FoodBusiness
Betty Crocker จากคนไม่มีตัวตน สู่แบรนด์ขนมที่คนจดจำ
20 พ.ค. 2021
Betty Crocker จากคนไม่มีตัวตน สู่แบรนด์ขนมที่คนจดจำ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ในช่วงที่เราต้องอยู่แต่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้
หลายคนจึงหันมาเริ่มทำอาหารทานเองในบ้าน หรือได้งานอดิเรกใหม่เป็นการทำขนม
แต่หลาย ๆ ครั้งการทำขนมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องอาศัยอุปกรณ์และวัตถุดิบหลายอย่าง
หลายคนจึงหันมาเริ่มทำอาหารทานเองในบ้าน หรือได้งานอดิเรกใหม่เป็นการทำขนม
แต่หลาย ๆ ครั้งการทำขนมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องอาศัยอุปกรณ์และวัตถุดิบหลายอย่าง
ตัวช่วยที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ก็คือ การเลือกใช้แป้งทำขนมสำเร็จรูป
และหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยม ที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ คงจะหนีไม่พ้น “Betty Crocker”
และหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยม ที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ คงจะหนีไม่พ้น “Betty Crocker”
ที่น่าสนใจคือ แม้ชื่อแบรนด์จะเหมือนมาจากชื่อคน
แต่จริง ๆ แล้ว Betty Crocker กลับไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง
แต่จริง ๆ แล้ว Betty Crocker กลับไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง
แล้วสรุป Betty Crocker มีที่มาอย่างไรกันแน่ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1921 บริษัทต้นสังกัด Washburn-Crosby ของ Betty Crocker
ซึ่งต่อมาผ่านการควบรวมกับกิจการอื่นจนกลายมาเป็นบริษัทชื่อ General Mills ในปัจจุบัน
ซึ่งต่อมาผ่านการควบรวมกับกิจการอื่นจนกลายมาเป็นบริษัทชื่อ General Mills ในปัจจุบัน
ตอนนั้น Washburn-Crosby ต้องการโปรโมตแป้งสาลีแบรนด์ Gold Medal Flour
จึงได้ลงโฆษณาสินค้า พร้อมกับแคมเปนไขปริศนาเพื่อรับรางวัล
จึงได้ลงโฆษณาสินค้า พร้อมกับแคมเปนไขปริศนาเพื่อรับรางวัล
ซึ่งก็มีคนให้ความสนใจร่วมกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมาก
และทางบริษัทก็ได้รับจดหมายเป็นหมื่น ๆ ฉบับ ที่ส่งเข้ามาเพื่อชิงรางวัล
และทางบริษัทก็ได้รับจดหมายเป็นหมื่น ๆ ฉบับ ที่ส่งเข้ามาเพื่อชิงรางวัล
แต่นอกจากคำตอบของปริศนาของแคมเปนนั้น
ในจดหมายก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับสินค้า และปัญหาการอบขนมอื่น ๆ แนบมาด้วย
ในจดหมายก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับสินค้า และปัญหาการอบขนมอื่น ๆ แนบมาด้วย
และนี่ก็เป็นจุดกำเนิดของ “Betty Crocker” ซึ่งเป็นตัวละครสมมติที่ทางบริษัทสร้างขึ้นมา
เพื่อใช้สำหรับตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ ของผู้บริโภค
เพื่อใช้สำหรับตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ ของผู้บริโภค
แล้วทำไมต้องชื่อว่า Betty Crocker ?
นามสกุล Crocker ใช้ตามคุณ William G. Crocker เพื่อให้เกียรติอดีตผู้บริหารบริษัท Washburn-Crosby ส่วน Betty เป็นชื่อที่ทางบริษัทมองว่า “ดูเป็นมิตร”
ซึ่งถึงแม้ว่าตัว Betty Crocker จะไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง ๆ
แต่เธอก็เป็นผู้มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในขณะนั้น
แต่เธอก็เป็นผู้มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในขณะนั้น
โดยหลังจากที่เริ่มใช้ชื่อ Betty Crocker ในการตอบคำถามต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคส่งเข้ามา
ผู้คนก็เริ่มจดจำชื่อนี้ได้ และเริ่มให้ความสนใจกับชื่อ Betty Crocker
ผู้คนก็เริ่มจดจำชื่อนี้ได้ และเริ่มให้ความสนใจกับชื่อ Betty Crocker
จนบริษัทตัดสินใจเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารในชื่อ “Betty Crocker Kitchens”
เนื่องจากได้รับผลตอบรับที่ดี หลังจากที่ทำแคมเปนโปรโมต Gold Medal Flour
ด้วยการนำแบรนด์สินค้าไปเป็นผู้สนับสนุนให้กับโรงเรียนสอนทำอาหาร
รวมถึงจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อทำการทดสอบสินค้า
ให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณภาพ
ด้วยการนำแบรนด์สินค้าไปเป็นผู้สนับสนุนให้กับโรงเรียนสอนทำอาหาร
รวมถึงจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อทำการทดสอบสินค้า
ให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณภาพ
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้จัดรายการวิทยุ “Betty Crocker Cooking School of the Air”
ซึ่งเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงคนได้มากสุด ในสมัยนั้น
ซึ่งเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงคนได้มากสุด ในสมัยนั้น
ส่งผลให้ Betty Crocker ถูกขนานนามว่าเป็น The First Lady of Food เลยทีเดียว
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากผลสำรวจจะพบว่า แม่บ้านชาวอเมริกัน 9 ใน 10 คน จะรู้จักชื่อ Betty Crocker
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากผลสำรวจจะพบว่า แม่บ้านชาวอเมริกัน 9 ใน 10 คน จะรู้จักชื่อ Betty Crocker
นอกจากนั้น Betty Crocker ยังมีรายการโทรทัศน์
รวมถึงออกหนังสือคู่มือสอนทำอาหารและขนมของตัวเองด้วย
รวมถึงออกหนังสือคู่มือสอนทำอาหารและขนมของตัวเองด้วย
ซึ่งหลังจากเป็นที่นิยมมาก ๆ
ทางบริษัท จึงได้หยิบสูตรอาหารที่อยู่ในหนังสือและรายการโทรทัศน์
มาพัฒนาต่อกลายเป็นผลิตภัณฑ์ทำอาหารแบบสำเร็จรูป
ทางบริษัท จึงได้หยิบสูตรอาหารที่อยู่ในหนังสือและรายการโทรทัศน์
มาพัฒนาต่อกลายเป็นผลิตภัณฑ์ทำอาหารแบบสำเร็จรูป
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ที่อาจจะทำอาหารไม่เก่ง
หรือถ้าอยากจะนำมาดัดแปลงให้เกิดเป็นเมนูใหม่ ๆ ก็ทำได้เช่นกัน
หรือถ้าอยากจะนำมาดัดแปลงให้เกิดเป็นเมนูใหม่ ๆ ก็ทำได้เช่นกัน
โดยสินค้ากล่องแรกที่ถูกวางขายภายใต้ชื่อ Betty Crocker คือ ผงซุปสำเร็จรูป ในปี 1941
และต่อมาในปี 1947 ก็เริ่มมีสินค้าแป้งเค้กสำเร็จรูป ออกวางจำหน่าย
และต่อมาในปี 1947 ก็เริ่มมีสินค้าแป้งเค้กสำเร็จรูป ออกวางจำหน่าย
ซึ่งแบรนด์ Betty Crocker เริ่มเป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้นในปี 1954
เมื่อเริ่มมีการใช้ Betty Crocker Red Spoon
หรือจากโลโกช้อนสีแดง พร้อมชื่อของ Betty Crocker ซึ่งเป็นโลโกที่ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อเริ่มมีการใช้ Betty Crocker Red Spoon
หรือจากโลโกช้อนสีแดง พร้อมชื่อของ Betty Crocker ซึ่งเป็นโลโกที่ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ แม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี
ปัจจุบัน Betty Crocker ก็ไม่ได้หายตัวไปไหน
ปัจจุบัน Betty Crocker ก็ไม่ได้หายตัวไปไหน
เพราะเธอยังคงหมั่นแชร์สูตรอาหาร สูตรขนม และเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของเธอ
เหมือนอย่างที่เธอเคยทำตั้งแต่เมื่อ 100 ปีที่แล้ว
เหมือนอย่างที่เธอเคยทำตั้งแต่เมื่อ 100 ปีที่แล้ว
เรียกว่าการนำเอาชื่อ Betty Crocker มาใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภค เป็นวิธีการที่ฉลาดมาก
เพราะเมื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคบ่อย ๆ จนผู้คนเริ่มคุ้นเคย
และจดจำเธอในด้านบริการที่อบอุ่น รวมถึงความรู้ความสามารถด้านการทำอาหาร
สุดท้ายสิ่งดี ๆ เหล่านี้ก็ย้อนกลับมาที่ ผลิตภัณฑ์ของ Betty Crocker เช่นกัน
และจดจำเธอในด้านบริการที่อบอุ่น รวมถึงความรู้ความสามารถด้านการทำอาหาร
สุดท้ายสิ่งดี ๆ เหล่านี้ก็ย้อนกลับมาที่ ผลิตภัณฑ์ของ Betty Crocker เช่นกัน
ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ในการสร้าง Brand Personality
ที่คนทั่วโลกยังสามารถจดจำได้มาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปเป็นร้อยปี..
ที่คนทั่วโลกยังสามารถจดจำได้มาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปเป็นร้อยปี..