Balenciaga โดนวิจารณ์หนัก เหตุจากดีไซน์กางเกงที่ถูกมองว่า “เหยียดสีผิว” /โดย ลงทุนเกิร์ล

แฟชั่นกางเกงเอวต่ำ ที่เวลาสวมแล้วจะเห็นขอบกางเกงบอกเซอร์ เคยเป็นที่นิยมอย่างมากในทศวรรษที่ 1990 โดยเฉพาะในกลุ่มของนักสเกตและศิลปินฮิปฮอบ

ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไร หากแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Balenciaga จะหยิบเอาเทรนด์นี้มาออกแบบเป็น Trompe l'oeil track trousers หรือกางเกงวอร์มเอวต่ำ ที่เย็บติดกับขอบกางเกงบอกเซอร์ที่โผล่ออกมา

แต่เรื่องนี้กลับถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นการ “เหยียดสีผิว”

โดยจุดเริ่มต้นเกิดมาจาผู้ใช้งาน Tiktok ชื่อบัญชี Mr200m ที่ได้โพสต์วิดีโอ ตอนที่เห็นกางเกงรุ่นดังกล่าววางขายในกรุงลอนดอน พร้อมกับคำพูดที่ว่า
“นี่ทำให้รู้สึกถึงการเหยียดสีผิวมาก ๆ พวกเขาเย็บบอกเซอร์ติดไว้กับกางเกงเลย”

ซึ่งคลิปนี้ก็มียอดไลก์ถึง 243,000 ไลก์ และมียอดเข้าชมกว่า 1.6 ล้านครั้ง รวมทั้งยังทำให้เกิดการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์จำนวนมาก

แล้วทำไม “กางเกงเอวต่ำ ที่เห็นขอบบอกเซอร์” ถึงกลายเป็น “การเหยียดสีผิวไปได้” ?

ช่วงปี 2000 ได้มีบางรัฐ ในสหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมายห้ามใส่กางเกงในลักษณะนี้ ในที่สาธารณะ จนกลายเป็น “ข้ออ้าง” ให้ตำรวจสามารถจับกุม “คนดำ” จำนวนมาก

โดยเรื่องนี้ก็ได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกลับกลุ่มคนดำ ในสหรัฐฯ ซึ่งปกติก็มักจะโดนเหยียดและมองเป็นประชาชนชั้น 2 ในสังคมอยู่แล้ว

ดังนั้นการที่ Balenciaga ออกแบบ Trompe l'oeil track ให้มีลักษณะนี้ จึงเป็นเหมือนการนำเอาวัฒนธรรมของคนดำ มาหากำไร ด้วยการแปะป้ายสินค้านี้ด้วยราคาที่สูงถึง 39,160 บาท ในขณะที่ไม่ได้สนใจระบบสังคมที่เหยียดสีผิว ด้วยการทำให้คนดำกลายเป็นเหมือนอาชญากร จากการแต่งตัว

สำหรับเรื่องนี้ ทางคุณ Ludivine Pont หัวหน้าฝ่ายการตลาด หรือ CMO ของ Balenciaga
ได้ออกมาอธิบายว่า การนำเสื้อผ้าหลาย ๆ ชิ้นมาประกอบกันเป็นชิ้นเดียว เป็นเรื่องปกติของแบรนด์อยู่แล้ว

เช่น กางเกงยีนส์ทับกางเกงวอร์ม หรือ เสื้อเชิ้ตติดกระดุม ที่ทับบนเสื้อยืดอีกที
ซึ่งกางเกง Trompe l'oeil track นี้ เกิดขึ้นมาจากคอนเซ็ปต์เดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่การโดนวิจารณ์เรื่อง “การเหยียด” ครั้งแรกของ Balenciaga

โดยในปี 2018 ทาง Balenciaga ก็เคยออกมาขอโทษต่อคลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์ ที่ลูกค้าชาวจีนถูกทำร้ายที่ร้าน Balenciaga ในห้างสรรพสินค้า Printemps ในปารีส

ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้เกิดกระแสการแบน Balenciaga ของชาวจีน ผ่านแฮชแท็ก
“BoycottBalenciagaDiscriminatesAgainstChinese”

ทั้งหมดนี้คงสรุปได้ว่า ปัจจุบันประเด็นการเหยียดเชื้อชาติหรือการเหยียดสีผิวนั้น ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสังคมมาก

ดังนั้น การออกสินค้าหรือบริการย่อม จำเป็นต้องมีการต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเสียก่อน..

References:
-https://www.bbc.com/news/business-58563242
-https://vt.tiktok.com/ZSJE9byjd/