Health & BeautyBusiness
แพร วทานิกา ดีไซเนอร์สาวสุดแซ่บ ที่ผันตัวมาปั้นแบรนด์ความงาม
29 มี.ค. 2021
แพร วทานิกา ดีไซเนอร์สาวสุดแซ่บ ที่ผันตัวมาปั้นแบรนด์ความงาม /โดย ลงทุนเกิร์ล
หลายคนอาจไม่เชื่อว่า กว่าจะขึ้นแท่นเป็นตัวแม่ในวงการแฟชั่นไทย
ดีไซเนอร์สาวสุดมั่นเคยผ่านโมเมนต์ของเด็กวัยรุ่นที่ไร้ความฝัน รู้แค่ว่าตัวเองชอบศิลปะ
เสียน้ำตาให้กับคอมเมนต์ของคุณครูสอนแฟชั่น ที่ทำลายหัวใจของเธอด้วยการบอกว่า
"หนูจ๋า สิ่งที่หนูทำมานี่ ดูแล้วเหมือนกับชุดหางเครื่องของ Jennifer Lopez"
ดีไซเนอร์สาวสุดมั่นเคยผ่านโมเมนต์ของเด็กวัยรุ่นที่ไร้ความฝัน รู้แค่ว่าตัวเองชอบศิลปะ
เสียน้ำตาให้กับคอมเมนต์ของคุณครูสอนแฟชั่น ที่ทำลายหัวใจของเธอด้วยการบอกว่า
"หนูจ๋า สิ่งที่หนูทำมานี่ ดูแล้วเหมือนกับชุดหางเครื่องของ Jennifer Lopez"
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับบางคน อาจท้อแท้ จนเลือกจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต
แต่ไม่ใช่ สำหรับผู้หญิงที่ชื่อ แพร - วทานิกา ปัทมสิงห์
แต่ไม่ใช่ สำหรับผู้หญิงที่ชื่อ แพร - วทานิกา ปัทมสิงห์
เพราะเธอใช้คอมเมนต์ที่ไม่ต่างกับคำดูถูกในวันนั้นเป็นแรงผลักดัน
พาตัวเองโลดแล่นในถนนสายแฟชั่นมาได้ไกลแบบที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง
พาตัวเองโลดแล่นในถนนสายแฟชั่นมาได้ไกลแบบที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง
ทุกวันนี้แบรนด์ Vatanika ไม่ได้มีแค่ลูกค้าชาวไทยที่ชื่นชอบ แต่ยังโกอินเตอร์ไปถึงเมืองนอก
จนแม้แต่คนดังระดับฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Cara Delevingne, Taylor Swift, Ariana Grande หรือ แม้แต่ Jennifer Lopez ก็ยังใส่เสื้อผ้าที่เธอออกแบบ
จนแม้แต่คนดังระดับฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็น Cara Delevingne, Taylor Swift, Ariana Grande หรือ แม้แต่ Jennifer Lopez ก็ยังใส่เสื้อผ้าที่เธอออกแบบ
ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ วันนี้ เธอยังไปได้ไกลกว่าการเป็นดีไซเนอร์
เพราะผู้คนไม่ได้จดจำแค่แบรนด์ Vatanika
แต่ตัวเธอเอง ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ก็เป็นที่จดจำ
และกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลไม่แพ้กัน
เพราะผู้คนไม่ได้จดจำแค่แบรนด์ Vatanika
แต่ตัวเธอเอง ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ก็เป็นที่จดจำ
และกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลไม่แพ้กัน
พิสูจน์ได้จากกระแสความปัง ไม่ว่าเธอจะลุกขึ้นมาทำอะไร ก็กลายเป็นที่สนใจ
ตั้งแต่ตอนทำรายการ This is me, Vatanika จนสร้างปรากฏการณ์ #สาจ๋าซึ่งเป็นชื่อของแม่บ้านคนเก่งที่อยู่เบื้องหลังความเพอร์เฟกต์ทุกกระเบียดนิ้วในคอนโดหรูของคุณแพร
ตั้งแต่ตอนทำรายการ This is me, Vatanika จนสร้างปรากฏการณ์ #สาจ๋าซึ่งเป็นชื่อของแม่บ้านคนเก่งที่อยู่เบื้องหลังความเพอร์เฟกต์ทุกกระเบียดนิ้วในคอนโดหรูของคุณแพร
จนกลายเป็นเรื่องฮอตฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง
จุดพลุให้ชื่อของคุณแพรและแบรนด์ที่โด่งดังอยู่แล้ว ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก
จุดพลุให้ชื่อของคุณแพรและแบรนด์ที่โด่งดังอยู่แล้ว ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก
ล่าสุด เธอยังเตรียมเขย่าวงการบิวตี ด้วยการเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอาง
ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อว่า Vatanika Beauty
โดยมีสินค้าไฮไลต์ คือ ลิปสติกที่เข้ากับผู้หญิงทุกคน ทุกสีผิว
ต่อให้ไม่ต้องเเต่งหน้าเยอะ แต่สีปากโดดเด่นและติดทนสวยตลอดวัน
ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อว่า Vatanika Beauty
โดยมีสินค้าไฮไลต์ คือ ลิปสติกที่เข้ากับผู้หญิงทุกคน ทุกสีผิว
ต่อให้ไม่ต้องเเต่งหน้าเยอะ แต่สีปากโดดเด่นและติดทนสวยตลอดวัน
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าอะไรทำให้เด็กสาวคนหนึ่งเอาชนะคำสบประมาท
และก้าวขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ไทยที่เนื้อหอมสุด ๆ แห่งยุคได้
และก้าวขึ้นมาเป็นดีไซเนอร์ไทยที่เนื้อหอมสุด ๆ แห่งยุคได้
เห็นเป็นสาวมั่นและแซ่บสุด ๆ แบบนี้ คุณแพรเติบโตมาในโรงเรียนหญิงล้วนอย่างมาแตร์ เดอี
พอจบ ม.6 ก็เดินทางไปเรียนต่อที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พอจบ ม.6 ก็เดินทางไปเรียนต่อที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
คุณแพรบอกว่า เธอไปเรียนต่อทั้งที่ยังไม่ได้มีความฝันว่าตัวเองโตขึ้นอยากเป็นอะไร รู้แต่ว่าชอบศิลปะ
พอไปแบบเคว้ง ๆ เลยทำให้ต้องเสียเวลาค้นหาตัวเองไม่น้อย
เพราะคุณแพรเชื่อว่าถ้าจะเรียนอะไรสักอย่างมาเป็นอาชีพ
ต้องเรียนที่ชอบ เพราะถ้าไม่ชอบก็เอามาทำได้ไม่ดี
เพราะคุณแพรเชื่อว่าถ้าจะเรียนอะไรสักอย่างมาเป็นอาชีพ
ต้องเรียนที่ชอบ เพราะถ้าไม่ชอบก็เอามาทำได้ไม่ดี
เธอใช้เวลา 1 ปี เพื่อเรียนพื้นฐานเกี่ยวกับศิลปะเกือบทุกแขนง
ตั้งแต่การปั้น วาดรูป ออกแบบเครื่องประดับ ที่ Central St. Martins
ตั้งแต่การปั้น วาดรูป ออกแบบเครื่องประดับ ที่ Central St. Martins
ก่อนจะตัดสินใจเรียนต่อปริญญาตรีสาขา Womenswear ที่ London College of Fashion
ซึ่งตอนนั้นเป็นสาขาที่ค่อนข้างบูม ใคร ๆ ก็นิยมเรียนด้านแฟชั่น
ซึ่งตอนนั้นเป็นสาขาที่ค่อนข้างบูม ใคร ๆ ก็นิยมเรียนด้านแฟชั่น
บวกกับคุณแม่ ซึ่งทำธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้า Next ก็สนับสนุนว่าน่าจะเรียนสายนี้
คุณแพรเลยตัดสินใจเรียน แต่ปรากฏว่าเรียนไปเรียนมา เริ่มไม่สนุก
คุณแพรเลยตัดสินใจเรียน แต่ปรากฏว่าเรียนไปเรียนมา เริ่มไม่สนุก
เพราะการแข่งขันในชั้นเรียนสูงมาก ทำให้แม้อีกเพียง 6 เดือนก็จะเรียนจบแล้ว
คุณแพรก็ใจแข็ง ไม่เสียดายโอกาสและเวลา
ยอมใช้เวลาอีก 3 ปี เพื่อเรียนต่อด้าน Product Design and Development เน้นการทำและออกแบบกระเป๋า จนจบปริญญาตรีในที่สุด
คุณแพรก็ใจแข็ง ไม่เสียดายโอกาสและเวลา
ยอมใช้เวลาอีก 3 ปี เพื่อเรียนต่อด้าน Product Design and Development เน้นการทำและออกแบบกระเป๋า จนจบปริญญาตรีในที่สุด
หลังเรียนจบกลับมาไทย เธอเริ่มสร้างแบรนด์ Vatanika ในปี 2011
ซึ่งตอนแรก คุณแพรตั้งใจทำแบรนด์กระเป๋า
แต่เพราะคำแนะนำของคุณแม่ที่บอกว่า ไหน ๆ มาสายแฟชั่นแล้ว น่าจะออกมาให้ครบทั้งกระเป๋าและเสื้อผ้าผู้หญิง เธอเลยทำเป็นคอลเลกชันออกมา
ซึ่งตอนแรก คุณแพรตั้งใจทำแบรนด์กระเป๋า
แต่เพราะคำแนะนำของคุณแม่ที่บอกว่า ไหน ๆ มาสายแฟชั่นแล้ว น่าจะออกมาให้ครบทั้งกระเป๋าและเสื้อผ้าผู้หญิง เธอเลยทำเป็นคอลเลกชันออกมา
ผลปรากฏว่า คอลเลกชันแรก เสื้อผ้าขายหมดก่อนกระเป๋า
เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณแพร หันมาโฟกัสออกแบบเสื้อผ้ามากกว่า
เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณแพร หันมาโฟกัสออกแบบเสื้อผ้ามากกว่า
โดยชูจุดเด่น ในเรื่องความใส่ใจกับดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ เน้นการออกแบบที่ช่วยเก็บรูปร่าง แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้โชว์สรีระ ทำให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกพิเศษเมื่อได้สวมใส่
ด้วยจุดเด่นที่สะท้อนดีเอ็นเอของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนนี้เอง
ทำให้แบรนด์ Vatanika กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
โดนใจทั้งเซเลบริตีไทยและดาราแถวหน้าของฮอลลีวูด
ทำให้แบรนด์ Vatanika กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
โดนใจทั้งเซเลบริตีไทยและดาราแถวหน้าของฮอลลีวูด
อย่างไรก็ตาม พอแบรนด์เป็นที่โด่งดัง ก็เป็นธรรมดาที่สปอตไลต์แทบทุกดวงจะสาดแสงมาที่คุณแพร
ซึ่งด้วยบุคลิกที่ดูมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การแสดงออก ไปจนถึง รสนิยมในการแต่งตัวที่ค่อนข้างเซ็กซี่
ทำให้หลายคนติดภาพว่าเธอเป็นสาวเปรี้ยว เฉี่ยว ดูเป็นสาวมั่น หรือหยิ่งนิด ๆ
ทำให้หลายคนติดภาพว่าเธอเป็นสาวเปรี้ยว เฉี่ยว ดูเป็นสาวมั่น หรือหยิ่งนิด ๆ
ซึ่งคุณแพร บอกว่าเธอไม่เคยมีคำจำกัดความให้ตัวเองว่าเป็นคนแบบไหน
เพราะเธอมองว่าทุกคนมีสิทธิจะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง
ต่อให้ใครจะมองว่าเธอเป็นอย่างไร แค่เธอรู้ตัวว่าตัวเองเป็นอย่างไรก็เพียงพอแล้ว
เพราะเธอมองว่าทุกคนมีสิทธิจะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง
ต่อให้ใครจะมองว่าเธอเป็นอย่างไร แค่เธอรู้ตัวว่าตัวเองเป็นอย่างไรก็เพียงพอแล้ว
และแม้วันนี้ หลายคนอาจจะมองว่า เธอโชคดี ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพที่เลือก
แต่สำหรับคุณแพร เธอกลับมีมุมมองต่อการทำงานที่น่าสนใจว่า อย่าคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือดีพอแล้ว
เพราะถ้าคิดอย่างนั้น จะไม่มีวันได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเลย
คุณแพรจะบอกตัวเองเสมอว่า เราต้องทำได้ดีกว่านี้ ทำได้มากกว่านี้ แล้วเราจะสำเร็จมากกว่านี้
และแน่นอนว่า หนึ่งในคนที่คุณแพรเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นมากที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณครูที่เคยคอมเมนต์ผลงานของเธอ
เพราะถ้าคิดอย่างนั้น จะไม่มีวันได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเลย
คุณแพรจะบอกตัวเองเสมอว่า เราต้องทำได้ดีกว่านี้ ทำได้มากกว่านี้ แล้วเราจะสำเร็จมากกว่านี้
และแน่นอนว่า หนึ่งในคนที่คุณแพรเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นมากที่สุด ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณครูที่เคยคอมเมนต์ผลงานของเธอ
ซึ่งเธออยากจะทั้งขอบคุณ และนำรูปที่ Jennifer Lopez ใส่ชุดของเธอไปให้คุณครูได้เห็นสักครั้ง..