จีน แบนวงการ “ไอดอลที่แต่งหน้า” เหตุบ่อนทำลายวัฒนธรรม /โดย ลงทุนเกิร์ล

รัฐบาลจีน เข้าควบคุมสื่อและวงการบันเทิงอีกครั้ง
โดยครั้งนี้ เป็นการกำหนด “มาตรฐานความงามที่ถูกต้อง”
เพื่อให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน
ด้วยการคว่ำบาตรวงการไอดอล รวมคนดังทางอินเทอร์เน็ตที่ถูกมองว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

โดยทางการจีน ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เทรนด์ "Sissy Idol" ซึ่งหมายถึงไอดอลชายที่แต่งหน้า แต่งตัวไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน ว่าเป็นภัยคุกคามต่อค่านิยมทางสังคมแบบดั้งเดิม

ดังนั้นทางการจีน จึงได้ประกาศแผน 8 ประการ ผ่านสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ ที่เรียกร้องให้มีกฎระเบียบเพิ่มเติมของการแสดงศิลปะและความบันเทิง รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1.คว่ำบาตรบุคคลที่ทำผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของจีน โดยเฉพาะการคัดเลือกบุคคลที่สามารถออกรายการโทรทัศน์และแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ควรจ้างบุคคล ที่แสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลจีน

2.คว่ำบาตรรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวกับไอดอล โดยจะมีการควบคุมรายการโชว์อย่างเข้มงวด รวมถึงไม่สามารถชักจูงให้แฟนคลับซื้อหรือสมัครสมาชิก เพื่อโหวตให้กับไอดอลได้

3.คว่ำบาตรรายการบันเทิงที่สุดเหวี่ยงเกินควร และต่อต้าน “Sissy idol” โดยหันมาส่งเสริมวัฒนธรรมดั้งเดิม และมาตรฐานความงามในแบบดั้งเดิมแทน

4.จัดการค่าจ้างที่สูงเกินจริงในวงการบันเทิง โดยออกกฎควบคุมค่าตัวของแขกรับเชิญ รวมถึงสนับสนุนให้เหล่าคนดังเข้าร่วมรายการเพื่อการกุศล และออกกฎลงโทษสัญญาจ้างปลอมหรือหลีกเลี่ยงภาษี

5.กำกับดูแลพนักงานในวงการบันเทิง โดยบังคับใช้ใบอนุญาตผู้จัดรายการโทรทัศน์ จัดให้มีการฝึกอบรมวิชาชีพและศีลธรรม และไม่สนับสนุนให้ใช้อาชีพและชื่อเสียงของตน เพื่อแสวงหาผลกำไร

6.สนับสนุนความคิดเห็นที่ถูกต้องในวงการบันเทิง เน้นการมีจุดยืนด้านการเมืองและค่านิยมที่ถูกต้อง

7.สมาคมวงการบันเทิง ควรจัดให้มีการฝึกอบรม สร้างกลไกสำหรับกฎระเบียบของอุตสาหกรรม รวมทั้งวิจารณ์ตัวอย่างที่ไม่ดี

8.หน่วยงานกำกับดูแลต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และคลายความกังวลของพวกเขา รวมถึงเติมเต็มสื่อกระแสหลักด้วยรายการที่สร้างสรรค์เชิงบวก

นอกจากนี้ ทางการจีนยังได้พยายามควบคุมวัฒนธรรม “แฟนด้อม” ด้วยแผน 10-point จากหน่วยงานเฝ้าระวังทางอินเทอร์เน็ตของจีน หรือ Cyberspace Administration ซึ่งทำหน้าที่ดำเนินการเพื่อหยุดการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นการนินทาหรือยั่วยุให้เกิดเรื่องอื้อฉาวในกลุ่มแฟนคลับ

อย่างไรก็ตาม แบบแผนดังกล่าวได้ถูกวิพากษ์วิจารย์ในหลายแง่มุม โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงจนเกินไป เนื่องจากเห็นว่าการแสดงออกทางเพศของบุคคลนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถในอาชีพการงานของพวกเขาเลย จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกมาควบคุมหรือใช้ถ้อยคำที่รุนแรงในการห้ามปราม

ซึ่งกลุ่มฐานแฟนคลับไอดอลในประเทศจีน ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มาก และคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึงกว่า 709,570 ล้านบาท

แปลว่ามาตรการข้างต้นย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวงการบันเทิงในวงกว้างอย่างแน่นอน

อย่างทาง Korea Times สื่อของเกาหลีใต้ ก็ได้ออกมารายงานว่ากฎระเบียบของจีน น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม K-POP อย่างหนัก เนื่องจากจีนเป็นแหล่งรายได้อันดับต้น ๆ สำหรับบริษัทบันเทิงชั้นนำของเกาหลีใต้

โดยตามรายงานข่าว ยอดขายอัลบั้ม K-POP ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.6 เท่า ซึ่งกว่า 33% ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น มาจากประเทศจีน

ซึ่งนอกจาก K-POP แล้ว อีกหนึ่งวงการที่น่าจะกระทบไม่แพ้กัน ก็คือ “ซีรีส์วาย” โดยไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกคอนเทนต์ประเภทนี้ และที่ผ่านมาก็ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศจีนเช่นกัน

เรื่องนี้ก็น่าติดตามกันต่อไปว่า อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของจีน จะหาทางออกกันอย่างไร ในเมื่อฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ กำลังจะหายไปแบบไร้ทางเลือก..

References:
-https://www.scmp.com/news/people-culture/china-personalities/article/3147354/china-calls-boycott-overly-entertaining?module=perpetual_scroll&pgtype=article&campaign=3147354
-https://www.globaltimes.cn/page/202109/1233508.shtml?fbclid=IwAR1-QQ697-9lCdHuC9QL4W93KKKC04UEQkbZQjt112lG54uXrxaSA9CHf_s