
Business
Boys Lie ธุรกิจร้อยล้าน ที่เกิดขึ้นจากการ “อกหัก”
17 ส.ค. 2021
Boys Lie ธุรกิจร้อยล้าน ที่เกิดขึ้นจากการ “อกหัก” /โดย ลงทุนเกิร์ล
เวลาอกหักเราจะทำอะไรกันคะ ร้องไห้ ฟังเพลงเศร้า คิดถึงช่วงเวลาเก่า ๆ ที่เคยมีความสุขด้วยกัน
แต่รู้ไหมคะว่า มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง ที่เกิดขึ้นมาจากการอกหัก
และสามารถทำรายได้ไปกว่า 167 ล้านบาท หลังจากก่อตั้งได้เพียง 3 ปี
แต่รู้ไหมคะว่า มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง ที่เกิดขึ้นมาจากการอกหัก
และสามารถทำรายได้ไปกว่า 167 ล้านบาท หลังจากก่อตั้งได้เพียง 3 ปี
เรื่องราวของธุรกิจนี้เป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
Boys Lie ก่อตั้งโดย คุณ Tori Robinson และคุณ Leah O’Malley ที่ร่วมกันก่อตั้งในปี 2018
คุณ Tori อยู่ในวงการธุรกิจมาตั้งแต่เล็ก ๆ เนื่องจากที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตเครื่องสำอาง
และตัวเธอเองก็มีความชอบในงานออกแบบต่าง ๆ เธอจึงศึกษาต่อในด้านศิลปะ จากนั้นก็เรียนต่อทางด้านการตลาดในเวลาต่อมา
และตัวเธอเองก็มีความชอบในงานออกแบบต่าง ๆ เธอจึงศึกษาต่อในด้านศิลปะ จากนั้นก็เรียนต่อทางด้านการตลาดในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 คุณ Tori และคุณ Leah ก็ได้เลิกกับคนรัก
ซึ่งแฟนเก่าของพวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่จึงได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น
และช่วงเวลาเหล่านั้นเอง ก็ได้เกิดเป็นไอเดียทางธุรกิจขึ้นมา
ซึ่งแฟนเก่าของพวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่จึงได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น
และช่วงเวลาเหล่านั้นเอง ก็ได้เกิดเป็นไอเดียทางธุรกิจขึ้นมา
ในช่วงแรก Boys Lie ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่คุณ Tori คุ้นเคยอยู่แล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่คุ้นเคย แต่แบรนด์ของทั้งคู่กลับไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากพวกเธอรีบร้อนเกินไปในการทำธุรกิจทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ศึกษามาดีพอ
อีกทั้งในท้องตลาดยังมีแบรนด์เครื่องสำอางอยู่มากมาย ทำให้ธุรกิจเครื่องสำอางของพวกเธอต้องปิดตัวลงในที่สุด
แต่ความล้มเหลวในครั้งนั้นก็ไม่ใช่จุดจบเสียทีเดียว เพราะพวกเธอได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ด้วยการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าขึ้นมาโดยที่ยังใช้ชื่อว่า Boys Lie เช่นเดิม
ซึ่งในครั้งนี้ Boys Lie จะไม่ใช่แค่แบรนด์เสื้อผ้า แต่จะเป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยปลอบประโลม สำหรับคนที่ผ่านความรักอันเจ็บปวด เพราะเมื่อใส่ Boys Lie ก็เหมือนการโอบกอดหัวใจไปด้วย
และนี่ก็ได้เป็นจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์ของพวกเธอแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ
เพราะเป็นการสร้างแบรนด์ที่เกิดขึ้นมาจากความเสียใจของพวกเธอเอง
และใช้แบรนด์เป็นสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงความรักเพื่อดึงตัวเองกลับมาอีกครั้ง
ผ่านการนำประสบการณ์อันเจ็บปวด มาเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่สวยงาม
และใช้แบรนด์เป็นสัญลักษณ์ ที่แสดงถึงความรักเพื่อดึงตัวเองกลับมาอีกครั้ง
ผ่านการนำประสบการณ์อันเจ็บปวด มาเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่สวยงาม
นอกจากนี้ Boys Lie ยังเป็นการสร้างชุมชนสำหรับชาวอกหักขึ้นมา
เพื่อให้รู้ว่าเราไม่ได้เจอเรื่องร้าย ๆ เพียงคนเดียว เพราะพวกเธอเชื่อว่า ทุกคนต่างก็มีเรื่องราวเจ็บปวดในหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านความรักหรือเรื่องการงานก็ตาม
เพื่อให้รู้ว่าเราไม่ได้เจอเรื่องร้าย ๆ เพียงคนเดียว เพราะพวกเธอเชื่อว่า ทุกคนต่างก็มีเรื่องราวเจ็บปวดในหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านความรักหรือเรื่องการงานก็ตาม
ซึ่งแบรนด์ของพวกเธอก็ไม่เพียงแต่ไปโดนใจชาวอกหักรักคุดเท่านั้น
แต่ยังไปโดนใจเหล่าเซเลบริตี อย่างเช่น Ariana Grande, Gigi Hadid หรือ Kylie Jenner ก็ยังได้เลือกสวมใส่แบรนด์นี้เช่นกัน
แต่ยังไปโดนใจเหล่าเซเลบริตี อย่างเช่น Ariana Grande, Gigi Hadid หรือ Kylie Jenner ก็ยังได้เลือกสวมใส่แบรนด์นี้เช่นกัน
โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา แบรนด์ Boys Lie ทำรายได้ไปกว่า 167 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่ทำรายได้เพียง 20 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 735% แม้จะเป็นปีที่เจอโควิดก็ตาม
เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ที่ทำรายได้เพียง 20 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 735% แม้จะเป็นปีที่เจอโควิดก็ตาม
แล้วอะไรกันที่ทำให้แบรนด์ของพวกเธอเติบโตได้ขนาดนี้ ?
อันดับแรกเลย คือ การสร้างจุดเด่นให้แบรนด์
คุณ Tori และ Leah ได้บอกว่าพวกเธอไม่ได้ขายเพียงเสื้อผ้า
แต่เป็นการใช้แบรนด์เปลี่ยนประสบการณ์อันเจ็บปวดของพวกเธอให้เป็นสิ่งที่สวยงาม
คุณ Tori และ Leah ได้บอกว่าพวกเธอไม่ได้ขายเพียงเสื้อผ้า
แต่เป็นการใช้แบรนด์เปลี่ยนประสบการณ์อันเจ็บปวดของพวกเธอให้เป็นสิ่งที่สวยงาม
ซึ่งเสื้อผ้าของพวกเธอจะมีลวดลายต่าง ๆ และคำคมที่ให้กำลังใจผู้หญิง เช่น
ลายด้านหน้าเสื้อที่สกรีนคำว่า WAYGTDWH ที่ย่อมาจาก What Are You Going to do Without Him? หรือแปลว่า คุณจะทำอะไรเมื่อไม่มีเขา ส่วนที่ด้านหลังจะสกรีนคำว่า Whatever I want ที่แปลว่า อะไรก็ได้ที่อยากทำ
สิ่งต่อมาก็คือ การสร้างความต้องการ ด้วยการออกสินค้ารุ่น Limited Edition เป็นประจำทุกเดือน ทำให้ลูกค้าต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของทันที ที่แบรนด์ปล่อยคอลเลกชันออกมา
นอกจากนี้การทำเสื้อผ้าให้หลากหลาย ก็ยังเป็นอีกหนึ่งข้อดีของทางแบรนด์
เพราะ Boys Lie มีทั้งเสื้อกล้าม เสื้อสเวตเตอร์ กางเกงวอร์ม เสื้อโอเวอร์ไซซ์
ทำให้แบรนด์สามารถขายสินค้าได้ทั้งปี ไม่ว่าสถานการณ์หรือสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร
เพราะ Boys Lie มีทั้งเสื้อกล้าม เสื้อสเวตเตอร์ กางเกงวอร์ม เสื้อโอเวอร์ไซซ์
ทำให้แบรนด์สามารถขายสินค้าได้ทั้งปี ไม่ว่าสถานการณ์หรือสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร
เช่น แม้ว่าในปี 2020 ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าจะลดลงไป 34% เมื่อเทียบกับปี 2019
แต่หากเราแยกมาดูเสื้อผ้าแต่ละประเภทก็จะพบว่า ตลาดกางเกงวอร์มกลับเติบโตขึ้น 2% จากปีก่อน ตอบรับกับการที่ผู้คนต้อง Work From Home เลยทำให้มีความต้องการในเสื้อผ้าประเภทนี้มากขึ้น Boys Lie จึงได้อานิสงส์จากเรื่องนี้เช่นกัน
แต่หากเราแยกมาดูเสื้อผ้าแต่ละประเภทก็จะพบว่า ตลาดกางเกงวอร์มกลับเติบโตขึ้น 2% จากปีก่อน ตอบรับกับการที่ผู้คนต้อง Work From Home เลยทำให้มีความต้องการในเสื้อผ้าประเภทนี้มากขึ้น Boys Lie จึงได้อานิสงส์จากเรื่องนี้เช่นกัน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สำหรับใครที่กำลังอกหักอยู่ ก็ไม่เป็นไรนะคะ
ไม่แน่ว่าการอกหักในครั้งนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นสู่ธุรกิจร้อยล้าน เหมือนอย่าง Boys Lie ก็เป็นได้..
ไม่แน่ว่าการอกหักในครั้งนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นสู่ธุรกิจร้อยล้าน เหมือนอย่าง Boys Lie ก็เป็นได้..
References:
-https://boyslieofficial.com/
-https://www.forbes.com/sites/tanyaklich/2021/03/11/boys-lie-hoodie-sweatsuit-brand-for-the-wfh-fashionista/?sh=6611d7a6b333
-https://medium.com/authority-magazine/tori-robinson-and-leah-omalley-of-boys-lie-5-things-you-need-to-know-to-create-a-highly-dd11363aec9
-https://wwd.com/fashion-news/fashion-scoops/boys-lie-loungewear-brand-forbes-1234888246/
-https://boyslieofficial.com/
-https://www.forbes.com/sites/tanyaklich/2021/03/11/boys-lie-hoodie-sweatsuit-brand-for-the-wfh-fashionista/?sh=6611d7a6b333
-https://medium.com/authority-magazine/tori-robinson-and-leah-omalley-of-boys-lie-5-things-you-need-to-know-to-create-a-highly-dd11363aec9
-https://wwd.com/fashion-news/fashion-scoops/boys-lie-loungewear-brand-forbes-1234888246/