
Foodhistory
ต้นกำเนิด เครป อาหารที่ทุกคนหลงรัก
18 เม.ย. 2021
ต้นกำเนิด เครป อาหารที่ทุกคนหลงรัก /โดย ลงทุนเกิร์ล
หลายคนคงเคยทานเครปแป้งบางกรอบตามรถเข็นแบบไทย ๆ
หรือเครปเย็นเนื้อนุ่ม สอดไส้ด้วยผลไม้ตามแบบฉบับของญี่ปุ่น
แต่ทุกคนรู้หรือไม่คะ ว่าจริง ๆ แล้ว ต้นกำเนิดของเครปฉบับต้นตำรับ มาจากประเทศอะไร?
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็คือ ประเทศฝรั่งเศส นั่นเอง
โดยถ้าใครชื่นชอบเมนูเครป
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนไปหาเกร็ดความรู้เล็ก ๆ จากขนมที่เราหลงรักกันค่ะ
เครป หรือ Crêpe ในภาษาฝรั่งเศส
มักเป็นอาหารที่ถูกเสิร์ฟในงาน La chandeleur (ลา ชองเดอเลอร์)
เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้พระเจ้า โดยจะจัดขึ้นหลังจากวันคริสต์มาส 40 วัน
ซึ่งในเทศกาล La chandeleur จะมีประเพณีการทำเครปและนำออกมาแจกจ่าย
เพราะเป็นความเชื่อเกี่ยวกับการเพาะปลูก ว่าหากไม่มีการทำเครป ข้าวสาลีที่ถูกปลูกไว้ในปีนั้นก็จะล้มตาย
มากไปกว่านั้น กรรมวิธีทำเครป ก็ยังถูกใช้เป็นเครื่องทำนายโชคลาภอีกด้วย
เนื่องจากเครปมีสีทอง และรูปร่างกลมคล้ายกับพระอาทิตย์ที่แผ่รังสี จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย
ดังนั้นหากใครสามารถกลับแผ่นแป้งเครปลงบนกระทะร้อน ๆ ด้วยมือขวา โดยที่มือซ้ายยังกำเหรียญทองอยู่ได้ ก็จะมีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งปี
ปัจจุบันทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จึงกลายเป็น “เทศกาลกินเครป” ของชาวฝรั่งเศส
ที่ยังคงดำรงประเพณีการทำเครปในวัน La chandeleur ไว้
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ เราจะสามารถหาเครปทานได้ตามร้านอาหารทั่วไปในประเทศฝรั่งเศส
แต่หากพูดถึงเมืองแรก ๆ ที่เป็นต้นกำเนิดเครป ก็ต้องมีชื่อเมือง Rennes (แรน)
เมืองหลวงเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแคว้น Brittany (บริตทานี)
ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศฝรั่งเศส
ถ้าใครอยากลิ้มลองเครปรสชาติแบบดั้งเดิม ก็ต้องมาที่เมืองแห่งนี้
เพราะเครปถือเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่
และไม่ว่าจะมองไปมุมไหน เราก็จะเจอร้านเครปตั้งอยู่เกือบทุกที่
อย่างตามตลาดนัด ก็จะต้องมี Food Truck 1-2 คัน ที่ขายเครป
หรือแม้แต่เครปสำเร็จรูปแช่แข็ง เราก็สามารถหาได้ตามร้านซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป
ซึ่งพอพูดถึงเครปแล้ว หลายคนคงนึกถึงแต่เมนูขนมหวาน
ที่ทำมาจากแป้งนุ่ม ๆ แทรกตัวด้วยผลไม้ ราดซอสต่าง ๆ และตบท้ายด้วยไอศกรีมด้านบน
แต่จริง ๆ แล้ว เครปของชาวฝรั่งเศส ไม่ได้เป็นเพียงเมนูขนมหวานอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะยังมีเครปรสชาติคาว ที่เรียกว่า Galette หรือ กาแลตต์
ที่คนฝรั่งเศสส่วนใหญ่มักจะรับประทานเป็นอาหารจานหลักด้วย
โดยตัวแป้งเครป Galette จะมีเนื้อสัมผัสที่กระด้าง
และมีรสชาติคล้าย ๆ กับข้าวเพราะใช้แป้งบักวีตเป็นส่วนผสมหลัก
ซึ่งแป้งชนิดนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเครปคาวเลยก็ว่าได้
ย้อนกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 12 แป้งสาลีฟอกขาวมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมใช้เมล็ดบักวีตมาทำเป็นแป้งเครป
และนำมาทานคู่กับไข่ เนื้อสัตว์ ชีส และผัก
โดยเมนูที่นิยมมาถึงปัจจุบัน ก็คือ Galette ที่โรยด้วยชีส ผสมแฮมสไลซ์ และโปะไข่ไว้ด้านบน
นอกจากนั้นเครปในฝรั่งเศส ก็ไม่ได้มีเฉพาะแบบทานในร้านอาหารอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะยังมีเครปคาวที่สามารถซื้อทานแบบ Grab & Go ได้เลย
เรียกว่า Galette Saucisse หรือเครปที่มีไส้กรอกอยู่ด้านใน
และม้วนเป็นโรล รูปทรงคล้าย ๆ กับขนมโตเกียวแบบบ้านเรา
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เครปของประเทศฝรั่งเศสมีหลากหลาย
และก็ดูน่ากินไม่น้อยเลยใช่หรือไม่คะ
ซึ่งในปัจจุบันเครปก็กลายเป็นอาหารที่พบได้ทั่วทุกมุมโลกแล้ว
ที่สำคัญยังถูกประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของประเทศนั้น ๆ ด้วย
และรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กับรสดั้งเดิมเลยทีเดียว..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Crêpe
-https://en.wikipedia.org/wiki/Rennes
-https://theculturetrip.com/europe/france/articles/a-brief-history-of-the-galette-frances-take-on-pizza/
-https://edwardsrailcar.com/food/pancakes-in-different-countries-5-original-recipes/
-https://www.ophdenver.com/crepes-sweet-and-savory-crepes-are-enjoyed-around-the-world/
-https://job/-in-france.babylangues.com/french-traditions/la-chandeleur/
หรือเครปเย็นเนื้อนุ่ม สอดไส้ด้วยผลไม้ตามแบบฉบับของญี่ปุ่น
แต่ทุกคนรู้หรือไม่คะ ว่าจริง ๆ แล้ว ต้นกำเนิดของเครปฉบับต้นตำรับ มาจากประเทศอะไร?
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็คือ ประเทศฝรั่งเศส นั่นเอง
โดยถ้าใครชื่นชอบเมนูเครป
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนไปหาเกร็ดความรู้เล็ก ๆ จากขนมที่เราหลงรักกันค่ะ
เครป หรือ Crêpe ในภาษาฝรั่งเศส
มักเป็นอาหารที่ถูกเสิร์ฟในงาน La chandeleur (ลา ชองเดอเลอร์)
เทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้พระเจ้า โดยจะจัดขึ้นหลังจากวันคริสต์มาส 40 วัน
ซึ่งในเทศกาล La chandeleur จะมีประเพณีการทำเครปและนำออกมาแจกจ่าย
เพราะเป็นความเชื่อเกี่ยวกับการเพาะปลูก ว่าหากไม่มีการทำเครป ข้าวสาลีที่ถูกปลูกไว้ในปีนั้นก็จะล้มตาย
มากไปกว่านั้น กรรมวิธีทำเครป ก็ยังถูกใช้เป็นเครื่องทำนายโชคลาภอีกด้วย
เนื่องจากเครปมีสีทอง และรูปร่างกลมคล้ายกับพระอาทิตย์ที่แผ่รังสี จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย
ดังนั้นหากใครสามารถกลับแผ่นแป้งเครปลงบนกระทะร้อน ๆ ด้วยมือขวา โดยที่มือซ้ายยังกำเหรียญทองอยู่ได้ ก็จะมีเงินทองเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งปี
ปัจจุบันทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ จึงกลายเป็น “เทศกาลกินเครป” ของชาวฝรั่งเศส
ที่ยังคงดำรงประเพณีการทำเครปในวัน La chandeleur ไว้
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ เราจะสามารถหาเครปทานได้ตามร้านอาหารทั่วไปในประเทศฝรั่งเศส
แต่หากพูดถึงเมืองแรก ๆ ที่เป็นต้นกำเนิดเครป ก็ต้องมีชื่อเมือง Rennes (แรน)
เมืองหลวงเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแคว้น Brittany (บริตทานี)
ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศฝรั่งเศส
ถ้าใครอยากลิ้มลองเครปรสชาติแบบดั้งเดิม ก็ต้องมาที่เมืองแห่งนี้
เพราะเครปถือเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่
และไม่ว่าจะมองไปมุมไหน เราก็จะเจอร้านเครปตั้งอยู่เกือบทุกที่
อย่างตามตลาดนัด ก็จะต้องมี Food Truck 1-2 คัน ที่ขายเครป
หรือแม้แต่เครปสำเร็จรูปแช่แข็ง เราก็สามารถหาได้ตามร้านซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป
ซึ่งพอพูดถึงเครปแล้ว หลายคนคงนึกถึงแต่เมนูขนมหวาน
ที่ทำมาจากแป้งนุ่ม ๆ แทรกตัวด้วยผลไม้ ราดซอสต่าง ๆ และตบท้ายด้วยไอศกรีมด้านบน
แต่จริง ๆ แล้ว เครปของชาวฝรั่งเศส ไม่ได้เป็นเพียงเมนูขนมหวานอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะยังมีเครปรสชาติคาว ที่เรียกว่า Galette หรือ กาแลตต์
ที่คนฝรั่งเศสส่วนใหญ่มักจะรับประทานเป็นอาหารจานหลักด้วย
โดยตัวแป้งเครป Galette จะมีเนื้อสัมผัสที่กระด้าง
และมีรสชาติคล้าย ๆ กับข้าวเพราะใช้แป้งบักวีตเป็นส่วนผสมหลัก
ซึ่งแป้งชนิดนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเครปคาวเลยก็ว่าได้
ย้อนกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 12 แป้งสาลีฟอกขาวมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมใช้เมล็ดบักวีตมาทำเป็นแป้งเครป
และนำมาทานคู่กับไข่ เนื้อสัตว์ ชีส และผัก
โดยเมนูที่นิยมมาถึงปัจจุบัน ก็คือ Galette ที่โรยด้วยชีส ผสมแฮมสไลซ์ และโปะไข่ไว้ด้านบน
นอกจากนั้นเครปในฝรั่งเศส ก็ไม่ได้มีเฉพาะแบบทานในร้านอาหารอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะยังมีเครปคาวที่สามารถซื้อทานแบบ Grab & Go ได้เลย
เรียกว่า Galette Saucisse หรือเครปที่มีไส้กรอกอยู่ด้านใน
และม้วนเป็นโรล รูปทรงคล้าย ๆ กับขนมโตเกียวแบบบ้านเรา
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เครปของประเทศฝรั่งเศสมีหลากหลาย
และก็ดูน่ากินไม่น้อยเลยใช่หรือไม่คะ
ซึ่งในปัจจุบันเครปก็กลายเป็นอาหารที่พบได้ทั่วทุกมุมโลกแล้ว
ที่สำคัญยังถูกประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของประเทศนั้น ๆ ด้วย
และรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กับรสดั้งเดิมเลยทีเดียว..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Crêpe
-https://en.wikipedia.org/wiki/Rennes
-https://theculturetrip.com/europe/france/articles/a-brief-history-of-the-galette-frances-take-on-pizza/
-https://edwardsrailcar.com/food/pancakes-in-different-countries-5-original-recipes/
-https://www.ophdenver.com/crepes-sweet-and-savory-crepes-are-enjoyed-around-the-world/
-https://job/-in-france.babylangues.com/french-traditions/la-chandeleur/