Slip แบรนด์ความงามจาก “ผ้าไหม” ที่ช่วยเรื่องผิวแพ้ง่าย และผมชี้ฟู
Health & BeautyBusiness

Slip แบรนด์ความงามจาก “ผ้าไหม” ที่ช่วยเรื่องผิวแพ้ง่าย และผมชี้ฟู

12 ต.ค. 2021
Slip แบรนด์ความงามจาก “ผ้าไหม” ที่ช่วยเรื่องผิวแพ้ง่าย และผมชี้ฟู /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าหากทุกคนเลือกเกิดได้ คงอยากเกิดมาเป็นคนที่ไม่เจ็บไม่ป่วยอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการแพ้ต่าง ๆ ที่มักจะสร้างความรำคาญให้อยู่บ่อยครั้ง
และไม่ใช่แค่สร้างความรำคาญ แต่ก็สร้างภาระในการมองหาของใช้มากมาย
เพื่อให้ได้พบกับของใช้ที่ถูกจริต และไม่ก่อให้เกิดการแพ้ในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเรื่องนี้ก็ส่งผลให้คุณ Fiona Stewart ได้ก่อตั้งแบรนด์ Slip เพื่อทำสินค้าที่จะมาช่วยตอบโจทย์ ลูกค้าอย่างตัวเธอเอง ที่มีอาการโรคผิวหนัง
แล้วเรื่องราวของ Slip น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
อาณาจักรของใช้จากผ้าไหมแบรนด์ Slip เริ่มต้นขึ้นในปี 2003 ที่ประเทศออสเตรเลีย
โดยคุณ Fiona Stewart ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีปัญหาผิวหนัง และได้ไปหาหมอเพื่อรับยารักษา
แต่เนื่องจากตัวยารักษาสิวที่เธอได้มา มีฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรง ทำให้สิ่งที่ตามมา ก็คือ “ผลข้างเคียง” จากการใช้ยาตัวนั้นด้วย
ทั้งผิวของเธอ ที่ค่อย ๆ บอบบางลงเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบไปถึงหนังศีรษะ ทำให้ผมก็บางลงไปด้วย
ซึ่งแพทย์ผิวหนังของเธอ ก็ได้แนะนำให้เธอเปลี่ยนไปใช้ปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหม เนื่องจากแพทย์ผิวหนังเชื่อว่า มันจะไม่ทำให้ผิวของเธอระคายเคือง หรือทำให้ผมบางลงไปอีก
อย่างไรก็ตามในตอนนั้น สินค้าพวกปลอกหมอนที่ทำจากผ้าไหม ยังไม่ได้มีวางขายในท้องตลาดมากนัก สุดท้ายคุณ Fiona Stewart จึงไปซื้อผ้าไหมมาพันรอบ ๆ หมอนของเธอแทน
ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจ เพราะคนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มสังเกตได้ว่า อาการแพ้ของคุณ Fiona Stewart ค่อย ๆ ดีขึ้น
เรื่องนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณ Fiona Stewart และสามีเปิดตัวแบรนด์ Slip ในปี 2004
ที่น่าสนใจคือ แม้สินค้าที่แบรนด์ทำออกมาจะเป็นสินค้าของใช้อย่างปลอกหมอน
แต่ Slip กลับวางจุดยืนของตัวเองเป็น แบรนด์สินค้าความงามมากกว่า
เนื่องจากแบรนด์อยากสื่อถึงความงามที่ได้มาจากการดูแลตัวเองนั่นเอง
แล้วผ้าไหม หรือสินค้าของ Slip นั้นช่วยรักษาผิวที่บอบบางได้อย่างไร ?
ผลการศึกษาของแพทย์ผิวหนังจาก George Washington University Medical Center พบว่า เมื่อผ้าไหมสัมผัสกับผิวหน้าจะทำให้เกิดแรงเสียดสีน้อยกว่า เมื่อเทียบกับปลอกหมอนผ้าคอตตอน
ทำให้ลดการระคายเคืองของผิวได้
ซึ่งเมื่อแรงเสียดสีน้อย ยังจะช่วยส่งผลให้ผมชี้ฟูน้อยลงไปด้วย
ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ Slip นั้นได้พัฒนาผ้าไหมด้วยนวัตกรรมของตัวเอง ที่ชื่อ slipsilk™
ซึ่งมีผลการวิจัยบอกว่า ผ้าไหมของ Slip นั้น จะช่วยให้สกินแคร์ที่เราใช้ แสดงผลลัพธ์ได้ดีขึ้น
เนื่องจากผ้าไหมของ Slip นั้นจะไม่ดูดซึมสกินแคร์ที่เราทาลงบนผิว ในขณะที่เรากำลังนอน
แต่นอกเหนือจากนวัตกรรมของ Slip แล้ว
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Slip กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ?
อย่างแรกคงหนีไม่พ้นการเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ผลิตปลอกหมอนจากผ้าไหม
เพราะจริง ๆ แล้วผ้าไหม เป็นผ้าที่มีราคาค่อนข้างแพง
การนำมาทำเป็นปลอกหมอน จึงทำให้กลายเป็นสินค้าที่มีราคาสูงตามไปด้วย
แต่ด้วยตัวเนื้อผ้าเองก็มีความเงางาม หรูหรา สวยงามในตัวเอง
ทำให้ Slip ก็สามารถวางตัวเป็นเหมือนกับ “สกินแคร์ราคาแพง” ได้ไม่ยาก
และยิ่งได้เสียงยืนยันจากผู้ใช้งานซึ่งเป็นเหล่าดาราคนดัง รวมไปถึงผู้มีอิทธิพลคนอื่น ๆ
เช่น คุณ Jen Atkin ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Ouai ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจากสหรัฐอเมริกา หรือคุณ Marianna Hewitt เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ Summer Fridays และอินฟลูเอนเซอร์ด้านความงาม
เหล่านี้ ก็ยิ่งการันตีจุดยืนและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้ยิ่งชัดเจนและเป็นที่รู้จักได้มากขึ้นไปอีก
ปัจจุบัน Slip จึงไม่ได้หยุดแค่สินค้าปลอกหมอน แต่ยังขยายไปสู่ผ้าปิดตา ซึ่งจะช่วยให้
หลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น หรือยางมัดผมที่ทำจากผ้าไหม ก็จะช่วยดูแลเส้นผมได้เช่นกัน
ซึ่งพอแบรนด์วางตัวเป็นสินค้าความงาม ที่จะช่วยส่งเสริมความงามในแบบธรรมชาติ
การออกสินค้าอย่างยางมัดผมมา จึงทำให้คนรู้สึกว่า ไม่ได้หลุดธีมเท่าไรนัก
เรียกได้ว่า เป็นการสร้างจุดยืนที่ฉลาดและน่าสนใจอยู่มากทีเดียว
และถ้าถามว่า Slip ประสบความสำเร็จแค่ไหน ?
แม้ว่าตัวแบรนด์จะไม่เคยออกมาเปิดเผยว่าตนเอง มีรายได้เท่าไร
แต่จากการที่แบรนด์สามารถวางขายที่ Sephora ร้านค้ามัลติสตอร์ด้านความงาม,
Nordstrom ห้างสุดหรูของสหรัฐฯ หรือ Ulta Beauty เครือร้านเสริมความงามในสหรัฐฯ
ก็คงพอเป็นตัวช่วยพิสูจน์ได้ว่า Slip นั้นเป็นที่นิยมไม่น้อยเลย
และสุดท้ายสำหรับคนที่เคยไปส่องสินค้าของ Slip แล้วสงสัยว่า ทำไมมันถึงแพงได้ขนาดนี้
เหตุผลนั้นก็ง่ายนิดเดียว คือเพราะผ้าไหมมันแพงนั่นเอง..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.