Loacker x ลงทุนเกิร์ล

เอ่ยชื่อ “Loacker” (ล็อคเกอร์) หลายคนคงคุ้นหูเป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์เวเฟอร์ในตำนานจากอิตาลี ที่ส่งต่อความอร่อยมายาวนานเกือบ 100 ปี

แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้และคาดไม่ถึง คือ เบื้องหลังความอร่อยของเวเฟอร์ Loacker ที่ชวนให้ติดใจตั้งแต่คำแรก​นั้น มาจากความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกที่ตั้งของโรงงาน

แล้วการเลือกทำเลที่ตั้งของโรงงาน มาเกี่ยวอะไรกับ รสชาติของเวเฟอร์ ที่ครองใจคนทั้งโลก ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

คำตอบของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Loacker ซึ่งตั้งชื่อตาม คุณ Alfons Loacker ชายผู้มีแพสชันในการทำขนม และมีความฝันว่าอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง

เขาตั้งใจร่ำเรียนวิชา จนสามารถเก็บเงินซื้อร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ในเมืองโบลซาโน ที่เขาทำงานมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายได้สำเร็จ

ด้วยฝีมือและความตั้งใจในการทำขนม ประหนึ่งทำให้คนในครอบครัวกิน ทำให้ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วจากร้านเบเกอรี่ ทำไมถึงกลายมาเป็นขนมเวเฟอร์ที่วางขายทั่วโลกได้ ?

จุดเปลี่ยนเกิดจากตอนที่ลูกชายและลูกสาวของคุณ Alfons Loacker เข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจ
ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล​ พวกเขาลงทุนซื้อเครื่องทำ “เวเฟอร์” มาใช้ เพื่อขยายกำลังการผลิต

ผลปรากฏว่า ขนมเวเฟอร์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนนำไปสู่การตั้งโรงงานผลิตเวเฟอร์ Loacker และเริ่มส่งออกไปจำหน่ายยังเมืองอื่น ๆ ประเทศใกล้ ๆ จนตอนนี้มีขายแล้วทั่วโลก

จากวันนั้นถึงวันนี้ เวเฟอร์ Loacker กลายเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนทั้งโลก ขึ้นแท่นเป็นเวเฟอร์พรีเมียมอันดับ 1 จากอิตาลี ที่มียอดขายมากกว่าหมื่นล้านบาททั่วโลก และเป็นแบรนด์ยอดขายอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50%ในอิตาลี

ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันยังอยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่นที่ 3 ของคุณ Alfons Loacker

ถามว่า อะไรคือเบื้องหลังความอร่อยของเวเฟอร์ อันดับ 1 จากอิตาลี ที่ทำให้ยืนหนึ่งมาได้อย่างยาวนาน
​
ข้อ 1 คือ คุณภาพของสินค้า และความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้งของโรงงานให้อยู่บนภูเขา

ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่าโลโก้ของ Loacker ทุกห่อ จะมีภาพภูเขาที่ชื่อ Sciliar ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาโดโลไมต์ (Dolomites) ทางตอนเหนือของอิตาลี และมีความสวยงามทางธรรมชาติระดับ World Heritage ซึ่งเป็นสถานที่ใกล้ ๆ กับร้านสาขาแรกที่ Loacker ก่อตั้งขึ้นนั่นเอง

โดยเหตุผลที่คุณ Alfons Loacker เลือกตั้งร้านบนภูเขาที่ไกลจากชุมชน
เพราะเขาเชื่อว่า “การผลิตขนมที่ดี” จะต้องอยู่ใน “ธรรมชาติที่ดี”

ดังนั้น การที่ร้านตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชน ก็หมายความว่า ห่างไกลจากมลภาวะต่าง ๆ
เอื้อต่อความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพสินค้าแบบที่ไม่ได้จากแบรนด์อื่น

ที่น่าสนใจคือ แนวคิดนี้ถูกนํามาต่อยอดในการสร้างโรงงานของ Loacker โดยทุกที่จะต้องตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาโดโลไมต์ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร

อีกเหตุผลที่ต้องตั้งโรงงานบนที่สูงแบบนี้ก็เพราะ บนที่สูงภูมิอากาศจะแห้ง และมีความชื้นที่ต่ำ
ตอบโจทย์การผลิตแผ่นเวเฟอร์ให้อร่อยตามแบบฉบับ Loacker และยังคงความกรอบได้ยาวนานตามธรรมชาติ

ข้อ 2 คือ รสชาติที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ​

ไม่ว่า Loacker จะออกรสชาติไหน ก็ไม่เคยทิ้งเอกลักษณ์ในเรื่องของความเข้มข้น​ เพราะวัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้นั้น คัดมาอย่างพิถีพิถัน จากแหล่งขึ้นชื่อของวัตถุดิบนั้น ๆ

อย่าง เฮเซลนัตคัดมาจากอิตาลี โกโก้แท้จากเอกวาดอร์ และวานิลลาทำจากฝักวานิลลาแท้จากมาดากัสการ์ชาเขียวจากญี่ปุ่น หรือนมที่ได้จากการเลี้ยงวัวแบบธรรมชาติบนภูเขาแถบไดโลไมต์

ข้อ 3 คือ มากกว่าความอร่อยคือคุณภาพที่วางใจได้​

เพื่อให้เวเฟอร์ Loacker ส่งมอบความอร่อยจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด จึงไม่มีการเติมสีและรสชาติสังเคราะห์ รวมทั้งวัตถุกันเสีย ​ไม่ใช้วัตถุดิบที่เป็น GMO (Non-GMO)

ทําให้ผลิตภัณฑ์ขนมที่ทำด้วยใจแบรนด์นี้ มีมากกว่าความอร่อย ที่มาพร้อมทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย รวมถึงการใส่ใจคนทานประหนึ่งทำให้คนในครอบครัวกิน

นอกจากจะใส่ใจเรื่องความอร่อยและคุณภาพ Loacker ยังให้ความสำคัญกับอินไซต์ของผู้บริโภค
ยกตัวอย่างเช่น การปรับสูตรลดความหวานลง และเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติให้มากขึ้นอีก เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่มาแรง

ล่าสุดยังยกระดับความอร่อย ให้แฟน ๆ Loacker อร่อยได้แบบไม่รู้สึกผิด กับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Loacker Multigrain
ครั้งแรกกับเวเฟอร์ไฟเบอร์สูง สําหรับคนที่อยากได้ทั้งความอร่อย และสุขภาพไปพร้อมกัน

ที่ตั้งใจรังสรรค์มาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ ที่มองว่าความอร่อยอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์เสมอไป
เพราะถ้าจะให้ดี ต้องอร่อยได้แบบรู้สึกดี กินได้แบบไม่รู้สึกผิด

จึงเลือกล็อกความอร่อยแบบเดิม เพิ่มเติมคือประโยชน์แบบเต็ม ๆ
เพราะแป้งเวเฟอร์ของ Loacker Multigrain ทําจากธัญพืชโฮลเกรน ไม่ว่าจะเป็น Oat, Wheat และ Spelt มีไฟเบอร์สูง
ส่วนเนื้อครีมยังคงความเข้มข้น แต่มีการปรับความหวานให้ลดลง ทว่าความอร่อยไม่ลดตาม

อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นภาพแล้วว่า ทำไม Loacker ถึงเป็นแบรนด์ขวัญใจคนทั้งโลก
เพราะ Loacker เป็นเวเฟอร์ที่มีมากกว่าความอร่อย ที่จัดเต็มเรื่องคุณภาพที่ใส่ใจไปถึงลูกค้า

ใครที่อยากท้าพิสูจน์อีกขั้นของความฟิน Loacker Multigrain มีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ เฮเซลนัต รสยอดนิยมที่เข้มข้นเต็มครีมเฮเซลนัตจากอิตาลี และรสช็อกโกแลต ที่เข้มข้นทําจากโกโก้แท้
มีทั้งรุ่น ควอดราตินี เวเฟอร์ชิ้นพอดีคํากับครีมเต็ม ๆ 4 ชั้น และแบบคลาสสิกบาร์ ครีม 2 ชั้นรสชาติเข้มข้น

พบความอร่อยพร้อมประโยชน์ ที่จะทำให้โมเมนต์การกินเวเฟอร์มีความสุขยิ่งขึ้นได้แล้วที่
ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือช็อป Online ง่าย ๆ ที่ Loacker LazMall https://bit.ly/2W5xEv8