GUSS DAMN GOOD ร้านไอศกรีมคนไทย ที่โต 20 เท่าภายใน 3 ปี
Business

GUSS DAMN GOOD ร้านไอศกรีมคนไทย ที่โต 20 เท่าภายใน 3 ปี

3 ธ.ค. 2020
GUSS DAMN GOOD ร้านไอศกรีมคนไทย ที่โต 20 เท่าภายใน 3 ปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
แม้ไอศกรีม จะละลายหายไปทันที เมื่อเราตักเข้าปาก
แต่กลับทิ้งเรื่องราวมากมายให้เราได้จดจำ..
หลายคนคงจะมีความทรงจำบางอย่าง ที่ชวนให้เรานึกถึงทุกครั้งที่เราทานไอศกรีม
เรื่องราวของ GUSS DAMN GOOD ก็เช่นกัน
ไอศกรีมแบรนด์นี้ เป็นมากกว่าขนม และยังมาพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่ถูกแต่งแต้มลงในเนื้อไอศกรีม
แล้วเรื่องราวของ GUSS DAMN GOOD น่าสนใจอย่างไร
การใส่เรื่องราวลงไปในขนม สำคัญกับธุรกิจแค่ไหน?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
GUSS DAMN GOOD ถูกก่อตั้งโดย คุณระริน ธรรมวัฒนะ และคุณนที จรัสสุริยงค์
จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้เกิดขึ้นในขณะที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองกำลังเรียนต่อปริญญาโท ที่ Babson College เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
สิ่งหนึ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นในเมืองนี้ คือ ร้านไอศกรีมที่ตั้งเรียงราย อยู่ทั่วเมืองอันหนาวเหน็บ
แม้กระทั่งฤดูหนาว ผู้คนก็ยังคงยืนเข้าแถว เพื่อซื้อไอศกรีมอย่างไม่ขาดสาย
เรื่องนี้ทำให้ผู้ก่อตั้งทั้งสอง เกิดความสงสัยว่าทำไมผู้คนยังคงซื้อไอศกรีมแม้อากาศจะหนาว
และคำตอบที่ได้ก็คือ ไอศกรีมทำให้ผู้คนนึกถึงเรื่องราวในช่วงเวลาฤดูร้อน
จุดนี้เองที่จุดประกายให้กับคุณระริน และคุณนที ผู้ชื่นชอบไอศกรีม เริ่มสนใจในธุรกิจนี้
เพราะนอกจากไอศกรีมจะเป็นสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราว และประสบการณ์ให้คนทานได้รับรู้อีกด้วย
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองก็ได้ออกไปชิมไอศกรีมทั่วบอสตัน
พร้อมๆ กับศึกษาความรู้เพิ่มเติมเรื่องการทำไอศกรีมจากหนังสือ และจากเจ้าของร้านไอศกรีม
ต่อมาพวกเขาก็ได้เริ่มทดลองทำไอศกรีมในอะพาร์ตเมนต์ ที่บอสตัน
และพอกลับมาประเทศไทย ก็ได้เริ่มทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ในปี 2557
โดยเริ่มจากการลงทุนซื้อเครื่องทำไอศกรีม ตู้เย็น และตู้แช่
แต่ปัญหาคือ คุณระริน และคุณนทีไม่ได้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในการทำไอศกรีมมากนัก
แม้ว่าจะมีความรู้ไม่มาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา
เพราะพวกเขากล้าที่จะลองผิดลองถูก
โดยเริ่มแรก คุณระริน และคุณนที ออกไปตามหาวัตถุดิบด้วยตัวเองหลายอย่าง
แล้วนำมาผสมกัน เพื่อให้ได้องค์ประกอบของไอศกรีมที่ดีที่สุด
หนึ่งในรสชาติที่เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ GUSS DAMN GOOD ก็คือ “Don’t Give Up #18”
รสชาติแห่งความไม่ยอมแพ้นี้ได้กลายมาเป็นชื่อเพราะว่า 
แม้ว่าจะพยายามมาแล้ว 17 ครั้งและรสชาติออกมาไม่ดี 
แต่ความพยายามครั้งที่ 18 กลับได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับที่หวังไว้ 
จนทำให้พวกเขาสู้ต่อไป และพัฒนาสูตรไปเกือบทั้งหมด 30 ครั้ง
ซึ่งสุดท้ายรสชาติไอศกรีม Don’t Give Up #18 ที่ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ก็ได้เกิดขึ้น..
หลังจากได้ไอศกรีมแสนอร่อยออกมาแล้ว
คุณระริน และคุณนที ก็ต้องเจอปัญหาอื่นที่ตามมาอีกครั้ง
เพราะในช่วงแรกที่วางขาย กลับไม่มีคนซื้อ และไม่มีใครกล้าชิม
เรื่องนี้ทำให้สองผู้ก่อตั้งต้องคิดหาทางออกใหม่ ด้วยการเอาไอศกรีมไปฝากขายตามร้านกาแฟ และ
ออกบูทตามตลาดนัดสินค้าทำมือ
พวกเขามองว่าไอศกรีม GUSS DAMN GOOD ก็คืองานฝีมือที่พวกเขาตั้งใจทำ
ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบให้มีคุณภาพ และรสชาติดี
ซึ่งหลังจากความพยายามและหาทางออกอยู่สักพัก สินค้าของพวกเขาก็เริ่มได้รับความนิยมขึ้น
แล้วที่ผ่านมา Guss Damn Good ขายดีแค่ไหน?
ปี 2560 รายได้ 1,220,807 บาท
ปี 2561 รายได้ 16,145,740 บาท
ปี 2562 รายได้ 22,531,151 บาท
จากตัวเลขด้านบนจะเห็นว่า รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด
โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 329.6%
แล้ว GUSS DAMN GOOD ใช้กลยุทธ์อะไร ถึงทำให้แบรนด์โดดเด่นขึ้นมา ท่ามกลางผู้เล่นมากมายในตลาดไอศกรีม?
สำหรับทุกวันนี้ การแข่งขันแค่เรื่องรสชาติอย่างเดียวคงไม่พอ
เพราะไม่ว่าแบรนด์ไหนๆ ก็โฆษณาว่าตัวเองใช้วัตถุดิบดี และรสชาติอร่อย
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ GUSS DAMN GOOD แตกต่างจากร้านไอศกรีมทั่วๆ ไปก็คือ “เรื่องราว”
“ชื่อ” ไอศกรีมของ GUSS DAMN GOOD ไม่ได้บอกรสชาติ
แต่ถูกตั้งให้เป็นชื่อเรื่องราวที่แบรนด์อยากจะสื่อ
เช่น Don’t Give Up #18, Stand by Me, Made My Day, Kiss Me Good Day, Blooming Day และ High School SweetHeart
นอกจากนี้ รสชาติของไอศกรีมยังถูกนำมาเล่นกับประเด็นในสังคม
อย่างเช่น รส Equality (ความเท่าเทียม) และ รส Love is Love (รัก ก็คือ รัก) ที่วางขายแค่เฉพาะในมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งความหลากหลายและเท่าเทียมทางเพศ
ที่น่าสนใจ คือ ด้วยคอนเซปต์ของแบรนด์ที่เน้นการเล่าเรื่องผ่านขนม 
และกลายเป็นจุดแข็งของ GUSS DAMN GOOD และทำให้แบรนด์มีโอกาสสร้างสรรค์ไอศกรีมรสพิเศษให้กับแบรนด์หรือบริษัทใหญ่ๆ อยู่บ่อยครั้ง เช่น 
ไอศกรีมรส Summer Smile ที่ร่วมกับ Dtac 
ซึ่งเป็นไอศกรีมรสวานิลลา เกลือ คุกกี้ ที่มีสีฟ้าสดใสเหมือนกับสีของ Dtac
มาพร้อมกับคอนเซปต์ที่อยากทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดกับอากาศร้อนทานแล้วมีความสุข
และรสนี้ยังใส่ คุกกี้ Speculoos ซึ่งชาวตะวันตกจะนิยมทานในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองด้วย
จะว่าไปแล้ว เรื่องราวของ GUSS DAMN GOOD และผู้ก่อตั้งทั้งสอง 
ก็คงเหมือนกับไอศกรีม ที่พวกเขาสรรสร้างขึ้น
เพราะไอศกรีมจะประกอบขึ้นเป็นรูปร่างได้ ต้องอาศัยส่วนผสมที่เข้ากัน
และผ่านขั้นตอนมากมายกว่าไอศกรีมจะออกมาเนื้อเนียนนุ่ม
ซึ่งหากพวกเขาละเลยเรื่องเล็กๆ บางอย่างไป 
ในวันนี้อาจไม่มีไอศกรีมแสนอร่อยจากแบรนด์ GUSS DAMN GOOD ให้หลายคนได้ทานกัน ก็เป็นได้..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.