-ซื้อ MEGA10CHINA กองทุน MEGA10CHINA-A, MEGA10CHINA-SSF, MEGA10CHINARMF ได้ในช่วง IPO 21-26 ธ.ค. 2566 ซื้อได้ที่ บลจ.ทาลิส และ ผู้สนับสนุนการขาย หลายรายทั่วประเทศ เช่น InnovestX, Finnomena, Dime ฯลฯ

สำหรับมนุษย์เงินเดือนยุคนี้ มีรายได้ทางเดียวอาจยังไม่พอ การให้เงินทำงานไปพร้อม ๆ กับเรา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เงินเติบโตโดยไม่ต้องออกแรงเพิ่ม

แต่ถ้าพูดถึงคนที่ทำงานประจำจนแทบไม่มีเวลาติดตามตลาดหุ้นด้วยตัวเอง
“กองทุนรวม” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์

โดยเฉพาะกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ได้ทั้งลงทุนระยะยาวและใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปในเวลาเดียวกัน

ทว่าเวลาจะซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีสักกอง จะดูแค่สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีอย่างเดียวไม่ได้ แต่ยังจำเป็นต้องดูนโยบายและกิจการที่กองทุนเข้าไปลงทุนด้วย

วันนี้ เรามารู้จักกับกองทุน MEGA10CHINARMF และกองทุน MEGA10CHINA-SSF เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกองทุนที่ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาการลงทุนในจีน และมีตัวเลือก SSF และ RMF ให้เรานำไปลดหย่อนภาษีได้

กองทุน MEGA10CHINARMF และ กองทุน MEGA10CHINA-SSF มีความน่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ความน่าสนใจของกองทุน MEGA10CHINARMF และกองทุน MEGA10CHINA-SSF คือ คอนเซปต์การลงทุน ที่เน้นลงทุน 10 บริษัทที่มีความโดดเด่นในประเทศจีน โดย

โดยมีแนวคิดเดียวกับกองทุน MEGA10 ที่เลือกลงทุนในหุ้น 10 บริษัทของสหรัฐอเมริกาแบบเน้น ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าสนใจ

(ข้อมูลเพิ่มเติม : กองทุน MEGA10 ชนิดสะสมมูลค่า MEGA10-A และ ชนิดเพื่อการออม MEGA10-SSF) และ กองทุนเปิด MEGA10 เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10RMF)

โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายใน NYSE / NASDAQ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) จากการจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับตราสินค้า (Brand) ระดับสากล และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และที่มีสภาพคล่องสูงสุด 10 บริษัทแรก - ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ - www.talisam.co.th)

แล้วทำไมต้องเป็นประเทศจีน ?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดัชนี Hang Seng (HSI) ปรับตัวลดลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 10 ปี แต่ในขณะเดียวกันสถานการณ์นี้ก็ทำให้หุ้นพื้นฐานดีหลายบริษัทกลับมาอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน ในปี 2024 ก็เริ่มมีสัญญาที่กำลังบ่งบอกว่าว่าตลาดหุ้นจีนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ เช่น

Morgan Stanley คาดการณ์ว่าจะเป็นปีที่ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มทำผลงานได้ดีกว่าดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

ด้าน Goldman Sachs ก็มีการคาดการณ์ว่าดัชนี CSI300 ของจีนจะไปถึง 4,200 ภายในสิ้นปี 2024 เป็นต้น

จังหวะนี้ การเลือกลงทุนในหุ้นของกิจการในประเทศจีนที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีโอกาสในการเติบโตตามเทรนด์และเศรษฐกิจโลกได้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

แต่ก็ไม่ใช่อะไรก็ได้.. MEGA10CHINA ใช้ Rule Based Approach เป็นหลักในการคัดเลือกหุ้น ทั้งในแง่ของ การเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) ในกลุ่ม TOP/BEST CHINESE BRANDS จากการจัดอันดับ โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว มูลค่าตลาดของบริษัท สภาพคล่อง และ อื่น ๆ

รวมถึงเป็นหุ้นที่มีธุรกิจบนจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ที่รัฐบาลจีนไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้กิจการที่เข้าไปลงทุน ล้วนเป็นกิจการที่บริหารจัดการได้อย่างอิสระอีกด้วย

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ลองไปดูตัวอย่างหุ้น
ที่คาดว่า MEGA10CHINA จะเข้าไปลงทุน

- Alibaba อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในจีน และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
เจ้าของ LAZADA แพลตฟอร์มช็อปปิงออนไลน์ที่คุ้นเคยกันดี

- Tencent บริษัทพัฒนาเกม แอปแช็ต WeChat ที่ใช้กันมากสุดในจีน
และยังเป็นบริษัทที่มีพอร์ตการลงทุนกระจายไปหลายธุรกิจ

- BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
มีมูลค่าตลาดราว 2.9 ล้านล้านบาท ที่ตอนนี้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า
ที่มียอดส่งมอบรถทุกประเภทเป็นอันดับ 1 ของโลกแซงหน้า Tesla ไปแล้ว

ทั้งนี้ ตัวอย่างบริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น

จะเห็นได้ว่านโยบายการลงทุนของ MEGA10CHINA ช่วยคัดเลือกกิจการในจีน ที่ได้รับการจัดอันดับ ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับเราได้ในระยะยาว

แม้เราจะไม่มีเวลาตามราคาหุ้นจีนด้วยตัวเอง โดย MEGA10CHINA มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง(Hong Kong Stock Exchange; HKEX) ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) ในกลุ่มTOP/BEST CHINESE BRANDS จากการจัดอันดับโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว

โดยผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกและพิจารณาเน้นลงทุนในตราสารทุนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 10 บริษัท

ยิ่งไปกว่านั้น หากเลือกลงทุนเป็นกองทุน SSF และ RMF ก็ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีแต่ละประเภทได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี รวมกันไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อนับรวมวงเงินกลุ่มเกษียณทั้งหมดอีกด้วย

หมายเหตุ : กลุ่มเกษียณ ได้แก่ SSF, RMF, PVD, กบข., กอช., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน

MEGA10CHINA-SSF และ MEGA10CHINARMF จึงเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการลงทุนในระยะยาวพร้อมใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในวัยทำงานของเราด้วย ส่วน MEGA10CHINA-A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return)

โดยกองทุน MEGA10CHINA และ MEGA10CHINARMF จะ IPO ในวันที่ 21 – 26 ธันวาคม 2566 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส talisam.co.th 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และ ผู้สนับสนุนการขาย 29 ราย

1.บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
2.บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
3.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
4.บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5.บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
6.หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
9.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
10.บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
11.บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
12.บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
13.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
14.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
15.บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
16.บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน)
17.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
18.บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
19.บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
20.บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
21.บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
22.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
23.บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
24.บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
25.บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
26.บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
27.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด
28.บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
29.บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด

เพื่อประโยชน์ของท่านอย่าลืมลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://www.talisam.co.th/terms-and-conditions/

คำเตือน :

-กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

-กองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

-ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

References
-https://www.tradingview.com/
-https://finance.yahoo.com/
- https://companiesmarketcap.com/