อีฟว์ แซ็ง โลร็อง ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่น ไม่ให้จำกัดแค่คำว่า “เพศ”
FashionBusiness

อีฟว์ แซ็ง โลร็อง ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่น ไม่ให้จำกัดแค่คำว่า “เพศ”

5 ก.ค. 2021
อีฟว์ แซ็ง โลร็อง ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่น ไม่ให้จำกัดแค่คำว่า “เพศ” /โดย ลงทุนเกิร์ล
“Fashions fade, Style is eternal”
หรือ แฟชั่นนั้นจางหาย แต่สไตล์จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
นี่คือคำพูดติดปากของคุณโลร็อง หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ Yves Saint Laurent
ที่ปัจจุบันได้รีแบรนด์ใหม่เป็น Saint Laurent และอยู่ภายใต้อาณาจักร Kering
เช่นเดียวกับแบรนด์หรูอื่น ๆ อย่าง GUCCI, BALENCIAGA, Alexander McQueen
ซึ่งเราทุกคนก็คงจะคุ้นชื่อ Yves Saint Laurent ในฐานะแบรนด์แฟชั่นสุดหรูหรากันอยู่แล้ว
แต่สำหรับเรื่องราวของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่างคุณโลร็อง เราอาจจะไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวของเขาบ่อยนัก
แล้วเรื่องราวของคุณโลร็องเป็นมาอย่างไร ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
ผู้ก่อตั้ง Saint Laurent ก็คือ คุณอีฟว์ แซ็ง โลร็อง ซึ่งเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี
แต่ก็ใช่ว่าเส้นทางการเป็นดีไซเนอร์ชื่อดังของเขาจะได้มาอย่างง่ายดาย
เพราะในช่วงชีวิตวัยเด็ก เขาชื่นชอบการพับตุ๊กตากระดาษ และมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน
ทำให้เวลาอยู่ที่โรงเรียนเขามักจะโดนเพื่อน ๆ แกล้งเสมอ
พอถึงช่วงวัยรุ่น คุณโลร็องก็ได้เปลี่ยนจากการเล่นพับตุ๊กตากระดาษ มาเป็นการตัดเย็บเสื้อผ้า
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1953 คุณโลร็องที่มีอายุเพียง 17 ปี ก็ได้เข้าประกวดออกแบบเสื้อผ้า
ในโครงการ Young Fashion Designers ที่จัดโดย The International Wool Secretariat
และได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับสาม
หลังจากการรับรางวัล คุณโลร็องและครอบครัวได้เดินทางไปฝรั่งเศส จึงได้พบกับคุณ Michel de Brunhoff
บรรณาธิการของนิตยสาร Vogue ฉบับฝรั่งเศส และเขาคนนี้ก็ชื่นชอบผลงานของคุณโลร็องมาก
จึงได้แนะนำคุณโลร็องให้เข้าไปสมัครเรียนที่ Chambre Syndicale de la Couture
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ด้านการออกแบบเสื้อผ้า
แต่เมื่อคุณโลร็องเข้าไปเรียนแล้ว เขาก็ค้นพบว่า ตัวเองไม่ชอบการเรียนในมหาวิทยาลัยเท่าไรนัก
จึงได้ตัดสินใจลาออกมา ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น เขาก็ได้ส่งผลงานเข้าประกวดอีกครั้ง
และคว้า “รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง” มาครองได้สำเร็จ
นอกจากนี้ผลงานของคุณโลร็องยังไปเข้าตาดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง คริสเตียน ดิออร์
และได้ร่วมงานกับ Dior ในช่วงเวลาต่อมา
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1957 คุณคริสเตียน ดิออร์ ได้เสียชีวิตลง
ทำให้คุณโลร็องเข้ามาเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ของ Dior ด้วยวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น
และยังช่วยกอบกู้วิกฤติกิจการของ Dior ไว้ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ในปีถัดมา คุณโลร็องยังได้ปล่อยคอลเลกชันแรกออกมา และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย
แต่เขาก็ดื่มด่ำกับความสำเร็จได้ไม่นาน เพราะต่อมาก็ถูกเรียกตัวไปเข้าร่วมในกองทัพ
ซึ่งการถูกเรียกตัวในครั้งนั้น ทำให้เขาประสบปัญหาความเครียดและสุขภาพจิต
นอกจากนี้เขายังถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าดีไซเนอร์จาก Dior อีกด้วย
ในขณะนั้นสภาพจิตใจของคุณโลร็องย่ำแย่มาก จนต้องเข้ารับการบำบัดรักษา
และหลังจากที่คุณโลร็องได้รับการปล่อยตัวออกจากสถานบำบัด
เขาก็ได้ทำการฟ้องร้อง Dior ในเรื่องการละเมิดสัญญาการว่าจ้างงาน และแน่นอนว่าเขาชนะคดีในครั้งนั้น
ในช่วงเวลาต่อมาคุณโลร็องก็ได้พบรักกับคุณปีแยร์ แบร์เฌ ผู้เป็นดั่งหินผาที่คอยปกป้องเขา
คุณโลร็องจึงชวนคุณปีแยร์มาร่วมกันทำธุรกิจแฟชั่น Yves Saint Laurent โดยได้รับเงินสนับสนุนในการทำธุรกิจนี้ประมาณ 200,000 บาท จากมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน คือคุณเจ. มิค โรบินสัน
ซึ่งผลงานชิ้นสำคัญของคุณโลร็อง นั่นก็คือ Le Smoking (ค.ศ. 1966)
เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยการออกแบบ ชุดทักซิโดสำหรับผู้หญิง
และที่ใช้ชื่อ Le Smoking ก็เพราะว่า ในสมัยนั้นหลังจากที่ผู้หญิงและผู้ชายได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกันเสร็จแล้ว
ผู้หญิงจะแยกตัวไปอยู่อีกห้องหนึ่ง เพื่อให้ผู้ชายได้สูบบุหรี่ และคุยเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองกัน
ซึ่งพวกเขาคิดว่าผู้หญิงไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
คุณโลร็องจึงได้ออกแบบผลงาน Le Smoking ขึ้นมา เพื่อสื่อถึงการแต่งกายที่ไร้ซึ่งเพศ
และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมือนสุภาพบุรุษ
ให้ผู้หญิงได้มีอำนาจ และทรงอิทธิพลในโลกไม่ต่างจากสิ่งที่ผู้ชายมี
นอกจากนี้ในช่วงยุค 70 ยังมีการใช้นางแบบเป็นผู้หญิงผิวดำและผู้หญิงที่เป็นชนกลุ่มน้อย
เช่น คุณ Monique-Antoine Mounia Orosemane
ในเวลาต่อมา คุณ Naomi Campbell ยังเคยเป็นนางแบบให้กับ Yves Saint Laurent
และกลายเป็นนางแบบผิวดำคนแรกบนหน้าปกของนิตยสาร Vouge ปารีส ในช่วงยุค 80 อีกด้วย
ต่อมาในปี ค.ศ. 1983 คุณโลร็องก็ได้รับการเชิดชูเกียรติ จาก Metropolitan Museum Of Art ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวให้ ซึ่งเขาถือเป็นดีไซเนอร์ที่มีชีวิตอยู่คนแรก ที่ได้เกียรตินี้
และต่อมาในปี ค.ศ. 2001 คุณโลร็องก็ยังได้รับเครื่องรัฐอิสริยาภรณ์จากประธานาธิบดี Jacques Chirac อีกด้วย
ในช่วงเวลาบั้นปลายของชีวิตคุณโลร็อง เขาได้เกษียณตัวเองในปี ค.ศ. 2002
และอำลาวงการแฟชั่นที่เขารักไปใช้ชีวิตอย่างสงบกับสุนัขตัวโปรดของเขา
หลังจากที่คุณอีฟว์ แซ็ง โลร็อง อำลาวงการแฟชั่นไปได้เพียง 6 ปี
เขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในสมอง
และถึงแม้คุณโลร็องจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผลงาน และสไตล์ที่สร้างแรงบันดาลใจของเขา
จะยังคงอยู่กับคนรุ่นหลังต่อไป..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.