Business
เทรนด์ “Sephora Kids” เมื่อเด็กประถม กำลังคลั่งไคล้ การซื้อสกินแคร์ตามผู้ใหญ่
25 เม.ย. 2024
เทรนด์ “Sephora Kids” เมื่อเด็กประถม กำลังคลั่งไคล้ การซื้อสกินแคร์ตามผู้ใหญ่ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ในบางครั้ง สื่อก็เป็นตัวกลางการสื่อสารที่ดีในการโฆษณา หรือบอกต่อสิ่งที่มีประโยชน์
แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเหมือนดาบสองคม
หากผู้เสพสื่อยังขาดวุฒิภาวะ เพราะส่งผลต่อการปฏิบัติเลียนแบบ
หากผู้เสพสื่อยังขาดวุฒิภาวะ เพราะส่งผลต่อการปฏิบัติเลียนแบบ
เหมือนกับเคสล่าสุด ที่กลุ่มเด็กประถมในสหรัฐฯ กำลังแห่ไปซื้อสกินแคร์ตามผู้ใหญ่ จากการรีวิวบน TikTok จนกลายเป็นเทรนด์ที่ชื่อว่า “Sephora Kids”
เรื่องราวของ Sephora Kids เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
“Sephora Kids” หรือ “Sephora Tweens” คือ เทรนด์ที่กำลังโด่งดังใน TikTok โดยใช้เรียกกลุ่มเด็ก ๆ อายุประมาณ 8-12 ปี ที่แห่กันไปซื้อสกินแคร์ในร้าน Sephora เชนร้านค้าปลีกความงามระดับโลก จากเครือ LVMH
ซึ่งหลาย ๆ คลิปของ Sephora Kids จะเห็นว่าเด็กน้อยวัยประถม กำลังทดลองและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงามที่เกินความจำเป็นในช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม, บลัชออน หรือลิปมาสก์ จนเกิดการแสดงความคิดเห็นกันมากมาย
ต้องบอกว่าเทรนด์นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอใน TikTok ที่รู้จักกันในชื่อ "Get Ready With Me (GRWM)" ที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์จะแชร์คลิปการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และการแต่งหน้าหลายขั้นตอน
ด้วยความที่ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมและเข้าถึงง่าย ทำให้เด็ก ๆ สามารถสไลด์มาเจอคอนเทนต์ประเภทนี้ได้บ่อยครั้ง จนสามารถชักจูงให้เด็ก ๆ เกิดความสนใจ และพากันไปซื้อสกินแคร์ตามอินฟลูเอนเซอร์
โดยพนักงานที่ร้าน Sephora ในสหรัฐฯ เผยกับ CNN ว่า
ช่วงนี้เด็ก ๆ มักจะเข้ามาในร้าน และไม่เข้ามาขอคำแนะนำจากพนักงาน แต่จะมุ่งตรงไปยังแบรนด์ที่อินฟลูเอนเซอร์แนะนำแทน ไม่ว่าจะเป็น Drunk Elephant, Glow Recipe หรือ Laneige
ช่วงนี้เด็ก ๆ มักจะเข้ามาในร้าน และไม่เข้ามาขอคำแนะนำจากพนักงาน แต่จะมุ่งตรงไปยังแบรนด์ที่อินฟลูเอนเซอร์แนะนำแทน ไม่ว่าจะเป็น Drunk Elephant, Glow Recipe หรือ Laneige
ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์นี้ กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่ม Gen Alpha จนพวกเขายอมทุ่มเงินกับผลิตภัณฑ์ความงามราคาแพง เพื่อซื้อครีม ราคากระปุกละ 2,000 บาท แทนที่จะไปเที่ยวเล่นตามวัย
เรียกได้ว่า ตอนนี้เทรนด์ “Sephora Kids” อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ๆ อีกต่อไป
เพราะในปี 2023 มีรายงานว่า ครอบครัวในสหรัฐฯ ที่มีเด็กอายุ 6-12 ปี ใช้จ่ายไปกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นอกจากนี้บรรดาบริษัทความงาม ยังได้รับอานิสงส์จากเทรนด์นี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
หุ้น e.l.f. Beauty ที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในปีที่ผ่านมา
เนื่องจากผลิตภัณฑ์โทนเนอร์บำรุงผิว และครีมทาหน้า กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น
ซึ่งยอดขายของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ก็พุ่งขึ้นเกือบ 90% แซงหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในไตรมาสล่าสุดความต้องการซื้อ Body Spray ของแบรนด์ Sol de Janeiro ที่มากขึ้นในกลุ่มเด็ก ๆ ช่วยผลักดันราคาหุ้นของบริษัทแม่อย่าง L’Occitane International SA เพิ่มขึ้นถึง 40% ในปีนี้
เนื่องจากผลิตภัณฑ์โทนเนอร์บำรุงผิว และครีมทาหน้า กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น
ซึ่งยอดขายของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ก็พุ่งขึ้นเกือบ 90% แซงหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในไตรมาสล่าสุดความต้องการซื้อ Body Spray ของแบรนด์ Sol de Janeiro ที่มากขึ้นในกลุ่มเด็ก ๆ ช่วยผลักดันราคาหุ้นของบริษัทแม่อย่าง L’Occitane International SA เพิ่มขึ้นถึง 40% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ แบรนด์ความงามก็ไม่เห็นด้วยกับการที่เด็ก ๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามที่เกินความจำเป็นต่อพวกเขา หลายแบรนด์จึงออกมาทำ Anti-Marketing โดยการสื่อสารกับเด็ก ๆ Gen Alpha เป็นนัย ๆ ว่า “ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเรา”
ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ Ordinary ที่ออกมาโพสต์ข้อความว่า “Teens, you don’t need ten steps”
หรือแบรนด์ Bubble Skincare ก็ออกมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม TikTok และ Instagram ว่า “Avoid its products that exfoliate or treat blemishes”
ขณะเดียวกัน แพทย์ผิวหนังหลายท่านก็ออกมาแสดงความกังวล พร้อมออกมาเตือนว่า ผลิตภัณฑ์บางประเภทไม่เหมาะสำหรับเด็ก เพราะมีส่วนผสมที่อันตรายต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น Retinol หรือ Exfoliating Acids
อีกทั้งผิวหน้าของเด็ก ๆ ก็ต้องการแค่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ครีมบำรุงผิว และครีมกันแดดเท่านั้น
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่าหลายคนจะไม่เห็นด้วยกับเทรนด์นี้สักเท่าไร
แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง เทรนด์ “Sephora Kids” ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
และอาจจะเป็นโอกาสใหม่ ๆ สำหรับแบรนด์ความงามที่ต้องการขยายกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Alpha ที่เชื่อว่าหลายอุตสาหกรรม ยังคาดไม่ถึง..