Vegemite ที่ทาขนมปังรสแปลกที่คนออสเตรเลียชอบ แต่ชาติอื่นอาจจะไม่ชอบ
Food

Vegemite ที่ทาขนมปังรสแปลกที่คนออสเตรเลียชอบ แต่ชาติอื่นอาจจะไม่ชอบ

9 มิ.ย. 2021
Vegemite ที่ทาขนมปังรสแปลกที่คนออสเตรเลียชอบ แต่ชาติอื่นอาจจะไม่ชอบ /โดย ลงทุนเกิร์ล
มื้อเช้านับว่าเป็นอีกหนึ่งมื้อเร่งด่วน ที่ใครหลายคนต้องการใช้เวลากับมันให้น้อยที่สุด
ดังนั้นคนที่พยายามจะทานมื้อเช้า จึงมักหาตัวเลือกที่จะรังสรรค์มื้อเช้า
ให้ทั้งอร่อย เร็ว และช่วยให้สุขภาพดีในขณะเดียวกัน
และหนึ่งในตัวเลือกเหล่านั้น ก็น่าจะมีขนมปังอยู่ด้วย
แต่ขนมปังกินเปล่า ๆ ก็คงไม่อร่อยเท่าการนำไปปิ้ง แล้วกินกับเนยหรือแยม
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่เคยไปเที่ยวออสเตรเลีย ก็อาจจะเคยพบกับที่ทาขนมปัง
กระปุกสีเหลืองสดใส พร้อมฉลากสีแดง และตัวหนังสือสีขาวเขียนว่า Vegemite
ซึ่งหากมองแค่ฉลากมันก็ดูน่ากินดี แต่ว่าถ้าหากได้ลองลิ้มรสสักครั้งแล้ว
บางคนอาจจะรู้สึกว่า ชีวิตนี้อย่าให้ฉันได้กินมันอีกเลย จะดีเสียกว่า
แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้า Vegemite ที่หลายคนเกลียดเข้าไส้นี้
กลับเป็นที่ทาขนมปังที่ 9 ใน 10 บ้านของคนออสเตรเลียมีติดบ้านเอาไว้
แล้ว Vegemite นี้มีที่มาอย่างไร และมีรสชาติแบบไหน ?
ทำไมจึงเป็นที่ทาขนมปังที่คนออสเตรเลียชอบ แต่คนอีกกลุ่มก็ไม่ชอบ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หากจะพูดถึงต้นกำเนิดของ Vegemite คงต้องย้อนกลับไปเกือบ 100 ปีที่แล้ว หรือประมาณช่วงปลายศตวรรษที่ 19 
โดยคุณ Justus von Liebig นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน
ค้นพบว่า ยีสต์หมัก หรือ Yeast Extract ที่เหลือมาจากการหมักเบียร์นั้น 
สามารถนำมาทำให้ข้นขึ้น แล้วนำมารับประทานได้
ต่อมาในปี 1902 มีการก่อตั้งบริษัทชื่อว่า Marmite Extract ในประเทศอังกฤษ
โดยบริษัทนี้ก็ขายผลิตภัณฑ์ชื่อว่า Marmite หรือก็คือ ผลิตภัณฑ์ทาขนมปังที่ทำมาจากยีสต์หมัก
ซึ่ง Marmite นี้ ก็กลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศอังกฤษ
เมื่อ Marmite เริ่มกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น ก็ทำให้ในปี 1908 
บริษัท Sanitarium Health ซึ่งเป็นบริษัทด้านอาหารในประเทศออสเตรเลีย
จึงได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการจำหน่าย Marmite มาไว้ครอบครอง 
แล้วจึงผูกขาดสิทธิ์ในการจำหน่ายส่งออก Marmite ไปยังนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย แต่เพียงผู้เดียว
แต่แล้วเมื่อนานาประเทศเริ่มเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ทำให้ Marmite เริ่มขาดตลาดไปในที่สุด
จนในปี 1922 ชายหนุ่มชื่อว่าคุณ Fred Walker ซึ่งเป็นนักธุรกิจ เจ้าของบริษัท Fred Walker & Co. 
ได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจนี้ จึงติดต่อคุณ Cyril Callister นักเคมีชาวออสเตรเลีย 
ให้ช่วยคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับ Marmite ขึ้นมา
หลังจากผ่านไปหลายเดือน คุณ Cyril Callister ก็คิดค้นสูตรยีสต์หมัก ที่คล้ายกับ Marmite สำเร็จ
แต่ต่างกันตรงที่มีการเพิ่มส่วนผสมอย่างสารสกัดจากหัวหอม ขึ้นฉ่าย และเกลือจำนวนมาก เพื่อให้เจ้ายีสต์หมักนี่มีรสชาติที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์แล้ว แต่เจ้าผลิตภัณฑ์นี้ก็ยังไม่มีชื่อเรียก
ในปี 1923 คุณ Fred Walker จึงมีการจัดการแข่งขันเพื่อตั้งชื่อเจ้าผลิตภัณฑ์ยีสต์หมักนี้ขึ้น
โดยเขาเสนอเงินรางวัล 50 ปอนด์ ให้กับผู้ที่ชนะการประกวดชื่อในครั้งนี้
แล้วด้วยเหตุนี้ก็ทำให้มีผู้ส่งชื่อเข้าประกวดเข้ามาอย่างล้นหลาม
จนคุณ Fred Walker เองก็เลือกไม่ถูกว่าจะเอาชื่อไหนดี
เขาจึงใช้วิธีการเอาชื่อทุกชื่อที่ส่งเข้ามา ใส่รวมกันในหมวก 
แล้วให้ลูกสาวของเขา สุ่มเลือกชื่อขึ้นมา และด้วยเหตุนี้เองชื่อ Vegemite ก็ถือกำเนิดขึ้น
แต่โชคก็ไม่ดีเท่าไรนัก เพราะเมื่อสงครามโลกจบลง 
Marmite ที่เคยขาดตลาดไปนั้น ก็เริ่มกลับมาสู่ท้องตลาดอีกครั้ง 
ทำให้ Vegemite ประสบปัญหาในการทำการตลาดเป็นอย่างมาก
เนื่องจากผู้คนยังคงคุ้นชินกับรสชาติของ Marmite มากกว่า Vegemite
เมื่อสินค้าที่พยายามคิดมากลับขายไม่ออก ทำให้ทางคุณ Fred Walker ต้องคิดแผนการใหม่
ในปี 1928 คุณ Fred Walker จึงได้ตัดสินใจ Rebrand ของ Vegemite ใหม่
กลายเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า Parwill พร้อมกับสโลแกนว่า “Marmite but Parwill”
ซึ่งเป็นการเล่นกับประโยค If Ma (mother) might... then Pa (father) will.
หรือแปลเป็นไทยก็คือ “ถ้าแม่ลังเล พ่อจะใช้เอง”
แต่แผนการนี้ก็ยังคงล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า จนสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนกลับมาสู่ชื่อ Vegemite อีกครั้ง
คุณ Fred Walker จึงเริ่มแผนการใหม่ เพื่อกอบกู้ชื่อให้กับ Vegemite อีกครั้ง
โดยพวกเขาเลือกนำเอาสินค้าที่ทางบริษัทขายดี อย่าง Kraft Walker Cheese
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชีสแปรรูป นำมาเป็นของแถมให้กับผู้ที่ซื้อ Vegemite
นอกจากนั้น ยังมอบคูปองส่วนลด สำหรับการซื้อสินค้าครั้งถัดไปให้อีกด้วย
ทำให้แผนการส่งเสริมการขายในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Vegemite กลายเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของคนออสเตรเลีย ?
ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ในปี 1939 เมื่อสมาคมแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร 
ได้ออกใบรับรองให้แก่ Vegemite ว่าเป็นที่ทาขนมปังที่มีคุณค่าทางอาหาร และอุดมไปด้วยวิตามินบี
เรื่องนี้ก็ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะแพทย์ หรือแม้แต่นักโภชนาการ
แนะนำให้ผู้ปกครองใช้ Vegemite เป็นส่วนหนึ่งของอาหารสำหรับเด็ก 
ไม่ว่าจะนำไปทาขนมปัง หรือแม้แต่เอาไปใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหาร
นอกจากนี้ Vegemite ยังเป็นสิ่งที่ทหารออสเตรเลีย 
พกติดตัวในขณะที่ออกไปรบ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
ทำให้ตั้งแต่นั้นมา Vegemite ก็กลายเป็นสินค้าโด่งดัง จนเกือบทุกบ้านในออสเตรเลียต้องมีติดไว้นั่นเอง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเริ่มสงสัยว่า เจ้ายีสต์หมัก Vegemite นี้มีรสชาติอย่างไร ?
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า Vegemite นี้มีส่วนผสมอย่างหนึ่งคือ “เกลือ”
ซึ่งเจ้าเกลือนี้ ก็มีปริมาณประมาณ 8.6% จากส่วนผสมทั้งหมด
ถึงแม้จะดูน้อย แต่ก็ส่งผลให้รสชาติของ Vegemite ออกไปทางเค็มเป็นหลัก
โดยคนไทยบางคน ก็บอกว่าเป็นความเค็ม ที่คล้ายกับกะปิ
เรียกได้ว่าเป็นรสชาติที่เฉพาะตัวมาก ๆ ซึ่งแม้แต่คนออสเตรเลียเองบางส่วน 
ก็ไม่ได้ชื่นชอบ Vegemite ไปเสียทั้งหมด 
นอกจากนั้น คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตักทานกันเปล่า ๆ 
แต่มักจะทานกับเนยและขนมปัง หรือนำไปผสมกับอาหารประเภทอื่น ๆ แทน
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
ถึงแม้ว่า Vegemite จะถูกผลิตและคิดค้นขึ้นที่ออสเตรเลีย
แต่ครั้งหนึ่ง Vegemite เคยถูกซื้อไปโดย Kraft Foods บริษัทสัญชาติอเมริกัน
และใช้เวลากว่า 80 ปี ก่อนที่ในปี 2017 บริษัท Bega Cheese ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติออสเตรเลีย
จะซื้อแบรนด์ Vegemite กลับมาในมูลค่า 14,000 ล้านบาท..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.