Business
เบื้องหลังของ Esther Bunny แครักเตอร์กระต่าย ที่ไม่ได้มีแค่ “ความน่ารัก”
26 มิ.ย. 2021
เบื้องหลังของ Esther Bunny แครักเตอร์กระต่าย ที่ไม่ได้มีแค่ “ความน่ารัก” /โดย ลงทุนเกิร์ล
ทุกคนเคยล้มเลิกทำบางสิ่งบางอย่างไปกลางทางหรือไม่คะ
เช่น เลิกออกกำลังกายไปกลางทาง เลิกทำงานในฝันไปกลางทาง
เพียงแค่เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำมันได้ดีพอ
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับแค่คุณเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับใครอีกหลายคน
รวมถึงคุณ Esther Kim ศิลปินชาวเกาหลี-อเมริกัน
ที่เคยล้มเลิกการวาดภาพไปในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นเจ้าของผลงานต่าง ๆ มากมาย
รวมถึงแครักเตอร์สุดน่ารักอย่างเจ้ากระต่าย Esther Bunny
ที่กลายเป็นแครักเตอร์ที่แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ มาขอร่วมมือด้วย
เรื่องราวของคุณ Esther Kim น่าสนใจอย่างไร ?
แล้ว Esther Bunny เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เจ้ากระต่าย Esther Bunny เป็นผลงานการวาดของคุณ Esther Kim
ซึ่งเธอก็เป็นคนที่ชื่นชอบ และสนใจการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก ๆ
เพียงแต่ในตอนแรกนั้น เธอก็อาจยังเด็กเกินไป กว่าที่จะแน่ใจว่า ศิลปะคือสิ่งที่เธอทำได้ดี
ต่อมาครอบครัวของเธอก็ย้ายจากสหรัฐอเมริกา มาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแทน
ในตอนนั้นคุณ Esther Kim ยังเป็นแค่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น
และเมื่อเธอได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ญี่ปุ่น เธอก็พบว่าเด็ก ๆ รอบตัวเธอวาดรูปเก่งมาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ มันจึงทำให้เธอหมดความมั่นใจในการวาดรูป และเลิกวาดรูปไปในที่สุด
เพราะเธอมองว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เหมือนเด็กคนอื่น ๆ
แต่สุดท้ายเมื่อเธอโตขึ้น จนกลายเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
เธอก็เริ่มรู้สึกอยากกลับมาวาดรูปอีกครั้ง เพราะอยากจะหาหนทางที่สามารถแสดงตัวตนของเธอ ออกมาได้อย่างเต็มที่
คุณ Esther Kim จึงกลับมาวาดรูปอีกครั้ง
และนับจากวันนั้นจนปัจจุบัน เธอก็กลายเป็นศิลปินที่ทำงานในด้านศิลปะมากว่า 10 ปีแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นงานวาดภาพประกอบ งานออกแบบต่าง ๆ งานด้านแฟชั่น เธอก็ทำมาหมด
แต่หนึ่งในผลงานที่ทำให้เธอกลายเป็นที่โด่งดังก็คือ ตัวละคร Esther Bunny
หรือเจ้ากระต่ายขนปุย ที่มีหูขนาดใหญ่ พร้อมดวงตากลมโต และขนตาแสนสวย
โดยเจ้า Esther Bunny นี้ก็ฝากผลงานการ Collaboration ไว้กับหลากหลายแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Chuu ซึ่งเป็นเสื้อผ้าเกาหลี, แบรนด์ Lazy Oaf จากอังกฤษ,
WC Harajuku แบรนด์แฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่น
และล่าสุดก็ยัง Collab กับแบรนด์อย่าง Sabina และ Pomelo อีกด้วย
ซึ่งกว่าที่เจ้ากระต่าย Esther Bunny จะเกิดขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะเดิมทีนั้น คุณ Esther Kim ก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบรูปลักษณ์ของสัตว์เท่าไรนัก
แต่ถึงอย่างนั้นในผลงานการวาดภาพเพื่อประกอบงานด้านแฟชั่นของเธอ
ก็มักจะมีสัตว์อย่างกระต่ายโผล่อยู่ในนั้นเสมอ
เพราะลึก ๆ แล้วเธอเชื่อว่า กระต่าย
คือสัตว์ที่สื่อสารความเป็นผู้หญิง และความสวยงามได้เป็นอย่างดี
จนในที่สุดเธอก็เริ่มรู้สึกว่า เธอต้องใส่ใจเจ้ากระต่ายตัวนี้ให้มากขึ้น
ถ้าหากว่าแม้แต่เธอยังไม่ชอบรูปลักษณ์ของสัตว์ที่ตัวเองวาด แล้วคนอื่นจะมาชอบงานของเธอได้อย่างไร
พอเรื่องเป็นแบบนี้คุณ Esther Kim ก็เริ่มตั้งใจวาดตัวละครกระต่ายของเธอใหม่
จนในที่สุดก็กลายมาเป็น Esther Bunny นั่นเอง
โดยในตอนแรก ๆ ที่เธอนำแฟ้มผลงานของเธอไปนำเสนอยังเอเจนซีต่าง ๆ
ทุกคนก็พูดถึงเจ้า Esther Bunny เป็นเสียงเดียวกันว่า “น้องน่ารักเกินไป”
แต่คุณ Esther Kim กลับไม่ได้รู้สึกย่อท้อ เพราะเธอมองว่า
Esther Bunny จะดูเป็นสิ่งที่ “ไม่ถูกต้อง” แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจะมีคนบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ “ถูก”
ซึ่งเวลาก็กลายเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีคำว่า “น่ารักเกินไป” สำหรับ Esther Bunny
แล้วอะไรที่ทำให้ Esther Bunny กลายเป็นที่โด่งดัง ?
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลที่ทำให้ Esther Bunny โด่งดังก็คือ “ความน่ารัก”
และเป็นตัวละครที่น่ารักถูกใจใครหลายคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้หญิง
ซึ่ง Esther Bunny ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักธรรมดา ๆ เท่านั้น
แต่เป็น “ความน่ารักแบบสากล” หรือก็คือไม่ได้มีความน่ารักแบบญี่ปุ่น หรือ
น่ารักแบบเกาหลี แต่เป็นความน่ารักที่เข้าถึงคนได้หลายวัฒนธรรม
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่คุณ Esther Kim อาศัยอยู่กับวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ทั้งอเมริกัน เกาหลี และญี่ปุ่น ทำให้เธอคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย
และสิ่งนั้นก็สื่อออกมาผ่านผลงาน Esther Bunny ของเธอ
ซึ่งหากเราลองสังเกตผลงานของเธอดี ๆ จะพบว่าสายตาของ Esther Bunny จะมองไปด้านข้างเสมอ
นอกจากนั้น Esther Bunny ยังมีใบหูที่ใหญ่ เพื่อเป็นการสื่อสารว่า
เจ้า Esther Bunny กำลังสังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เพื่อดูว่าควรทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์
ทำให้ Esther Bunny ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวละครที่สร้างขึ้นเพื่อความน่ารัก
แต่ยังเป็นอีกเครื่องมือที่คุณ Esther Kim ใช้สื่อสารความเป็นตัวเองออกไปอีกด้วย
โดยอีกส่วนที่ยังซ่อนอยู่ภายใต้ความน่ารักของ Esther Bunny ก็คือ ความเศร้าและความเหงา
เพื่อสื่อว่าถึงแม้ Esther Bunny จะดูนุ่มนวล แต่มันก็ผ่านอะไรมามากกว่าจะประสบความสำเร็จ
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่ต่างจากชีวิตของคุณ Esther Kim เลย
จากเรื่องราวของคุณ Esther Kim ก็คงทำให้เราได้เรียนรู้ว่า
สิ่งที่เราเห็นนั้น อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปก็ได้
เหมือนกับ Esther Bunny แครักเตอร์ที่ใครหลายคนมองว่า “น่ารัก”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว Esther Bunny กลับมีเรื่องราวที่มากกว่านั้น
ไม่ต่างกับชีวิตของคนเรา ที่บางครั้งเราก็ตัดสินความสำเร็จของคนอื่นจาก “ฉากหน้า” ที่เห็น
โดยไม่ได้คำนึงว่าจริง ๆ แล้วกว่าที่พวกเขาจะมีทุกวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง..
References:
-http://calmandpunk.com/en/interview/interview-with-esther-kim/
-http://www.estherlovesyou.net/
-https://www.aarynwest.com/blog/interviews/esther-kim-artist-interview
-https://vmagazine.com/article/meet-esther-kim-the-illustrator-weaponizing-femininity/
เช่น เลิกออกกำลังกายไปกลางทาง เลิกทำงานในฝันไปกลางทาง
เพียงแค่เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำมันได้ดีพอ
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับแค่คุณเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับใครอีกหลายคน
รวมถึงคุณ Esther Kim ศิลปินชาวเกาหลี-อเมริกัน
ที่เคยล้มเลิกการวาดภาพไปในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นเจ้าของผลงานต่าง ๆ มากมาย
รวมถึงแครักเตอร์สุดน่ารักอย่างเจ้ากระต่าย Esther Bunny
ที่กลายเป็นแครักเตอร์ที่แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ มาขอร่วมมือด้วย
เรื่องราวของคุณ Esther Kim น่าสนใจอย่างไร ?
แล้ว Esther Bunny เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เจ้ากระต่าย Esther Bunny เป็นผลงานการวาดของคุณ Esther Kim
ซึ่งเธอก็เป็นคนที่ชื่นชอบ และสนใจการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก ๆ
เพียงแต่ในตอนแรกนั้น เธอก็อาจยังเด็กเกินไป กว่าที่จะแน่ใจว่า ศิลปะคือสิ่งที่เธอทำได้ดี
ต่อมาครอบครัวของเธอก็ย้ายจากสหรัฐอเมริกา มาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแทน
ในตอนนั้นคุณ Esther Kim ยังเป็นแค่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น
และเมื่อเธอได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ญี่ปุ่น เธอก็พบว่าเด็ก ๆ รอบตัวเธอวาดรูปเก่งมาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ มันจึงทำให้เธอหมดความมั่นใจในการวาดรูป และเลิกวาดรูปไปในที่สุด
เพราะเธอมองว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เหมือนเด็กคนอื่น ๆ
แต่สุดท้ายเมื่อเธอโตขึ้น จนกลายเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
เธอก็เริ่มรู้สึกอยากกลับมาวาดรูปอีกครั้ง เพราะอยากจะหาหนทางที่สามารถแสดงตัวตนของเธอ ออกมาได้อย่างเต็มที่
คุณ Esther Kim จึงกลับมาวาดรูปอีกครั้ง
และนับจากวันนั้นจนปัจจุบัน เธอก็กลายเป็นศิลปินที่ทำงานในด้านศิลปะมากว่า 10 ปีแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นงานวาดภาพประกอบ งานออกแบบต่าง ๆ งานด้านแฟชั่น เธอก็ทำมาหมด
แต่หนึ่งในผลงานที่ทำให้เธอกลายเป็นที่โด่งดังก็คือ ตัวละคร Esther Bunny
หรือเจ้ากระต่ายขนปุย ที่มีหูขนาดใหญ่ พร้อมดวงตากลมโต และขนตาแสนสวย
โดยเจ้า Esther Bunny นี้ก็ฝากผลงานการ Collaboration ไว้กับหลากหลายแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Chuu ซึ่งเป็นเสื้อผ้าเกาหลี, แบรนด์ Lazy Oaf จากอังกฤษ,
WC Harajuku แบรนด์แฟชั่นจากประเทศญี่ปุ่น
และล่าสุดก็ยัง Collab กับแบรนด์อย่าง Sabina และ Pomelo อีกด้วย
ซึ่งกว่าที่เจ้ากระต่าย Esther Bunny จะเกิดขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะเดิมทีนั้น คุณ Esther Kim ก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบรูปลักษณ์ของสัตว์เท่าไรนัก
แต่ถึงอย่างนั้นในผลงานการวาดภาพเพื่อประกอบงานด้านแฟชั่นของเธอ
ก็มักจะมีสัตว์อย่างกระต่ายโผล่อยู่ในนั้นเสมอ
เพราะลึก ๆ แล้วเธอเชื่อว่า กระต่าย
คือสัตว์ที่สื่อสารความเป็นผู้หญิง และความสวยงามได้เป็นอย่างดี
จนในที่สุดเธอก็เริ่มรู้สึกว่า เธอต้องใส่ใจเจ้ากระต่ายตัวนี้ให้มากขึ้น
ถ้าหากว่าแม้แต่เธอยังไม่ชอบรูปลักษณ์ของสัตว์ที่ตัวเองวาด แล้วคนอื่นจะมาชอบงานของเธอได้อย่างไร
พอเรื่องเป็นแบบนี้คุณ Esther Kim ก็เริ่มตั้งใจวาดตัวละครกระต่ายของเธอใหม่
จนในที่สุดก็กลายมาเป็น Esther Bunny นั่นเอง
โดยในตอนแรก ๆ ที่เธอนำแฟ้มผลงานของเธอไปนำเสนอยังเอเจนซีต่าง ๆ
ทุกคนก็พูดถึงเจ้า Esther Bunny เป็นเสียงเดียวกันว่า “น้องน่ารักเกินไป”
แต่คุณ Esther Kim กลับไม่ได้รู้สึกย่อท้อ เพราะเธอมองว่า
Esther Bunny จะดูเป็นสิ่งที่ “ไม่ถูกต้อง” แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจะมีคนบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ “ถูก”
ซึ่งเวลาก็กลายเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีคำว่า “น่ารักเกินไป” สำหรับ Esther Bunny
แล้วอะไรที่ทำให้ Esther Bunny กลายเป็นที่โด่งดัง ?
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลที่ทำให้ Esther Bunny โด่งดังก็คือ “ความน่ารัก”
และเป็นตัวละครที่น่ารักถูกใจใครหลายคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้หญิง
ซึ่ง Esther Bunny ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักธรรมดา ๆ เท่านั้น
แต่เป็น “ความน่ารักแบบสากล” หรือก็คือไม่ได้มีความน่ารักแบบญี่ปุ่น หรือ
น่ารักแบบเกาหลี แต่เป็นความน่ารักที่เข้าถึงคนได้หลายวัฒนธรรม
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่คุณ Esther Kim อาศัยอยู่กับวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ทั้งอเมริกัน เกาหลี และญี่ปุ่น ทำให้เธอคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย
และสิ่งนั้นก็สื่อออกมาผ่านผลงาน Esther Bunny ของเธอ
ซึ่งหากเราลองสังเกตผลงานของเธอดี ๆ จะพบว่าสายตาของ Esther Bunny จะมองไปด้านข้างเสมอ
นอกจากนั้น Esther Bunny ยังมีใบหูที่ใหญ่ เพื่อเป็นการสื่อสารว่า
เจ้า Esther Bunny กำลังสังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เพื่อดูว่าควรทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์
ทำให้ Esther Bunny ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวละครที่สร้างขึ้นเพื่อความน่ารัก
แต่ยังเป็นอีกเครื่องมือที่คุณ Esther Kim ใช้สื่อสารความเป็นตัวเองออกไปอีกด้วย
โดยอีกส่วนที่ยังซ่อนอยู่ภายใต้ความน่ารักของ Esther Bunny ก็คือ ความเศร้าและความเหงา
เพื่อสื่อว่าถึงแม้ Esther Bunny จะดูนุ่มนวล แต่มันก็ผ่านอะไรมามากกว่าจะประสบความสำเร็จ
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่ต่างจากชีวิตของคุณ Esther Kim เลย
จากเรื่องราวของคุณ Esther Kim ก็คงทำให้เราได้เรียนรู้ว่า
สิ่งที่เราเห็นนั้น อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปก็ได้
เหมือนกับ Esther Bunny แครักเตอร์ที่ใครหลายคนมองว่า “น่ารัก”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว Esther Bunny กลับมีเรื่องราวที่มากกว่านั้น
ไม่ต่างกับชีวิตของคนเรา ที่บางครั้งเราก็ตัดสินความสำเร็จของคนอื่นจาก “ฉากหน้า” ที่เห็น
โดยไม่ได้คำนึงว่าจริง ๆ แล้วกว่าที่พวกเขาจะมีทุกวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง..
References:
-http://calmandpunk.com/en/interview/interview-with-esther-kim/
-http://www.estherlovesyou.net/
-https://www.aarynwest.com/blog/interviews/esther-kim-artist-interview
-https://vmagazine.com/article/meet-esther-kim-the-illustrator-weaponizing-femininity/