กว่าจะมาเป็น Officine Universelle Buly 1803 แบรนด์ความงามฝรั่งเศส อายุ 220 ปี /โดย ลงทุนเกิร์ล

หากพูดถึงแบรนด์ดัง ที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสมายาวนานกว่าร้อยปี
เราอาจจะนึกถึง Hermès ที่มีอายุ 187 ปี
หรือ Louis Vuitton ที่มีอายุ 170 ปี

แต่รู้หรือไม่ว่า ฝรั่งเศสยังมีอีกหนึ่งแบรนด์ความงามชื่อดัง
ที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 220 ปี แต่ยังคงขายดีจนถึงทุกวันนี้
นั่นก็คือแบรนด์ “Officine Universelle Buly” (ออฟฟิซีน ยูนิเวอร์แซลล์ บูลี) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “Buly 1803”

แล้วกว่าจะมาเป็นวันนี้ Buly 1803 มีที่มาอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เรื่องราวของ Buly 1803 เริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1803
ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทย ยุคนั้นก็คือสมัยรัชกาลที่ 1

โดยนักปรุงน้ำหอมที่ชื่อว่าคุณ Jean-Vincent Bully ได้เปิดกิจการร้านขายเครื่องประทินผิวขึ้น
บนถนนแซ็งตอนอเร ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

และเขาได้สร้างชื่อให้ร้านด้วย “Vinaigre de Bully” หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีเบสจากน้ำส้มสายชู ผสมกลิ่นหอมจากซิตรัส เครื่องเทศ และดอกไม้

ซึ่งต้องบอกว่า Vinaigre de Bully พัฒนามาจาก “Four Thieves Vinegar” หรือสูตรน้ำส้มสายชูผสมกับสมุนไพร ที่เคยถูกนำมาใช้ทาผิว เพื่อป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงอย่างกาฬโรค

เมื่อ Buly 1803 ทำให้น้ำส้มสายชูสูตรใหม่นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีกลิ่นหอมสดชื่น แต่ยังคงรักษาคุณสมบัติทางยาไว้ได้ มันจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

จากนั้นแบรนด์ก็มีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นเครื่องประทินผิวอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด จนมีชื่อเสียงไปทั่วยุโรป เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ Buly 1803 เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม กาลเวลาหมุนผ่าน ก็ทำให้ชื่อของ Buly 1803 ค่อย ๆ จางหาย

จนกระทั่ง ในปี 2014
Buly 1803 ก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง เนื่องจากคุณ Victoire de Taillac และคุณ Ramdane Touhami สองสามีภรรยาผู้หลงใหลในเครื่องหอม ได้เข้ามาซื้อกิจการและเปิดหน้าร้านแห่งแรกขึ้น บนถนนโบนาปาร์ต ในกรุงปารีส

โดยทั้งคู่ได้ต่อยอดแบรนด์ โดยคงความงามของรูปแบบเก่าที่ปราศจากสารเคมี ผสมผสานกับนวัตกรรมความงามสมัยใหม่ พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น สกินแคร์ แฮนด์ครีม ลิปบาล์ม น้ำหอม เทียนหอม ไปจนถึงยาสีฟัน

ซึ่งความพิเศษของ Buly 1803 นอกเหนือจากตัวผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยแล้ว ยังมีแพ็กเกจจิงที่เป็นเอกลักษณ์ และการตกแต่งร้านที่ให้ประสบการณ์เหมือนเดินอยู่ในร้านขายยาดั้งเดิมของฝรั่งเศส

อีกทั้งบริการ Personalisation ไม่ว่าจะเป็น บริการเขียนอักษรวิจิตรโดยมืออาชีพ, บริการประทับชื่อด้วยตราประทับ และบริการสลักชื่อ หรือสลักวลีโปรดบนสินค้า

รวมไปถึงบริการพิเศษ อย่างบริการห่อของขวัญในแบบออริกาตะ หรือศิลปะการห่อของขวัญตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ Journal de l'Empire

สำหรับไอเทมยอดฮิตของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น

Eau Triple น้ำหอมสูตรน้ำ ที่มีให้เลือกถึง 12 กลิ่น ราคา 6,590 บาทPommade Concrète แฮนด์ครีม ที่อุดมด้วยเชียบัตเตอร์คุณภาพดี ขี้ผึ้ง และน้ำดอกแคโมไมล์ ราคา 1,590 บาทBaume des Muses ลิปบาล์มแบบตลับ ที่สามารถเลือกสีตลับ สีกระดาษหนังพิมพ์ลาย ตัวอักษรประดับบนกระดาษหนัง และสีซอง เพื่อให้เป็นของขวัญชิ้นพิเศษได้ ในราคาจับต้องได้ที่ 1,490 บาท นั่นเอง

ทั้งนี้ การเติบโตของแบรนด์ ยังไปเข้าตาเครือบริษัทแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลกอย่าง LVMH เจ้าของแบรนด์ Louis Vuitton จนประกาศเข้าซื้อกิจการ Buly 1803 ในปี 2021

ซึ่งการเข้าร่วมกับ LVMH ก็ส่งผลให้ Buly 1803 โตเร็วยิ่งขึ้นไปอีก ถึงขั้นขยายหน้าร้านไปแล้ว 34 สาขา ใน 13 ประเทศทั่วโลก เช่น อิตาลี, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

รวมถึงในประเทศไทย ก็ได้เข้ามาปักหมุดเปิดร้านแห่งแรก ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เมื่อกลางปี 2022 อีกด้วย

และทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวกว่า 220 ปี ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ทั้งจุดสูงสุด ไปจนถึงจุดที่แย่ที่สุด ก่อนจะกลับมาได้อีกครั้ง จนกลายเป็น Buly 1803 อย่างในวันนี้..

References:
-https://buly1803.com/en/pages/history
-https://www.facebook.com/officineuniversellebulyth/
-https://nuvomagazine.com/magazine/spring-2022/the-beautiful-curiosities-of-officine-universelle-buly-1803
-https://delood.com/photostory/officine-universelle-buly-1803-founded-in-1803-paris/
-https://www.lbss.it/officine-universelle-buly-all-that-is-passed-and-passing-and-to-come/
-https://www.lvmh.com/news-documents/news/officine-universelle-buly-1803-joins-the-lvmh-group/