ทำไมตลาด “หนังสือเล่ม” ถึงยังเติบโตได้ ท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยี
Business

ทำไมตลาด “หนังสือเล่ม” ถึงยังเติบโตได้ ท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยี

6 มิ.ย. 2021
ทำไมตลาด “หนังสือเล่ม” ถึงยังเติบโตได้ ท่ามกลางการพัฒนาของเทคโนโลยี /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ ข้อมูลจาก Global English Editing เผยว่า 35% ของคนทั่วโลก
อ่านหนังสือเยอะขึ้นตั้งแต่มีการระบาดของโควิด 19
ซึ่งข้อมูลจาก Statista ก็ได้เปิดเผยว่ายอดขายหนังสือในสหรัฐอเมริกา ในปี 2020
แบบเป็นเล่ม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.5%
แบบ E-book เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.6% จากปี 2019 
แสดงให้เห็นว่าคนหันมาอ่านหนังสือมากขึ้นในทุก ๆ รูปแบบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ E-book เริ่มเป็นสิ่งที่แพร่หลายมากขึ้น 
ก็เริ่มมีการคาดการณ์ว่า นี่น่าจะเป็นสิ่งที่มาทดแทนหนังสือเล่มแบบดั้งเดิม
เพราะทั้งเรื่องราคาที่ถูกกว่า และยังช่วยลดทรัพยากรที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตอีกด้วย
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนในยุคปัจจุบัน ยังคงอ่านหนังสือเล่มอยู่ 
จนทำให้ยอดขายเติบโตได้เรื่อย ๆ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ในยุคปัจจุบันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นยุคแห่งโซเชียลมีเดีย
ตั้งแต่เวลาตื่นนอน ทำงาน จนเวลาเข้านอน เราก็จะต้องอยู่กับ “โซเชียลมีเดีย” เสมอ
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต
เข้ามาเป็นตัวช่วยให้เรามีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน
รวมถึงด้านการอ่านหนังสือเช่นกัน
ในอดีตจากที่เราต้องเดินทางเพื่อไปร้านหนังสือ ค่อย ๆ เดินดูหนังสือทีละเล่ม
ปัจจุบันเราก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ หรือแม้แต่ซื้อเป็น E-book มาอ่านได้เลยง่าย ๆ
โดยที่ไม่ต้องขยับตัวออกจากเก้าอี้หรือที่นอน ก็มีหนังสือมาให้อ่านถึงที่
ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีของ E-book เองก็เป็นหนังสือที่ช่วยประหยัดเนื้อที่ในบ้านเป็นอย่างมาก
หมดปัญหาการซื้อหนังสือจากงานหนังสือมาดองไว้ที่บ้านจนปลวกขึ้น
อย่างที่มาริเอะ คนโด กล่าวไว้ ถึงวิธีการเก็บหนังสือว่า 
ให้ลองถามตัวเอง หนังสือเล่มไหนที่เราอยากนำติดตัวไปด้วยในอนาคต
หนังสือแบบไหนที่เรายังรู้สึกดีทุกครั้งที่เราได้อ่าน และอยากกลับมาอ่าน
ก็ให้เราเก็บเล่มนั้นไว้ ส่วนเล่มอื่น ๆ ที่ไม่ชอบก็ส่งต่อให้คนอื่นต่อไป
แล้วถ้าเกิดเราชอบทุกเล่มที่ซื้อมา และอยากกลับมาอ่านเรื่อย ๆ ไม่ว่าหนังสือเล่มไหน
E-book ก็จะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ทันที 
เพราะเนื้อหาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ข้อมูล ที่บรรจุในอุปกรณ์หรือบนคลาวด์เท่านั้น
จะมีอีกกี่ร้อยเล่ม พื้นที่ในการจัดเก็บก็จะมีเพียงแค่มือถือ แท็บเล็ต หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องเท่านั้น
นอกจากนี้ E-book ยังมีราคาถูกกว่า การซื้อหนังสือเล่มเป็นไหน ๆ
ซึ่งโดยปกติแล้ว ราคา E-book จะถูกกว่าหนังสือเล่ม อยู่ที่ประมาณ 30-50%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า E-book จะมีข้อดีมากมาย แต่หลายคนก็ยังเลือกอ่านหนังสือธรรมดา ๆ อยู่ดี
สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
การอ่านเนื้อหาต่าง ๆ อาจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในหนังสืออีกต่อไป
เพราะเรามีข้อมูลความรู้ ที่ใครก็สามารถเผยแพร่ได้ง่าย ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อยู่เต็มไปหมด
ซึ่งลักษณะของข้อมูลเหล่านี้ก็คือ “ความรวดเร็ว” แบบที่หนังสือให้ไม่ได้
เพราะกว่าที่จะเป็นหนังสือสักเล่ม ไม่ว่าในรูปแบบไหน 
ก็จำเป็นต้องผ่านการตรวจซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยที่สุด
หลาย ๆ ครั้งจึงทำให้บางคน แบ่งเวลาจากการอ่านหนังสือ ไปอ่านความรู้บนอินเทอร์เน็ตแทน
แต่จริง ๆ แล้ว หนังสือก็มีข้อดี เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหนังสือต้องผ่านการตรวจทาน 
จนมั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่า จะไม่มีข้อผิดพลาด
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนเราถึงยังยอมจ่ายเงิน ให้กับการซื้อหนังสืออยู่
และในอีกแง่หนึ่ง การอยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย หรือการที่ต้องใช้สายตาเพ่งไปที่หน้าจอตลอดเวลา
ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจได้เช่นกัน
ดังนั้นถ้าจำเป็นจะต้องอ่านหนังสืออีก ก็อาจจะเลือกอ่านหนังสือเป็นเล่ม
แทนที่จะเป็นรูปแบบ E-book ซึ่งต้องอาศัยการอ่านผ่านหน้าจอเหมือนเดิม
นอกจากนี้การอ่านหนังสือเป็นเล่ม ยังมีประโยชน์ที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิ 
และถือเป็นกิจกรรมที่ควรทำตอนก่อนนอน
เพราะการที่เราอ่านหนังสือจากกระดาษ แทนที่จะเป็นจอโทรศัพท์นั้น
จะช่วยให้ฮอร์โมนเมลาโทนิน สามารถหลั่งออกมาได้อย่างเป็นปกติ
ต่างจากการที่เรานอนเล่นมือถือ แสงสีฟ้าจากเครื่องมือเหล่านั้น
จะกดฮอร์โมนเมลาโทนิน และสั่งการให้สมองเราเข้าสู่โหมดตื่นตัวอีกครั้ง 
ซึ่งอาจส่งผลให้เรานอนไม่หลับ หรืออาจจะหลับไม่ดี ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ
ในอีกด้านหนึ่ง หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ ก็ยังมองว่า 
หนังสือเล่ม ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการอ่านหนังสือมากกว่า
เพราะชอบช่วงเวลาที่มือสัมผัสกับกระดาษ และได้เปิดหนังสือทีละหน้า 
หรือแม้แต่ชื่นชอบกลิ่นของกระดาษจากหนังสือ 
ซึ่งเหล่านี้ ก็เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากการอ่าน E-book
ทั้งนี้ การมีประสบการณ์ร่วมกับกิจกรรมที่เรากำลังทำนั้น
ไม่เพียงแค่เสริมสร้างสุนทรียภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถจดจำเนื้อหาเหล่านั้นได้ดีขึ้น
อ้างอิงจากการทดลองในปี 2018 เมื่อลองแบ่งกลุ่มนักเรียน 
ที่กำลังเยี่ยมชมนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 สำรวจดูผลงานต่าง ๆ โดยห้ามไม่ให้ถ่ายรูป
กลุ่มที่ 2 สามารถถ่ายรูปผลงานเหล่านั้นได้
กลุ่มที่ 3 สามารถดูรูปเฉย ๆ หรือจะถ่ายรูปเหล่านั้นก็ได้
ผลจากการทดลองในครั้งนี้พบว่า กลุ่มคนที่จดจำได้ดีที่สุด
คือนักเรียนกลุ่มแรก ที่สัมผัสประสบการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่
โดยที่ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด 
ซึ่งเรื่องนี้ ก็คงเปรียบได้กับการอ่านหนังสือ ที่เมื่อเราได้รับประสบการณ์จากหนังสือเป็นเล่ม
ก็อาจทำให้เราสามารถจดจำเนื้อหาที่อ่านได้ดี มากกว่าการอ่านบน E-book เช่นกัน
แต่หากจะให้พูดว่าสิ่งไหนดีกว่ากัน อาจจะเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก
เพราะไม่ว่าจะทั้งหนังสือแบบเล่ม หรือหนังสือแบบ E-book ก็ล้วนมีข้อดีเป็นของตัวเอง
ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีความสะดวกแบบไหนมากกว่ากัน 
และไม่ว่าจะอ่านหนังสือแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เนื้อหาที่เราสามารถนำไปพัฒนาและต่อยอดชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้นได้.. 
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.