PANGAIA แบรนด์แฟชั่น ที่ออกแบบในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ความยั่งยืน” กลายเป็นวาทกรรมสำคัญสำหรับโลกธุรกิจแฟชั่น
จนหลาย ๆ แบรนด์ต่างออกคอลเลกชันที่เป็น “Sustainable Fashion” หรือ “แฟชั่นที่ยั่งยืน”

แต่สำหรับโลกอุตสาหกรรม ที่ขับเคลื่อนวัฒนธรรมบริโภคนิยม อย่างแฟชั่น
สังคมก็มักจะตั้งคำถามว่าสิ่งเหล่านี้คือความยั่งยืนจริง ๆ หรือเป็นเพียงกระแสเท่านั้น

วันนี้ลงทุนเกิร์ลจึงอยากแนะนำให้รู้จัก PANGAIA
แบรนด์ที่ได้คิดค้นเสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน ให้มีความพิเศษ
และที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ซึ่งแบรนด์นี้ยังได้รับความนิยมอย่างมาก แม้แต่เซเลบริตีอย่าง Bella Hadid, Justin Bieber,
Harry Styles, Pharrell Williams และ Kourtney Kardashian ก็เลือกสวมใส่แบรนด์นี้เช่นกัน

แล้วเรื่องราวของ PANGAIA น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

PANGAIA คือแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา

สร้างชื่อเสียง จากการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผ่านผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากอุตสาหกรรมแฟชั่น

โดยผนึกกำลังบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จากทั่วทุกมุมโลก
ไม่ว่าจะเป็น นักออกแบบ นักเทคโนโลยี และนักวิทยาศาสตร์

สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เสื้อเชิ้ต, เสื้อฮู้ด, กางเกงวอร์ม, เสื้อแจ็กเกต, เสื้อกันลม
ไปจนถึงรองเท้า, กระเป๋า, หมวกแก๊ป และอุปกรณ์เสริมกันหนาวอื่น ๆ

มีจุดเด่นคือ แฟชั่นลุกสตรีตมินิมัล หลากสีสัน และสวมใส่สบาย

ส่งผลให้ปีที่ผ่านมา แบรนด์ได้รับผลประโยชน์จากการกักตัว
เนื่องจาก ผู้บริโภคหลายคน ลดความสำคัญของการแต่งกาย
มองหาเสื้อผ้าใส่สบาย และใช้งานได้หลายโอกาสมากขึ้น

โดยในปี 2020 PANGAIA สร้างรายได้ไปกว่า 2,535 ล้านบาทเลยทีเดียว

ที่น่าสนใจคือ PANGAIA มีโมเดลธุรกิจ ที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ

ส่วนแรกคือ DTC (Direct to Consumer) ซึ่งอาศัยการขายสินค้าโดยตรงให้กับผู้บริโภค ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

และอีกส่วนคือ B2B (Business to Business) หรือการค้าระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน
โดยสร้างรายได้ จากนวัตกรรมสิ่งทอที่แบรนด์คิดค้น เช่น ผ้าเส้นใยใบสับปะรด หนังที่ทำมาจากองุ่น
รวมถึงการอนุญาตให้คู่สัญญาใช้ลิขสิทธิ์ ในเทคโนโลยีที่แบรนด์จดสิทธิบัตร

แล้วกว่าจะมาเป็นเสื้อผ้า 1 ชุดของ PANGAIA มีการใช้เทคโนโลยีที่น่าสนใจอะไรบ้าง ?

เริ่มตั้งแต่ “เส้นใย” ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า C-FIBER ผลิตเสื้อยืดเส้นใยสาหร่ายแทนเส้นใยฝ้าย ที่เป็นซิกเนเชอร์ของแบรนด์

โดย PANGAIA ได้ปลูกสาหร่ายเองใต้ทะเล ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำจืดดูแล
เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรน้ำจำนวนมหาศาลในการปลูกฝ้าย

จากนั้นเสื้อผ้าที่ได้ จะผ่านการบำบัดด้วยน้ำมันเปปเปอร์มินต์ หรือเทคโนโลยี PPRMINT ซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย

ทำให้เสื้อผ้าคงความสะอาดระหว่างการใช้งานได้นานขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องซักผ้าบ่อยครั้ง ช่วยลดการใช้น้ำในครัวเรือน และลดการใช้สารเคมีที่เกิดจากน้ำยาซักผ้า

จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการย้อมสี ที่เกิดจากนวัตกรรมสีย้อมสิ่งทอที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ

นอกจากนั้น แบรนด์ยังคิดค้นเทคโนโลยี FLWRDWN ผลิตเสื้อแจ็กเกตจากดอกไม้ป่าที่มีลักษณะคล้ายขนเป็ด ซึ่งสามารถให้ความอบอุ่น ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา และไม่ทำให้แพ้ง่าย

แทนการใช้ขนสัตว์จากกระบวนการอันโหดร้าย และใยสังเคราะห์ที่ย่อยสลายยาก

และยังมีเทคโนโลยี AIR INK ที่ดักจับคาร์บอนหรือควันพิษในอากาศ
เปลี่ยนเป็นน้ำหมึกคาร์บอน สำหรับสกรีนข้อความและลวดลายต่าง ๆ ลงบนเนื้อผ้า

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่ PANGAIA คิดค้นขึ้นเท่านั้น
แต่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์มีความตั้งใจจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างครอบคลุม

โดยแม้แต่แพ็กเกจห่อสินค้า ก็ออกแบบมาให้ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100%
เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่าพันล้านตันทั่วโลก

รวมทั้ง ฉลากเสื้อผ้ายังมีรหัส QR Code บอกถึงข้อมูลสินค้า แหล่งที่มาและวิธีการผลิตสินค้า ข้อมูลเกี่ยวกับจริยธรรม ผลกระทบจากการผลิตสินค้า เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีความยั่งยืนเพียงใด

นอกจากนี้ PANGAIA ยังจับมือร่วมกับศิลปินหรือองค์กรต่าง ๆ
ระดมทุนและบริจาคเงินให้กับองค์กรที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษอีกด้วย

เช่น การเปิดตัวคอลเลกชัน Protect the Species ออกแบบร่วมกับศิลปิน Raku Inoue
เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลในออสเตรเลีย ที่ปกป้องและรักษาโคอาลาประมาณ 700-1,000 ตัวในแต่ละปี

คอลเลกชัน PANGAIA x COSTA BRAZIL ร่วมมือกับ Costa Brazil และศิลปิน Nick Theobald
โดยบริจาคกำไร 100% ให้กับ Amazon Forever เพื่อสนับสนุนชุมชนพื้นเมืองในป่าฝนแอมะซอน
พื้นที่ปอดของโลกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19

และยังมีแคมเปญทุกการสั่งซื้อสินค้า 1 ครั้ง = ปลูก ปกป้อง และฟื้นฟูต้นไม้ 1 ต้น

เรียกได้ว่า PANGAIA เป็นแบรนด์ที่คิดถึงความสมดุลระหว่างวิทยาศาสตร์ การออกแบบ เทคโนโลยี และความยั่งยืนอยู่เสมอ

ซึ่งเรื่องราวของ PANGAIA ก็น่าจะเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อน ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
แสดงให้เห็นว่ามีธุรกิจแฟชั่นที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง “ความยั่งยืน” จริง ๆ
ไม่ใช่แค่การทำ Green Marketing หรือเป็นเพียงกลยุทธ์การตลาดเท่านั้น..

References:
-https://thepangaia.com/pages/impact-innovative-materials
-https://www.forbes.com/sites/brookerobertsislam/2019/12/05/this-startup-is-reshaping-what-it-means-to-be-a-sustainable-fashion-brand-from-materials-through-to-products/
-https://www.businessoffashion.com/articles/retail/pangaia
-https://vogue.sg/pangaia-sustainable-loungewear/
-https://www.forbes.com/sites/amynguyen/2021/06/07/carbon-labels-digital-passports-and-traceability-tags--clothing-labels-new-normal/