Business
Peggy Cherng อดีตวิศวกรหญิง ผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจฟาสต์ฟูดแสนล้าน
14 ก.ย. 2021
Peggy Cherng อดีตวิศวกรหญิง ผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจฟาสต์ฟูดแสนล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
Panda Express หนึ่งในธุรกิจฟาสต์ฟูดสไตล์จีนที่ใหญ่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยผู้ที่ปลุกปั้นและเป็น CEO ปัจจุบันก็คือ คู่สามีภรรยา Cherng
โดยผู้ที่ปลุกปั้นและเป็น CEO ปัจจุบันก็คือ คู่สามีภรรยา Cherng
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะขอเจาะลึกไปที่ คุณ Peggy Cherng ซึ่งเป็นภรรยา เนื่องจากจริง ๆ แล้วก่อนที่จะมาทำธุรกิจอาหาร เธอเคยประกอบอาชีพวิศวกรมาก่อน
ที่สำคัญ คุณ Peggy Cherng ยังถูก Forbes จัดอันดับให้เป็น “AMERICA'S SELF-MADE” ปี 2021 หรือการจัดอันดับหญิงสาวร่ำรวยด้วยตัวเอง ซึ่งเธอมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท
ซึ่งถ้าย้อนกลับไปมองในวันนั้น อะไรทำให้คุณ Peggy Cherng ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่มั่นคง แล้วหันมาสร้างธุรกิจของตัวเองที่มีแต่ความเสี่ยง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Panda Express คือ ร้านอาหารฟาสต์ฟูดสไตล์จีนที่อยู่ภายใต้บริษัท Panda Restaurant Group
ที่ก่อตั้งโดย 2 สามีภรรยาชาวจีนตระกูล Cherng ที่พบรักกันที่สหรัฐอเมริกา
ที่ก่อตั้งโดย 2 สามีภรรยาชาวจีนตระกูล Cherng ที่พบรักกันที่สหรัฐอเมริกา
ซึ่งธุรกิจครอบครัว Cherng ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ และเคยถูกจัดอันดับให้เป็น ธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016
โดยปัจจุบัน Panda Express กลายเป็นเชนร้านอาหารที่มากถึง 2,200 สาขาในหลายประเทศทั่วโลก และกวาดรายได้ไปกว่า 1.1 แสนล้านบาท
แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าย้อนไปดูวันแรก คงไม่มีใครที่จะจินตนาการเห็นเป็น Panda Express ในวันนี้ เพราะทั้งหมดเริ่มต้นมาจากร้านอาหารจีนเล็ก ๆ ชื่อว่า “Panda Inn” ที่ก่อตั้งโดยพ่อของคุณ Andrew Cherng ผู้เป็นสามี เมื่อ 45 ปีก่อน
ซึ่งจริง ๆ แล้วคุณ Peggy Cherng ก็ไม่ได้เริ่มต้นที่ร้านอาหารจีนร้านนี้มาตั้งแต่แรก แต่ค่อยมาสนับสนุนสามีของเธอในภายหลัง โดยหลังเข้ามาช่วยธุรกิจของสามี ก็ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจนี้เติบโต
แล้วก่อนหน้านี้คุณ Peggy Cherng เป็นใครและมาจากไหน ?
คุณ Peggy Cherng คือ หญิงสาวชาวจีนที่เกิดในประเทศเมียนมา เติบโตที่ฮ่องกง ก่อนจะอพยพมาที่สหรัฐอเมริกา และเข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยออริกอนสเตต ในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์
แต่ประวัติการศึกษาของคุณ Peggy Cherng ยังไม่จบเพียงแค่ปริญญาเพียงใบเดียวเท่านั้น
เพราะเธอยังตัดสินใจเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี โคลัมเบีย และได้รับปริญญาเพิ่มอีก 2 ใบ
เพราะเธอยังตัดสินใจเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี โคลัมเบีย และได้รับปริญญาเพิ่มอีก 2 ใบ
นั่นก็คือ เรียนจบปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในปี 1971 และจบปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าในปี 1974 ด้วยวัยเพียง 27 ปี
ซึ่งช่วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยนี่เอง ที่ทำให้เธอได้พบกับคุณ Andrew Cherng สามีในอนาคตของเธอ ที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเช่นกัน
หลังจากเรียนจบ ชีวิตในด้านการงาน และความรักของคุณ Peggy Cherng ก็ไปในทิศทางที่ดีทั้งคู่
เพราะเธอได้แต่งงานกับคุณ Andrew Cherng ทันทีหลังเรียนจบเพียง 1 ปี และในปีเดียวกันก็ได้เข้าทำงานต่อที่ McDonnell Douglas บริษัทผลิตเครื่องบิน ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม
โดยเฉพาะในด้านหน้าที่การงานของคุณ Peggy Cherng ที่ก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
ได้ร่วมงานกับ Comtal บริษัทในเครือ 3M ตำแหน่งผู้จัดการซอฟต์แวร์ และวิศวกรฝ่ายเทคนิค รวมถึงเป็นหนึ่งในทีมผู้พัฒนาระบบจำลองสนามรบให้กับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
เรียกได้ว่า จากผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของคุณ Peggy Cherng เธอก็ดูเป็นหนึ่งในวิศวกรสาวที่มากความสามารถ และประสบความสำเร็จคนหนึ่งเลยทีเดียว
แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณ Peggy Cherng หันหลังให้การงานที่มั่นคงและกำลังรุ่งโรจน์ มาเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกับสามีของเธอ ?
แม้ว่าตอนนั้นกราฟความสำเร็จในหน้าที่การงานของคุณ Peggy Cherng จะพุ่งสูงจนอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ แต่เธอก็แลกมาด้วยการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จนแทบจะไม่มีเวลาใช้ชีวิตร่วมกับลูก ๆ ทั้ง 3 คนของเธอ
ประจวบกับในช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็นช่วงที่เติบโตของห้างสรรพสินค้า โดยมีห้างเปิดใหม่กระจายตามจุดต่าง ๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา ทำให้คุณ Andrew Cherng มองเห็นถึงโอกาสให้การขยายธุรกิจ
ดังนั้นในปี 1983 Panda Express ร้านอาหารฟาสต์ฟูดสไตล์จีน ในรูปแบบ Grab & Go บนห้างเกล็นเดล ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของแคลิฟอร์เนียจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ทำให้คุณ Peggy Cherng ตัดสินใจลาออกจากอาชีพวิศวกร และหันมาช่วยสามีดูแลเรื่องการบริหารจัดการงานและโลจิสติกส์ของธุรกิจแทน
ซึ่งแม้ว่าคุณ Peggy Cherng จะเข้ามาดูแลธุรกิจร้านอาหารอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ไม่ละทิ้งความสามารถทางด้านวิศวกรรมไป และยังนำทักษะทั้งหมดที่มี มาใช้พัฒนาธุรกิจร้านอาหารของเธอ
อย่างการนำ “เทคโนโลยี” มาสร้างระบบหลังบ้านต่าง ๆ เช่น ตรวจสอบรายการสินค้าในคลัง, สั่งวัตถุดิบใหม่ และติดตามคำติชมจากลูกค้า
ซึ่งถือว่า Panda Express เป็นร้านอาหารสไตล์อเมริกัน-จีนเจ้าแรก ที่ใช้ระบบจัดการเหล่านี้
เมื่อมีการจัดการที่เป็นระบบ Panda Express จึงเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มจาก 2 สาขา เป็น 5 สาขาภายใน 1 ปี
และเพียงแค่ 10 ปี ก็สามารถขยายสาขาได้มากถึง 97 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา
และเพียงแค่ 10 ปี ก็สามารถขยายสาขาได้มากถึง 97 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา
ซึ่งนอกจากร้านอาหารสไตล์จีนแล้ว ในปี 1992 Panda Restaurant Group ยังหันมาจับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ กับร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นในชื่อว่า “Hibachi-San”
รวมถึงมีการลงทุนในหุ้นร้านอาหารเอเชียชื่อดังอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาอีกหลายเจ้า เช่น Urbane Cafe, Uncle Tetsu, Ippudo และ Pieology
โดยปัจจุบัน Panda Restaurant Group ยังคงเป็นธุรกิจของครอบครัว Cherng ที่คุณ Andrew Cherng และคุณ Peggy Cherng นั่งแท่นเป็น CEO ร่วมกัน และมีลูก ๆ ของพวกเขาทั้ง 3 คนดูแลส่วนอื่น ๆ ในบริษัท
ท้ายที่สุดนี้แม้ว่าคุณ Peggy Cherng จะต้องลาออกจากงานประจำที่เธอรัก
แต่เธอยังรักษา “ความโดดเด่น” ของอาชีพในอดีตของเธอ
เพราะนักวิศวกร คือ “ผู้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ และทำผลงานให้สำเร็จ”
แต่เธอยังรักษา “ความโดดเด่น” ของอาชีพในอดีตของเธอ
เพราะนักวิศวกร คือ “ผู้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ และทำผลงานให้สำเร็จ”
ซึ่งระบบในร้าน Panda Express ก็คือสิ่งที่เธอประดิษฐ์ และพัฒนามันได้อย่างประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
เมนูที่ขายดีสุดของ Panda Express ก็คือ “Orange Chicken” หรือไก่ทอดคลุกกับซอสส้ม
โดยในปี 2018 แค่เพียงเมนูเดียวนี้ ก็สามารถทำรายได้ถึงเกือบ 3,000 ล้านบาทแล้ว..
โดยในปี 2018 แค่เพียงเมนูเดียวนี้ ก็สามารถทำรายได้ถึงเกือบ 3,000 ล้านบาทแล้ว..