espoir แบรนด์เครื่องสำอางที่กำลังมาแรง /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี
หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อแบรนด์ espoir เท่าไร

แต่ espoir กำลังเป็นแบรนด์มาแรงทั้งในไทยและเกาหลี แบรนด์นี้จะเน้นเครื่องสำอางที่ทำให้ผู้ใช้มีเทคนิคราวกับว่าเป็น Professional

รู้หรือไม่ว่า espoir เป็นแบรนด์ภายใต้บริษัท AmorePacific
ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อย่าง Etude, Innisfree, Sulwhasoo, Mamonde และ Laneige

นอกจากนี้บริษัท AmorePacific ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ความงามอื่นๆ อีก 29 แบรนด์

AmorePacific ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1945 ที่ประเทศเกาหลี
ปัจจุบัน AmorePacific เป็นบริษัทด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี
ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ทรงอิทธิพลทางด้านความงามของโลก

สาวๆ หลายคนคงจะรู้จัก “คุชชั่น” ซึ่งผู้คิดค้นคุชชั่นรายแรกก็คือบริษัท AmorePacific นั่นเอง
คุชชั่น ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของบริษัทนี้เลยก็ว่าได้

เพราะหลังจากที่สินค้าเริ่มวางขาย คุชชั่นก็กลายเป็นไอเทมยอดฮิตของสาวๆ ทันที
ทำให้หลายแบรนด์ทางฝั่งตะวันตกยังต้องผลิตคุชชั่นออกมาวางขายตามๆ กัน

เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ ทุกคนอาจจะกำลังคิดว่าการที่ espoir อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ถ้าจะสามารถทำยอดขายได้สูงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

แต่ความจริงแล้ว บริษัท AmorePacific กำลังเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก
เพราะกำไรของบริษัทลดลงติดต่อกันถึง 3 ปี ดังนี้

ปี 2017 กำไร 13,000 ล้านบาท ลดลง 39.7%
ปี 2018 กำไร 10,000 ล้านบาท ลดลง 23.1%
ปี 2019 กำไร 7,000 ล้านบาท ลดลง 28.5%

นอกจากนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2020
บริษัทยังได้รับผลกระทบที่รุนแรงจาก COVID-19
จนทำให้กำไรของบริษัทเหลือเพียง 2,500 ล้านบาท ลดลงถึง 41.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2019

แต่นี้คงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
เพราะบริษัทหลายแห่งทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 กันหมด

แต่ความน่าสนใจของเรื่องนี้มันอยู่ที่ “แบรนด์ espoir”

ในไตรมาสแรกของปี 2020
แบรนด์ espoir มีรายได้ 367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%
และทำกำไร (Operating Profit) 48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3,709%

สำหรับกลยุทธ์ของแบรนด์ espoir ก็คือการปิดหน้าร้านที่ตนเองเป็นเจ้าของโดยตรงหลายแห่ง
และหันมาขยายสาขาผ่านร้าน multi-brand แทน

ซึ่งร้าน multi-brand ก็คือร้านเครื่องสำอางที่รวมเอาแบรนด์เครื่องสำอางหลายๆ แบรนด์มาไว้ในที่เดียว

ดังนั้นกำไร (Operating Profit) ที่พุ่งสูงขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ
การลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ทำให้เหลือกำไรมากขึ้น

นอกจากนี้ แบรนด์ espoir ยังเริ่มขยายตลาดออกไปนอกเกาหลีมากขึ้น
โดยเริ่มจากไทยเป็นประเทศแรก

espoir ใช้ร้าน EVEANDBOY เป็นช่องทางในการเข้ามาบุกตลาดความงามไทย
และดูเหมือนแผนนี้ของ espoir จะเป็นความคิดที่ดีมาก

เพราะปัจจุบัน espoir ติด 1 ใน 7 ของแบรนด์ยอดนิยมใน EVEANDBOY
ทั้งๆ ที่แบรนด์ espoir เพิ่งจะเข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่แล้ว

นอกจากนี้แบรนด์ espoir ยังเพิ่มสินค้าในหมวด Face Makeup ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

และแบรนด์ espoir ยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ อย่างเช่น
ลิปสติก No Wear Gentle Matte และ ลิปสติก No Wear Chiffon Matte

เรียกได้ว่าตอนนี้แบรนด์ espoir ได้กลายเป็นความหวังใหม่ของบริษัท AmorePacific เลยทีเดียว..

References:
- https://www.forbes.com/profile/suh-kyung-bae/?list=korea-billionaires#9964b57b9c9e
- https://www.apgroup.com/int/en/investors/amorepacific-group/ir-reports/ir-reports.html
- http://en-int.amorepacific.com/int/en/investors.html
- https://www.apgroup.com/th/th/brands/brands.html
- https://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/54150
- https://www.ryt9.com/en/anpi/222509
- AMOREPACIFIC GROUP 2017 Earnings Release
- AMOREPACIFIC GROUP 2018 Earnings Release
- AMOREPACIFIC GROUP 2019 Earnings Release
- AMOREPACIFIC GROUP 1Q 2020 Earnings Release