Astor ตระกูลทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์โลก ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Old Money” ของแท้
history

Astor ตระกูลทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์โลก ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Old Money” ของแท้

4 พ.ย. 2024
Astor ตระกูลทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์โลก ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Old Money” ของแท้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากพูดถึงกลุ่มผู้ดี หรือ Old Money ฝั่งสหรัฐอเมริกา
สำหรับคนทั่วไป ก็อาจจะนึกถึงตระกูล Hilton ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานาน โดยเฉพาะคุณ Paris Hilton ทายาทรุ่นหลัง ผู้เป็นไอคอนแห่งยุค 2000
ส่วนใครที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ คงจะมีหลายชื่อ แต่หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อตระกูล Astor ตระกูลเก่าแก่ เศรษฐีที่ดินนิวยอร์ก ที่เคยรุ่งเรืองในยุค Gilded Age ของสหรัฐอเมริกา ช่วงปลายศตวรรษที่ 19
แล้วรู้หรือไม่ว่า พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 รุ่น ในการพลิกจากครอบครัวธรรมดา ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี จนถึงขั้นสามารถเป็นผู้นำ ในการสร้างสแตนดาร์ดคำว่า “Old Money” ที่เราใช้กันในปัจจุบันได้
เรื่องราวของตระกูลนี้เป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ คือคุณ John Jacob Astor ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อชายคนนี้มาบ้าง เพราะเขาเป็นตำนานนักอสังหาริมทรัพย์ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
คุณ John เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานขายผลิตภัณฑ์นมในเยอรมนี ก่อนจะอพยพมาอยู่สหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1780
เมื่อย้ายมาสหรัฐอเมริกา เขาสร้างตัวด้วยการค้าขนสัตว์ และนำเงินที่ได้ไปซื้อที่ดินราคาถูกในนิวยอร์ก
จากนั้น เขาก็หันมาลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เต็มตัว โดยกว้านซื้อที่ดินรอบ ๆ นิวยอร์ก รวมถึงบริเวณที่เป็นไทม์สแควร์ในปัจจุบันด้วย
ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองนิวยอร์ก ทำให้ที่ดินที่ตระกูล Astor ครอบครองมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
หลังจากคุณ John เสียชีวิต ลูกชายของเขา คุณ William Backhouse Astor Sr. ก็สานต่อความสำเร็จของพ่อ โดยขยายอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลให้ใหญ่ขึ้น และมันก็ขยายต่อ ๆ ไปจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลานของเขา
ตัวอย่างอสังหาริมทรัพย์สุดอลังการของตระกูลนี้ หนีไม่พ้นโรงแรมหรู Waldorf ที่ก่อตั้งขึ้นโดยทายาทในตระกูลอย่างคุณ William Waldorf Astor โดยใช้ที่ดินของตระกูล
(ปัจจุบันเป็นโรงแรม Waldorf-Astoria ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ Hilton)
และ St. Regis Hotel โรงแรมหรูซึ่งมีสาขาทั่วโลก ก็มีต้นกำเนิดมาจากทายาทตระกูลนี้อีกคน คือคุณ John Jacob Astor IV หรือชายที่ร่ำรวยที่สุดบนเรือไททานิก
พูดง่าย ๆ ก็คือ ตระกูลนี้พลิกจากตระกูลค้าขายธรรมดา ๆ กลายเป็นเศรษฐีได้ ด้วยการกว้านซื้อที่ดินในนิวยอร์ก และรุ่นลูก รุ่นหลาน ก็สานต่อ สร้างตึก อาคาร ร้านค้า และที่พักอาศัย
แต่อีกอย่างที่น่าสนใจของตระกูลนี้นอกเหนือจากการเป็นเศรษฐีทั่ว ๆ ไป ก็คือ “การสร้างสังคมไฮโซอเมริกัน”
ว่ากันว่าตระกูล Astor คือสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและความหรูหราในสังคมอเมริกัน
โดยสมาชิกตระกูล Astor มักจะแต่งงานกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีฐานะทางสังคมสูง เพราะมันช่วยเพิ่มพูนอิทธิพลและความมั่งคั่งให้กับตระกูล
ทำให้ลูกสะใภ้และหลานสะใภ้ของตระกูลนี้ มักเป็นลูกผู้ลากมากดี หนึ่งในนั้นก็คือคุณ Caroline Webster "Lina" Schermerhorn ภรรยาของคุณ William Backhouse Astor Jr. หลานชายของคุณ John
แม้ฝ่ายชายที่มาจากตระกูล Astor จะรวยมากแล้วในขณะนั้น แต่ตระกูลของลูกสะใภ้คนนี้ก็ไม่ธรรมดา เธอมาจากตระกูลเก่าแก่เชื้อสายดัตช์ที่ตั้งรกรากอยู่ในเมืองแมนแฮตตันมานาน พูดง่าย ๆ ก็คือตระกูลผู้ดีเก่า
จนในช่วงปี 1861 เกิดสงครามกลางเมือง มีคนอพยพเข้ามาในนิวยอร์กเยอะมากขึ้น แน่นอนว่าก็ต้องมีเศรษฐีต่างบ้านต่างเมืองด้วย
ตอนนั้นเกิดศัพท์คำว่า “Arrivistes” ที่หมายถึง คนรวยใหม่ ที่ไม่ได้มาจากตระกูลเก่าแก่
ทำให้คุณ Caroline พยายามกำหนดมาตรฐาน หรือว่าง่าย ๆ ก็คือ การสร้างข้อกำหนด เพื่อแบ่งแยกชัดเจน ว่า “ผู้ดีของแท้” หรือที่เราฮิตเรียกกันในปัจจุบันว่า Old Money เป็นอย่างไร
เธอจะคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มของเธอ โดยเรียกว่า “The Four Hundred” หรือกลุ่มคนจำนวน 400 คนที่ได้รับการยอมรับในวงสังคมชั้นสูง และมีอิทธิพลในสังคมนิวยอร์ก
โดยการพิจารณาจากสายเลือด ตระกูล และความมั่งคั่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ถ้าผ่านมาตรฐานที่ตั้งไว้ ก็จะได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม
เรียกได้ว่า การได้รับการยอมรับจากคุณ Caroline ให้เข้าร่วมกลุ่ม และเข้าร่วมงานสังคมของเธอ ก็ถือเป็นเกียรติ และเป็นการรับรองสถานะทางสังคมของคนยุคนั้น
และกิจกรรมของกลุ่มนี้ ก็จะเป็นการเข้าร่วมงานบอล หรืองานเต้นรำประจำปี และงานดินเนอร์ส่วนตัว ที่จัดโดยคุณ Caroline เพื่อแสดงความร่ำรวยและอิทธิพลของเธอ จนเธอกลายเป็นผู้นำสังคมชั้นสูงเลยทีเดียว
ส่วนสมาชิกในกลุ่ม The Four Hundred นี้ ถ้าให้เปิดรายชื่อเราอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไร แต่ส่วนใหญ่มักเป็นนักการเมือง หนุ่มสาวสังคมที่เป็นลูกหลานของคนที่มีตำแหน่งและหน้าที่สำคัญในสังคมอเมริกันสมัยนั้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ทรัพย์สินของตระกูล Astor ก็กระจายออกไปในทายาทหลายรุ่นอายุ และอิทธิพลของตระกูล Astor ก็ถือว่าลดลงไปเยอะ
ส่วนที่ดินต่าง ๆ ที่เคยมั่งคั่งในอดีต ส่วนใหญ่ได้ถูกขายหรือพัฒนาไปเป็นโครงการอื่น ๆ
แต่นี่ก็เป็นอีกเรื่องราวของตระกูลไฮโซสมัยก่อน ที่เคยรุ่งเรืองมาก ๆ และมีอิทธิพลจนถึงขั้นสามารถแบ่งกลุ่ม แบ่งแยกระหว่างคนรวยดาษดื่นทั่วไป และกลุ่มสังคมชั้นสูงขึ้นมาได้
ซึ่งก็ทำให้เรารู้ว่า ความพยายามในการแบ่งแยกระหว่างกลุ่ม Old Money และ New Money ไม่ได้เพิ่งมีในสมัยนี้ แต่เกิดมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.