Benefit แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก ที่เกิดจากโยนเหรียญเสี่ยงทาย /โดย ลงทุนเกิร์ล

เวลาที่เราตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลือกไปทางไหน เราจะทำอย่างไร ?
ถ้าเป็น “หนังฝรั่ง” เราคงจะเห็น คนโยนเหรียญหัว-ก้อยเสี่ยงทาย
แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับ ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอาง Benefit

และก็อาจเป็นการทำตามโชคชะตาอย่างแท้จริง
เพราะผลลัพธ์ในครั้งนั้น ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่เติบโต
จนกลายเป็นแบรนด์เครื่องสำอาง ภายใต้อาณาจักร LVMH เครือแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก

เรื่องราวของ Benefit น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ย้อนไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว Benefit ก่อตั้งโดยพี่น้องฝาแฝด คุณ Jean Ford และคุณ Jane Ford
2 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอินเดียนา ที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ

เธอจึงตัดสินใจ ใช้การโยนเหรียญเสี่ยงทาย มาตัดสินอนาคต
โดยถ้าออกหัว จะเปิดคาเฟขายแคสเซอโรล อาหารที่พวกเธอถนัด
แต่ถ้าออกก้อย จะเปิดร้านเครื่องสำอาง

และมันก็ออกก้อย คาเฟขายแคสเซอโรล จึงถูกเก็บเข้าลิ้นชักทันที

แรกเริ่มแผนธุรกิจเบื้องต้นของพี่น้องตระกูล Ford
คือการทำรายได้ประมาณ 1,000 บาทต่อวัน เพื่อให้คุ้มทุน

ทั้งสองคนจึงเริ่มก่อตั้ง “The Face Place” ร้านเครื่องสำอางเล็ก ๆ ที่ Mission District รัฐซานฟรานซิสโก ในปี 1976

โดยผลิตภัณฑ์ยอดนิยมชิ้นแรกของแบรนด์ คือ ทินต์ทาปากสีแดงกุหลาบ
ที่เรียกว่า “Rose Tint” ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “Benetint”
และยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของบริษัท มาจนถึงทุกวันนี้

หลังจากนั้นแบรนด์ Benefit ก็ถือกำเนิดขึ้นในปี 1990
โดยหน้าร้านได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า “Benefit Cosmetics”
และเปิดเคาน์เตอร์ Benefit แห่งแรก ที่ห้างสรรพสินค้าเฮนรี เบนเดล ในนิวยอร์ก

และในปี 1997 แบรนด์ Benefit ก็เริ่มก้าวออกนอกสหรัฐอเมริกา
ไปเปิดสาขาต่างประเทศที่ห้างแฮร์รอดส์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

จนกระทั่งในปี 1999 อาณาจักรแบรนด์หรูยักษ์ใหญ่อย่าง LVMH
ก็สะดุดตาเข้ากับแบรนด์เครื่องสำอางของพี่น้อง Ford จนตกลงเข้าซื้อกิจการของ Benefit

และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Benefit ก็กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ ที่อยู่ภายใต้เครือของบริษัท LVMH

ต่อมาในปี 2008 ลูกสาวและหลานสาวของครอบครัว Ford
คุณ Maggie Ford Danielson และคุณ Annie Ford Danielson
ก็ได้เข้ามาร่วมงานกับ Benefit อย่างเป็นทางการ
โดยรับหน้าที่ Global Beauty Authorities ตัวแทนสาว Benefit และเพิ่มสีสันให้กับแบรนด์ยิ่งขึ้น

ซึ่งนอกจากเครื่องสำอางแล้ว ความสามารถในการแว็กซ์คิ้วก็เป็นสิ่งที่หลายคนไว้ใจ
และยกให้ Benefit Brow Bar เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านคิ้ว

โดย Benefit เคยสร้างสถิติ Guinness World Records มาแล้ว
ด้วยการแว็กซ์คิ้วมากที่สุดในโลกภายใน 8 ชั่วโมง ในปี 2012

อย่างไรก็ตาม ถ้าเจาะลึกลงไปในปรัชญาของแบรนด์ ก็จะพบว่า
Benefit ไม่ได้เน้นเพียงแค่ความงามจากภายนอกเท่านั้น
แต่ยังให้ความสำคัญกับความงามที่รู้สึกได้จากภายในด้วย

ดังนั้น Benefit จึงได้เปิดตัวโครงการ “Bold Is Beautiful”
โดยร่วมเป็นผู้สนับสนุนองค์กรการกุศลหลายแห่ง ที่ช่วยเหลือสตรีและเด็กให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ซึ่งใครจะคิดว่า จากการโยนเหรียญแบบง่าย ๆ
จะกลายเป็นจุดกำเนิดแบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกอย่าง Benefit
ที่ปัจจุบันถูกวางขายใน 59 ประเทศ 5 ทวีปทั่วโลก

ที่สำคัญการโยนเหรียญครั้งนั้น ยังเปลี่ยนแปลงชีวิตของฝาแฝด Ford และใบหน้าของผู้หญิงหลายล้านคนหลังจากนั้นไปตลอดกาล

อ่านเรื่อง Benefit จบแล้ว ถ้าใครกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
จะลองใช้วิธีโยนเหรียญเสี่ยงทายดูบ้างก็ได้นะคะ
แต่ในจังหวะที่เหรียญลอยขึ้นไปในอากาศ
อาจจะทำให้เรารู้ว่า จริง ๆ แล้ว เรากำลังหวังอยากให้เหรียญออกหัวหรือก้อย กันแน่..

References:
-https://marinmagazine.com/people/the-tiburon-twins-behind-benefit-cosmetics/
-https://www.benefitcosmetics.com
-https://www.vogue.co.th/beauty/benefitboldisbeautiful18
-https://www.lvmh.com/houses/perfumes-cosmetics/benefit/