Business
GENTLEWOMAN ทำอย่างไร ให้แบรนด์โดดเด่น ท่ามกลางทะเลเลือด
22 ก.พ. 2024
GENTLEWOMAN ทำอย่างไร ให้แบรนด์โดดเด่น ท่ามกลางทะเลเลือด /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ ? ในปี 2563 GENTLEWOMAN มีรายได้ 73 ล้านบาท และกำไร 5 ล้านบาท
แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ปี บริษัทก็สามารถทำรายได้สูงถึง 594 ล้านบาท และกำไร 184 ล้านบาท
แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ปี บริษัทก็สามารถทำรายได้สูงถึง 594 ล้านบาท และกำไร 184 ล้านบาท
คิดเป็นรายได้เติบโตเฉลี่ย 185% ต่อปี กำไรเติบโตเฉลี่ย 515% ต่อปี
ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ ในตอนนี้ GENTLEWOMAN Group ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้ออกแบรนด์ใหม่ในเครือ ที่มีชื่อว่า
GENTLE LITTLEWOMAN แบรนด์เสื้อผ้าเด็กผู้หญิงอายุ 1-6 ปี ถูกใจทั้งคุณแม่และน้อง ๆ หนู ๆMATTER MAKERS แบรนด์เสื้อผ้า Unisex มาแรง สไตล์ Street Contemporary
ซึ่งทางลงทุนเกิร์ลได้มีโอกาสพูดคุยกับ GENTLEWOMAN ถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์
แล้ว GENTLEWOMAN ทำอย่างไรถึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้ว GENTLEWOMAN ทำอย่างไรถึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หากใครเป็นแฟนคลับของ GENTLEWOMAN และชอบแวะเข้าไปเลือกซื้อสินค้าที่ร้านบ่อย ๆ จะสังเกตได้ว่าเสื้อผ้าบนราวมักจะเปลี่ยนใหม่ไม่ซ้ำกันในทุก ๆ สัปดาห์
เนื่องจาก GENTLEWOMAN มีวงจรการผลิตสินค้าที่รวดเร็วมาก และออกคอลเลกชันใหม่ทุก ๆ สัปดาห์ เรียกได้ว่าถ้าช็อปช้า ก็อดซื้อสินค้าไปเลย
นอกจากนั้นยังมีสินค้ายอดนิยม เช่น กระเป๋าสะพายพิมพ์ลาย “GENTLEWOMAN” ที่เป็นกระแสจนใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ซึ่งเรื่องนี้มีรายละเอียดน่าสนใจลึก ๆ กว่านี้ ที่คุณแพง-รยา วรรณภิญโญ ผู้ร่วมก่อตั้ง GENTLEWOMAN จะมาเล่าอินไซต์ในงาน The Entrepreneur Forum 2024
(ซื้อบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2024)
(ซื้อบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2024)
ที่น่าสนใจคือ ช่วงเวลาที่ GENTLEWOMAN เป็นกระแสและเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ก็คือช่วงเวลาของวิกฤติโรคระบาด
โดยถึงแม้ว่าธุรกิจเสื้อผ้า อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่เจ็บปวดที่สุดในตอนนั้น แต่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ยากลำบากพอสมควร ทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ คน เลือกที่จะไม่ลงทุน และเก็บเงินก้อนไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินแทน
แต่สำหรับ GENTLEWOMAN กลับคิดต่างออกไป และใช้ช่องว่างทางการตลาดที่คู่แข่งกำลังหยุดนิ่ง ในการลงทุนสร้าง “Brand Awareness” ให้กับแบรนด์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
เพราะแบรนด์มองว่า “หากธุรกิจหยุดนิ่งโดยไม่เสี่ยงอะไรเลย ก็ไม่สามารถอยู่ได้เช่นกัน และเหมือนกำลังรอวันที่ธุรกิจค่อย ๆ ตายลงอย่างช้า ๆ”
ซึ่งหากเราเปรียบตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นบ่อน้ำสักบ่อหนึ่ง ที่ช่วงเวลาปกติจะมีคลื่นน้ำซัดแรงมาก จากการแข่งขันที่ดุเดือดของแบรนด์ต่าง ๆ
ด้าน GENTLEWOMAN ที่เป็นแบรนด์เล็ก ๆ ก็เหมือนกับหินก้อนเล็ก ๆ ที่แม้จะโยนลงไปก็คงไม่มีคนสังเกตเห็น
แต่ในทางกลับกัน ช่วงวิกฤติโรคระบาด บ่อน้ำกลับสงบนิ่ง ถึงแม้ GENTLEWOMAN จะเป็นหินก้อนเล็ก ๆ แต่หากโยนลงไปถี่ ๆ ในน้ำ ก็มีโอกาสที่จะสั่นกระเพื่อมแรงได้เหมือนกัน
ดังนั้น แทนที่จะหยุดนิ่ง GENTLEWOMAN ก็เลือกกระโจนลงไปในตลาดที่ไม่มีใครเคลื่อนไหว และลงทุนอย่างคุ้มเสี่ยง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
คำถามที่ตามมาคือ GENTLEWOMAN ปรับเปลี่ยนทิศทางอย่างไรบ้าง ?
อันดับแรกคือ ปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อระบายสินค้าที่ค้างอยู่ในสต็อก
เช่น เปลี่ยนผ้าปูนอนชายหาดในคอลเลกชันฤดูร้อน มาเป็นผ้าห่มสำหรับทำงานที่บ้าน หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ได้ไปเที่ยว เช่น รองเท้าแตะ, ผ้าคาดผม หรือกระเป๋าผ้า GENTLEWOMAN
ต่อมาคือ ออกสินค้าบ่อยขึ้น เพื่อหมั่นดึงดูดความสนใจของลูกค้า
ย้อนกลับไปในช่วงแรก ๆ GENTLEWOMAN ออกสินค้าเพียง 3 เดือนครั้ง เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ
ในขณะที่หลาย ๆ แบรนด์กำลังหยุดนิ่งจากวิกฤติโรคระบาด GENTLEWOMAN เลือกใช้จังหวะนี้ในการปล่อยสินค้าใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ จากเดือนละ 1 ครั้ง เป็น 2 ครั้ง จนปัจจุบันออกสินค้าใหม่ทุก ๆ สัปดาห์ เลยทีเดียว
ซึ่งการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของ GENTLEWOMAN ก็ช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด
แล้วเมื่อสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ ตลาดมีกระแสน้ำเชี่ยวเหมือนเดิม GENTLEWOMAN ก็ใช้วิธีการให้ความสำคัญกับสินค้า เพื่อที่จะทำให้แบรนด์เดินทางในธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นได้อย่างมั่นคง
โดย GENTLEWOMAN เชื่อว่าการตลาดที่คุ้มค่าที่สุด คือ “สินค้าที่ตรงใจลูกค้า” โดยวิเคราะห์จากเทรนด์ และข้อมูลต่าง ๆ
ดังนั้นแต่ละครั้งที่ GENTLEWOMAN ออกสินค้าใหม่ จะต้องผ่านการเก็บข้อมูลจากคอลเลกชันเก่าเสมอ ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ และพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ซึ่ง “Casual Fashion” ที่เป็นสไตล์เสื้อผ้าปัจจุบันของ GENTLEWOMAN ก็มาจากการวิเคราะห์เทรนด์การแต่งตัวสมัยใหม่ และความชอบของลูกค้า ที่ยังต้องการความเป็นแฟชั่น แต่ต้องใส่ได้ทุกสถานการณ์
แม้ว่าวันแรก GENTLEWOMAN จะเป็นเพียงก้อนหินเล็ก ๆ ในบ่อน้ำก็ตาม
แต่ในวันนี้แบรนด์ได้เติบโต และสามารถสร้างแรงกระเพื่อม ให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ได้ไม่น้อย
แต่ในวันนี้แบรนด์ได้เติบโต และสามารถสร้างแรงกระเพื่อม ให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ได้ไม่น้อย
ในวันที่ 30 มีนาคม ใครอยากพบกับคุณแพง ผู้ร่วมก่อตั้ง GENTLEWOMAN บนเวที พร้อมกับ ผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อีกหลายท่านเช่น คุณเฟิร์น สุกี้ตี๋น้อย, คุณโอ๊ต โคตรคูล, คุณรัตน์ Karun, คุณตัน อิชิตัน, ดร.แสงสุข Smooth E
มาพบกันได้ที่งาน The Entrepreneur Forum 2024 เสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 สถานที่ Samyan Mitrtown Hall, ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5
งานนี้เหมาะสำหรับ
✅ ผู้ต้องการ insight จากธุรกิจจริง เพื่อต่อยอดทำจริง
✅ หาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ
✅ ผู้ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง
งานนี้เหมาะสำหรับ
✅ ผู้ต้องการ insight จากธุรกิจจริง เพื่อต่อยอดทำจริง
✅ หาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ
✅ ผู้ต้องการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง
ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2024
แล้วคุณจะพบว่า ทุกธุรกิจมีอินไซต์ เบื้องลึก เบื้องหลัง ให้ได้เรียนรู้
ซึ่งหากเราสามารถ “สร้างแบรนด์ให้เด่น” เช่นเดียวกับ GENTLEWOMAN
ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ “ในตลาดทะเลเลือด”
เราก็อาจแทรกตัวเข้าไป ชิงส่วนแบ่งตลาดนี้มาได้ เช่นกัน..
ซึ่งหากเราสามารถ “สร้างแบรนด์ให้เด่น” เช่นเดียวกับ GENTLEWOMAN
ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ “ในตลาดทะเลเลือด”
เราก็อาจแทรกตัวเข้าไป ชิงส่วนแบ่งตลาดนี้มาได้ เช่นกัน..
Reference:
-สัมภาษณ์พิเศษกับคุณจิตพล ศิริวัฒนเมธางกูร ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ GENTLEWOMAN
-สัมภาษณ์พิเศษกับคุณจิตพล ศิริวัฒนเมธางกูร ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ GENTLEWOMAN
Tag:GENTLEWOMAN