FashionBusiness
Lanvin ห้องเสื้อชั้นสูง ที่เริ่มจาก การตัดเย็บชุดตุ๊กตาให้ลูกสาว
16 ต.ค. 2021
Lanvin ห้องเสื้อชั้นสูง ที่เริ่มจาก การตัดเย็บชุดตุ๊กตาให้ลูกสาว /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าใครเคยดูซีรีส์คลาสสิกอย่าง Sex and the City
นอกจากเรื่องราวของสี่สาวเพื่อนสนิท ในมหานครนิวยอร์ก
แฟชั่นของตัวละครที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน
นอกจากเรื่องราวของสี่สาวเพื่อนสนิท ในมหานครนิวยอร์ก
แฟชั่นของตัวละครที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน
ที่น่าสนใจคือ ชุดเจ้าสาวจากในเรื่อง Sex and the City ยังคงเป็นไอเดียชุดแต่งงานสำหรับสาว ๆ
อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะออกอากาศตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วก็ตาม
อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะออกอากาศตั้งแต่ 20 ปีที่แล้วก็ตาม
โดยหนึ่งในนั้นก็มีชุดเจ้าสาวจากแบรนด์ Lanvin ห้องเสื้อชั้นสูงจากฝรั่งเศสอยู่ด้วย
แล้วแบรนด์ Lanvin มีความเป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แล้วแบรนด์ Lanvin มีความเป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Lanvin (ลองแวง) เป็นแบรนด์แฟชั่นระดับตำนาน ที่มีเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1889 หรือมีประวัติยาวนานถึง 132 ปี
ถือเป็นแฟชั่นเฮาส์ฝรั่งเศสเก่าแก่ที่สุด เป็นอันดับสาม ที่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่ รองจาก Hermès และ Louis Vuitton
โดย Lanvin ตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้ง นั่นก็คือ คุณ Jeanne Lanvin
เดิมทีเธอเปิดร้านหมวกเล็ก ๆ ใจกลางกรุงปารีส
แต่ด้วยความสวยงามของหมวก ทำให้แบรนด์ได้รับชื่อเสียง และความสนใจจากสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์มากมาย
แต่ด้วยความสวยงามของหมวก ทำให้แบรนด์ได้รับชื่อเสียง และความสนใจจากสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์มากมาย
จนกระทั่งปี 1897 คุณ Jeanne Lanvin ได้ให้กำเนิดคุณ Marguerite ลูกสาวของเธอ
และเรื่องนี้เองที่ทำให้ชีวิตของคุณ Jeanne Lanvin เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
จากช่างทำหมวกชื่อดัง สู่เส้นทางดีไซเนอร์ระดับโลก
จากช่างทำหมวกชื่อดัง สู่เส้นทางดีไซเนอร์ระดับโลก
ด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างแม่ลูก จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้คุณ Jeanne Lanvin
เริ่มประดิษฐ์ชุดตุ๊กตา และตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับลูกสาวตัวน้อย
เริ่มประดิษฐ์ชุดตุ๊กตา และตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับลูกสาวตัวน้อย
ซึ่งชุดที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นมา ก็ได้รับคำชื่นชมจากเพื่อนและลูกค้าที่มาซื้อหมวกอยู่บ่อย ๆ จนเริ่มมีคำขอให้คุณ Jeanne Lanvin ออกแบบเสื้อผ้าเด็กจำหน่ายจริง ๆ บ้าง
เรื่องนี้ จึงนำไปสู่การเปิดแผนกเครื่องแต่งกายเด็กในปี 1908
ก่อนจะขยายสู่แผนกเครื่องแต่งกายสตรีเพิ่ม ในปีถัดมา เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อเสื้อผ้าเด็กเริ่มมีมากกว่าหมวก รวมถึงผู้หญิงในหลาย ๆ วัยที่โตขึ้นก็ขอให้เธอออกแบบเสื้อผ้าให้บ้าง
ทำให้บรรดาแม่และลูกสาวชาวปารีสมากมาย มาเข้าแถวเลือกซื้อเสื้อผ้าจาก Lanvin ไม่ว่าจะเป็นชุดสำหรับกลางวัน ชุดราตรี เสื้อโคต ไปจนถึงชุดชั้นใน
และในปีเดียวกันนี้ คุณ Jeanne Lanvin ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Chambre Syndicale de la Couture หรือที่รู้จักกันในนาม สมาคมโอตกูตูร์
คุณ Jeanne Lanvin จึงได้รับสถานะเป็น ดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าของปารีสอย่างเป็นทางการ
ซึ่งที่ผ่านมาคุณ Jeanne Lanvin ก็มักจะนำความรักที่มีต่อลูกสาว มาสื่อให้เห็นชัดเจนผ่านตัวแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น
งานออกแบบที่มักจะมีคุณ Marguerite เป็นแรงบันดาลใจ โดยเน้นความเรียบง่ายแต่ประณีต การตัดเย็บตามรูปร่างผู้หญิง รวมถึงงานปักที่ละเอียดอ่อนบนผ้าหรูหรา
โลโกของแบรนด์ก็เป็นรูปภาพเหมือน จากภาพถ่ายของคุณ Jeanne Lanvin กำลังจับมือลูกสาวที่สวมเสื้อผ้าเข้าชุดกัน ขณะแต่งตัวไปงานลีลาศ
รวมไปถึงการเปิดตัวน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง “Arpège”
เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 30 ปี ของคุณ Marguerite อีกด้วย
เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 30 ปี ของคุณ Marguerite อีกด้วย
เรียกได้ว่าคุณ Marguerite อยู่เบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจมหาศาลของ Lanvin ก็คงไม่ผิดนัก
และตลอดอาชีพของคุณ Jeanne Lanvin เธอก็ไม่เคยหยุดพัฒนาและขยายแบรนด์ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เลย
อย่างในปี 1913 ที่มีการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ชุดขนสัตว์
และต่อมาในปี 1920 ได้เปิดตัว Lanvin Decoration หรือผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ พรม ผ้าม่าน กระจกสี วอลล์เพเปอร์
และต่อมาในปี 1920 ได้เปิดตัว Lanvin Decoration หรือผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ พรม ผ้าม่าน กระจกสี วอลล์เพเปอร์
แต่การขยายแบรนด์ที่สำคัญที่สุดของ Lanvin คือการสร้าง Lanvin Parfums ในปี 1924
เจ้าของผลงานน้ำหอมขวดสีม่วงกลิ่น Eclat D'Arpege Edp ที่เป็นน้ำหอมสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งของผู้หญิงหลาย ๆ คน
เจ้าของผลงานน้ำหอมขวดสีม่วงกลิ่น Eclat D'Arpege Edp ที่เป็นน้ำหอมสามัญประจำโต๊ะเครื่องแป้งของผู้หญิงหลาย ๆ คน
นอกจากนั้น ในปี 1926 ก็มีการเปิดตัว Lanvin Men เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพศชาย
ส่งผลให้ Lanvin เป็นแบรนด์เดียวในปารีสในขณะนั้น ที่นำเสนอคอลเลกชันทั้งสำหรับบุรุษและสตรี
ส่งผลให้ Lanvin เป็นแบรนด์เดียวในปารีสในขณะนั้น ที่นำเสนอคอลเลกชันทั้งสำหรับบุรุษและสตรี
จนกระทั่งในปี 1946 คุณ Jeanne Lanvin เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัย 79 ปี
แบรนด์ชั้นนำของฝรั่งเศสนี้ จึงถูกส่งให้คุณ Marguerite ลูกสาวคนเดียวของเธอ
ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และออกแบบคอลเลกชันของแบรนด์ต่อ
ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และออกแบบคอลเลกชันของแบรนด์ต่อ
แต่คุณ Marguerite ก็มาด่วนจากไป ในปี 1958 ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีบุตร ทำให้กรรมสิทธิ์ใน Lanvin ตกเป็นของคุณ Yves Lanvin ลูกพี่ลูกน้องของคุณ Marguerite
ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัทก็ถูกซื้อและขายกิจการอีกหลายต่อหลายครั้ง
ตั้งแต่ Midland Bank ธนาคารชั้นนำในสหราชอาณาจักร, Orcofi บริษัทโฮลดิงซึ่งถือครองโดยตระกูล Vuitton, L'Oréal บริษัทเครื่องสำอางใหญ่สุดในโลก, Harmonie S.A. กลุ่มทุนจากไต้หวัน
และล่าสุดในปี 2018 Lanvin ถูกขายให้ Fosun International กลุ่มทุนจากจีนขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ในขณะเดียวกัน ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Lanvin เอง ก็มีคนใหม่ ๆ เข้ามารับช่วงต่อ จนเมื่อเวลาผ่านไปอัตลักษณ์เดิม ที่เคยเป็นจุดเด่นของแบรนด์ ก็ค่อย ๆ เลือนหายตามกาลเวลา
ประกอบกับที่คุณ Alber Elbaz ผู้ที่ดูแลการออกแบบมานานถึง 14 ปี ได้โบกมือลาแบรนด์ไปในปี 2015
ตัวเลขยอดขายของแบรนด์ก็เป็นสีแดงและตกลงอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 4 ปี
ตัวเลขยอดขายของแบรนด์ก็เป็นสีแดงและตกลงอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 4 ปี
จนกระทั่งในปี 2019 ถึงปัจจุบัน ก็ได้คุณ Bruno Sialelli เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Lanvin หลังจากที่เคยร่วมงานกับ Loewe แบรนด์หรูสัญชาติสเปนมาก่อนหน้านี้
ซึ่งคุณ Bruno Sialelli ถือเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุด ที่เข้ามารับตำแหน่งนี้
โดยเขาได้นำเสนอแนวคิดที่สดใหม่ จากที่เคยมุ่งเน้นความเป็นฝรั่งเศส ก็มองภาพแฟชั่นที่กว้างขึ้นในระดับโลก
มีการใส่จิตวิญญาณที่ขี้เล่นไม่เหมือนใคร ให้เข้ากับยุคสมัย ผสมผสานกับฝีมืออันประณีต เทคนิคการตัดเย็บชั้นเลิศ รวมถึงสไตล์ของคุณ Jeanne Lanvin
ซึ่งก็มีการเปิดเผยจาก Lanvin ว่า การแต่งตั้งคุณ Bruno Sialelli ถือเป็นทิศทางใหม่ที่สำคัญของแบรนด์ และก็เรียกได้ว่าทางแบรนด์ตัดสินใจได้ถูกต้อง จากสัญญาณของยอดขาย ที่กลับมาพุ่งสูงขึ้น อีกครั้ง..
Tag:Lanvin