง ควรสร้างจุดเด่นด้วยการเล่นกับ Emotional ว่าสินค้าหรือบริการช่วยให้ชีวิตของเจ้าของ และสัตว์เลี้ยงดีขึ้นได้อย่างไร มากกว่าการนำเสนอแค่ Functional ของสินค้าหรือบริการที่ส่วนใหญ่มักไม่ต่างกัน
4. ธุรกิจสีเขียว: ลงทุนเพื่อโลกและผลกำไรที่ยั่งยืน
จากภาวะโลกร้อน ที่นับวันยิ่งส่งผลทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทำให้สหภาพยุโรป (EU) ต้องกำหนดมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน หรือ CBAM ออกมา และไทยเองก็ได้ประกาศในการประชุม COP26 ว่า จะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 ทำให้ธุรกิจสีเขียว มีความน่าลงทุนยิ่งขึ้น โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้กล่าวถึงธุรกิจสีเขียวว่ามีอัตราการเติบโตสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 21% ต่อปี นับจากช่วง 2565-2572 โดยเพิ่มจาก 13,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 51,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สิ่งสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจหากต้องการลงทุนในธุรกิจสีเขียวก็คือ การสื่อสารเรื่อง “ความยั่งยืน” ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ เข้าใจ และเห็นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรสร้างความร่วมมือกับองค์กรที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจชัดเจนยิ่งขึ้น
5. ร้านสะดวกซัก: โอกาสใหม่ของนักลงทุนยุคดิจิทัล
ธุรกิจซักผ้า หรือธุรกิจร้านสะดวกซัก ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2025 เพราะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่เร่งรีบ ไม่ค่อยมีเวลาทำงานบ้าน โดยเฉพาะการซักผ้า ที่เหนื่อย และใช้เวลานาน ซึ่งร้านสะดวกซักสามารถซัก อบ พร้อมใส่ได้ใน 1 ชั่วโมง ทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซักเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับรายงานของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ยกให้ธุรกิจร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 เนื่องจากมีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925%
หากนักลงทุนท่านใดสนใจเปิดร้านสะดวกซัก แนะนำว่าควรลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ เพราะเจ้าของแฟรนไชส์จะมีความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา มีการออกแบบ ติดตั้ง ตามมาตรฐานโรงงาน โดยทีมช่างที่ได้รับการฝึกอบอรมจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ช่วยลดปัญหากวนใจที่ตามมาจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ตลอดจน Call Center ที่พร้อมคอยดูแลซัพพอร์ตปัญหาของนักลงทุน และลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทุกลงทุนจะมีพาร์ทเนอร์คอยเคียงข้างไปตลอดเส้นทาง
ทั้ง 5 ธุรกิจข้างต้นแสดงให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจในปี 2025 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค เทคโนโลยี และนโยบายภาครัฐ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด วิเคราะห์ความเสี่ยง และเตรียมแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจระยะยาว