Business
PetBacker แอปจากมาเลเซีย ที่ได้ฉายาว่าเป็น Airbnb แห่งวงการสัตว์เลี้ยง
11 มิ.ย. 2021
PetBacker แอปจากมาเลเซีย ที่ได้ฉายาว่าเป็น Airbnb แห่งวงการสัตว์เลี้ยง /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อการที่สัตว์เลี้ยงต้องมาจากไป ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแอปพลิเคชัน PetBacker
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ ชายคนหนึ่ง ที่ไม่อยู่บ้านหลายวัน จึงนำสัตว์ไปฝากไว้ที่โรงแรมสัตว์เลี้ยง
โดยที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่า การตัดสินใจในครั้งนั้น จะทำให้เขาไม่ได้พบกับเพื่อนสี่ขาไปอีกตลอดกาล..
เพราะหลังจากนั้น เขาก็พบว่าสัตว์เลี้ยงของเขาติดเชื้อจากโรงแรม
จนทำให้สัตว์เลี้ยงของเขาต้องจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร
ซึ่งจริง ๆ แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลาย ๆ คน
อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียในวันนั้น กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้กับ PetBacker
แอปพลิเคชันที่อาจกลายเป็นอนาคต ของวงการดูแลสัตว์เลี้ยงเลยก็ว่าได้..
แล้วเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร และ PetBacker เป็นแอปพลิเคชันอะไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แอปพลิเคชัน PetBacker ก่อตั้งโดยชาวมาเลเซียที่ชื่อว่า คุณ Vernon Tee และคุณ Edward Khoo
โดยหลังจากเรื่องราวการสูญเสียสัตว์เลี้ยงของคุณ Edward Khoo จากการฝากสัตว์เลี้ยงไว้ที่โรงแรมจนทำให้เกิดการติดเชื้อ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งความสูญเสียนี้ แทบไม่มีวิธีใดเลย ที่จะสามารถเยียวยาหัวใจแตกสลายของเจ้าของได้
เพราะไม่ว่าจะชดเชยด้วยเงินมากแค่ไหน สัตว์เลี้ยงแสนรักก็ไม่ฟื้นกลับมาอยู่ดี..
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำ ๆ
คุณ Edward Khoo และคุณ Vernon Tee จึงได้ร่วมกันก่อตั้งแอปพลิเคชัน PetBacker ขึ้นในปี 2016
โดยการทำงานของแอปพลิเคชัน PetBacker จะแบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
1. เจ้าของสัตว์เลี้ยง ที่ต้องการคนมาดูแลสัตว์เลี้ยง
เช่น พาสุนัขไปเดินเล่น, ฝากสัตว์เลี้ยงค้างคืน, แท็กซี่สัตว์เลี้ยง และอาบน้ำ-ตัดขน
2. ผู้ให้บริการ หรือพี่เลี้ยง คือกลุ่มคนรักสัตว์ที่สามารถสมัครเข้ามาให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงได้ตามที่ตัวเองถนัด และจะได้รับค่าตอบแทนจากการดูแลสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ดังนั้นแอปพลิเคชัน PetBacker จึงเป็นเสมือนตัวกลางที่ช่วยให้คนทั้ง 2 กลุ่มนี้มาเจอกัน
ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงก็สามารถเลือกคนที่เราจะฝากสัตว์เลี้ยงไว้ได้เอง
และเหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลาย ก็สามารถหารายได้เสริมจากการดูแลสัตว์เหล่านี้ได้
แต่คำถามที่สำคัญของเรื่องนี้ ก็คือ
แอปพลิเคชัน PetBacker จะสามารถแก้ไขปัญหาการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้คุณภาพได้อย่างไร ?
คำตอบก็คือ “ระบบการรีวิว” ที่ลูกค้าสามารถเข้ามารีวิวการบริการของเหล่าพี่เลี้ยงได้ตามจริง
แม้เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดา
แต่จริง ๆ แล้ว การรีวิวเป็นหนึ่งในเครื่องมือ ที่สะท้อนเสียงจากผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะถ้าหากเราจะพาสุนัขไปฝากไว้ที่โรงแรม เราคงจะดูได้แค่ว่าบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอย่างไรบ้าง
แต่เราไม่สามารถเดินเข้าไปถามลูกค้าทุกคนที่เคยมาใช้บริการได้ว่า การบริการของที่นี่ดีจริงหรือไม่
ในขณะเดียวกัน หากเราเคยเจอประสบการณ์แย่ ๆ จากการใช้บริการที่นี่ เราเองก็ไม่สามารถไปบอกลูกค้าคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน
ดังนั้น ระบบการรีวิว จึงเป็นตัวกลางที่ทำให้ลูกค้าทุกคน
ที่เคยใช้บริการสามารถบอกเล่าประสบการณ์ตัวเองได้
และลูกค้าใหม่ก็สามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าเก่า ๆ ได้หมด
นอกจากนี้ รูปแบบการให้บริการของ PetBacker นี้ก็มีความคล้ายกับ Airbnb
ที่เปลี่ยนจากการเข้าพักตามโรงแรม สู่การพักตามบ้านเรือนของคนทั่ว ๆ ไปที่เปิดให้เช่า
ซึ่งรูปแบบของการให้บริการ PetBacker ก็เช่นกัน
เพราะเปลี่ยนจากการส่งสัตว์เลี้ยงไปพักตามโรงแรมสัตว์ เป็นการไปฝากไว้ที่บ้านของเหล่าพี่เลี้ยง
และที่สำคัญ คนที่สมัครเข้ามาในแพลตฟอร์ม PetBacker ก็สามารถหารายได้เสริมตรงนี้ได้
ดังนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ PetBacker ถูกขนานนามว่าเป็น Airbnb แห่งวงการสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
โดยในปัจจุบัน PetBacker ได้เปิดให้บริการไปกว่า 40 ประเทศ
ทั้งในภูมิภาคเอเชีย, ยุโรป และอเมริกา
ที่น่าสนใจ คือ แม้ว่า PetBacker จะก่อตั้งโดยชาวมาเลเซีย
แต่กลับเลือกเปิดตัวครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ผลปรากฏว่า PetBacker ได้พ่ายแพ้ไป
เนื่องจากตลาดนี้ มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่าง “Rover” เป็นแพลตฟอร์มในลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ Rover ได้ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
ทำให้ Rover กำลังจะกลายเป็นยูนิคอร์นในไม่ช้า และ Rover ก็ยังมีแผนที่จะ IPO ในเร็ว ๆ นี้ อีกด้วย
ด้วยการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดสหรัฐอเมริกานี่เอง
ผู้ก่อตั้ง PetBacker จึงตัดสินใจหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดในฝั่งเอเชียมากขึ้น
และก็ดูเหมือนว่าการตัดสินใจของผู้ก่อตั้ง PetBacker ในวันนั้น จะมาได้ถูกทาง
เพราะปัจจุบัน ประเทศที่เป็นแหล่งรายได้หลักของ PetBacker ก็คือ
สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเลเซีย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียทั้งสิ้น
โดยรายได้ของบริษัทจะมาจากการหักค่าคอมมิชชัน
ประมาณ 15-25% จากทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม
แต่นอกจากประเด็นที่เรากล่าวมาทั้งหมดแล้ว
อีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือ โอกาสการเติบโตของ PetBacker
เพราะหากเราพิจารณาจาก มูลค่าตลาดดูแลสัตว์เลี้ยงทั่วโลกในปี 2020
จะพบว่า มีมูลค่าสูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
และยังมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2021 นี้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านล้านบาท
ซึ่งนี่หมายถึง โอกาสอันกว้างใหญ่ของ PetBacker
และถ้าหากบริษัทสามารถเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้ได้แค่เพียงส่วนเล็ก ๆ
จำนวนเงินมหาศาล ก็คงไม่หนีไปไหน..
References:
-https://www.petbacker.com/in-the-news/sit-stay-heel-tech-takes-petsitting-online
-https://www.digitalnewsasia.com/startups/
-https://www.businessinsider.com/rover-planning-a-public-market-debut-in-mid-june-2021-5#
-https://www.petbacker.com/th-th/in-the-news/sit-stay-heel-tech-takes-petsitting-online
-https://www.fortunebusinessinsights.com/pet-care-market-104749
-https://www.digitalnewsasia.com/startups/petbacker-heads-more-new-markets
-https://www.petbacker.com/in-the-news/a-ceo-turned-his-pet-s-death-into-this-pet-care-startup-investment
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ ชายคนหนึ่ง ที่ไม่อยู่บ้านหลายวัน จึงนำสัตว์ไปฝากไว้ที่โรงแรมสัตว์เลี้ยง
โดยที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่า การตัดสินใจในครั้งนั้น จะทำให้เขาไม่ได้พบกับเพื่อนสี่ขาไปอีกตลอดกาล..
เพราะหลังจากนั้น เขาก็พบว่าสัตว์เลี้ยงของเขาติดเชื้อจากโรงแรม
จนทำให้สัตว์เลี้ยงของเขาต้องจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร
ซึ่งจริง ๆ แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลาย ๆ คน
อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียในวันนั้น กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้กับ PetBacker
แอปพลิเคชันที่อาจกลายเป็นอนาคต ของวงการดูแลสัตว์เลี้ยงเลยก็ว่าได้..
แล้วเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร และ PetBacker เป็นแอปพลิเคชันอะไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แอปพลิเคชัน PetBacker ก่อตั้งโดยชาวมาเลเซียที่ชื่อว่า คุณ Vernon Tee และคุณ Edward Khoo
โดยหลังจากเรื่องราวการสูญเสียสัตว์เลี้ยงของคุณ Edward Khoo จากการฝากสัตว์เลี้ยงไว้ที่โรงแรมจนทำให้เกิดการติดเชื้อ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งความสูญเสียนี้ แทบไม่มีวิธีใดเลย ที่จะสามารถเยียวยาหัวใจแตกสลายของเจ้าของได้
เพราะไม่ว่าจะชดเชยด้วยเงินมากแค่ไหน สัตว์เลี้ยงแสนรักก็ไม่ฟื้นกลับมาอยู่ดี..
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำ ๆ
คุณ Edward Khoo และคุณ Vernon Tee จึงได้ร่วมกันก่อตั้งแอปพลิเคชัน PetBacker ขึ้นในปี 2016
โดยการทำงานของแอปพลิเคชัน PetBacker จะแบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
1. เจ้าของสัตว์เลี้ยง ที่ต้องการคนมาดูแลสัตว์เลี้ยง
เช่น พาสุนัขไปเดินเล่น, ฝากสัตว์เลี้ยงค้างคืน, แท็กซี่สัตว์เลี้ยง และอาบน้ำ-ตัดขน
2. ผู้ให้บริการ หรือพี่เลี้ยง คือกลุ่มคนรักสัตว์ที่สามารถสมัครเข้ามาให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงได้ตามที่ตัวเองถนัด และจะได้รับค่าตอบแทนจากการดูแลสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
ดังนั้นแอปพลิเคชัน PetBacker จึงเป็นเสมือนตัวกลางที่ช่วยให้คนทั้ง 2 กลุ่มนี้มาเจอกัน
ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงก็สามารถเลือกคนที่เราจะฝากสัตว์เลี้ยงไว้ได้เอง
และเหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลาย ก็สามารถหารายได้เสริมจากการดูแลสัตว์เหล่านี้ได้
แต่คำถามที่สำคัญของเรื่องนี้ ก็คือ
แอปพลิเคชัน PetBacker จะสามารถแก้ไขปัญหาการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้คุณภาพได้อย่างไร ?
คำตอบก็คือ “ระบบการรีวิว” ที่ลูกค้าสามารถเข้ามารีวิวการบริการของเหล่าพี่เลี้ยงได้ตามจริง
แม้เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดา
แต่จริง ๆ แล้ว การรีวิวเป็นหนึ่งในเครื่องมือ ที่สะท้อนเสียงจากผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะถ้าหากเราจะพาสุนัขไปฝากไว้ที่โรงแรม เราคงจะดูได้แค่ว่าบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอย่างไรบ้าง
แต่เราไม่สามารถเดินเข้าไปถามลูกค้าทุกคนที่เคยมาใช้บริการได้ว่า การบริการของที่นี่ดีจริงหรือไม่
ในขณะเดียวกัน หากเราเคยเจอประสบการณ์แย่ ๆ จากการใช้บริการที่นี่ เราเองก็ไม่สามารถไปบอกลูกค้าคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน
ดังนั้น ระบบการรีวิว จึงเป็นตัวกลางที่ทำให้ลูกค้าทุกคน
ที่เคยใช้บริการสามารถบอกเล่าประสบการณ์ตัวเองได้
และลูกค้าใหม่ก็สามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าเก่า ๆ ได้หมด
นอกจากนี้ รูปแบบการให้บริการของ PetBacker นี้ก็มีความคล้ายกับ Airbnb
ที่เปลี่ยนจากการเข้าพักตามโรงแรม สู่การพักตามบ้านเรือนของคนทั่ว ๆ ไปที่เปิดให้เช่า
ซึ่งรูปแบบของการให้บริการ PetBacker ก็เช่นกัน
เพราะเปลี่ยนจากการส่งสัตว์เลี้ยงไปพักตามโรงแรมสัตว์ เป็นการไปฝากไว้ที่บ้านของเหล่าพี่เลี้ยง
และที่สำคัญ คนที่สมัครเข้ามาในแพลตฟอร์ม PetBacker ก็สามารถหารายได้เสริมตรงนี้ได้
ดังนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ PetBacker ถูกขนานนามว่าเป็น Airbnb แห่งวงการสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
โดยในปัจจุบัน PetBacker ได้เปิดให้บริการไปกว่า 40 ประเทศ
ทั้งในภูมิภาคเอเชีย, ยุโรป และอเมริกา
ที่น่าสนใจ คือ แม้ว่า PetBacker จะก่อตั้งโดยชาวมาเลเซีย
แต่กลับเลือกเปิดตัวครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ผลปรากฏว่า PetBacker ได้พ่ายแพ้ไป
เนื่องจากตลาดนี้ มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่าง “Rover” เป็นแพลตฟอร์มในลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ Rover ได้ถูกประเมินมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
ทำให้ Rover กำลังจะกลายเป็นยูนิคอร์นในไม่ช้า และ Rover ก็ยังมีแผนที่จะ IPO ในเร็ว ๆ นี้ อีกด้วย
ด้วยการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดสหรัฐอเมริกานี่เอง
ผู้ก่อตั้ง PetBacker จึงตัดสินใจหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดในฝั่งเอเชียมากขึ้น
และก็ดูเหมือนว่าการตัดสินใจของผู้ก่อตั้ง PetBacker ในวันนั้น จะมาได้ถูกทาง
เพราะปัจจุบัน ประเทศที่เป็นแหล่งรายได้หลักของ PetBacker ก็คือ
สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเลเซีย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในภูมิภาคเอเชียทั้งสิ้น
โดยรายได้ของบริษัทจะมาจากการหักค่าคอมมิชชัน
ประมาณ 15-25% จากทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม
แต่นอกจากประเด็นที่เรากล่าวมาทั้งหมดแล้ว
อีกหนึ่งเรื่องที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือ โอกาสการเติบโตของ PetBacker
เพราะหากเราพิจารณาจาก มูลค่าตลาดดูแลสัตว์เลี้ยงทั่วโลกในปี 2020
จะพบว่า มีมูลค่าสูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท
และยังมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2021 นี้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านล้านบาท
ซึ่งนี่หมายถึง โอกาสอันกว้างใหญ่ของ PetBacker
และถ้าหากบริษัทสามารถเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้ได้แค่เพียงส่วนเล็ก ๆ
จำนวนเงินมหาศาล ก็คงไม่หนีไปไหน..
References:
-https://www.petbacker.com/in-the-news/sit-stay-heel-tech-takes-petsitting-online
-https://www.digitalnewsasia.com/startups/
-https://www.businessinsider.com/rover-planning-a-public-market-debut-in-mid-june-2021-5#
-https://www.petbacker.com/th-th/in-the-news/sit-stay-heel-tech-takes-petsitting-online
-https://www.fortunebusinessinsights.com/pet-care-market-104749
-https://www.digitalnewsasia.com/startups/petbacker-heads-more-new-markets
-https://www.petbacker.com/in-the-news/a-ceo-turned-his-pet-s-death-into-this-pet-care-startup-investment