Dauphinette แบรนด์แฟชั่น จากของรีไซเคิล ที่ก่อตั้งโดยหญิงสาวอายุ 20 /โดย ลงทุนเกิร์ล

การเดินเข้าไปในร้านขายของเก่า สำหรับบางคน ก็คงจะดูเพียงแค่ของที่ตัวเองชอบและเดินออกไป
แต่ไม่ใช่กับคุณ Olivia Cheng ที่ไม่เพียงแค่ชื่นชอบของเก่า แต่กลับนำเอาของเหล่านั้นมาดัดแปลง 
ให้เหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง จนกลายเป็นแบรนด์ Dauphinette 

ซึ่งคำว่า Dauphinette ยังสื่อถึงการสนับสนุนพลังผู้หญิงอย่างเต็มร้อย
เพราะเป็นการนำคำศัพท์ฝรั่งเศส “Dauphin” 
ที่หมายถึง ลูกชายคนโตของราชา หรือ “องค์รัชทายาท”
มาเติมคำว่า -ette ซึ่งเป็นคำต่อท้ายที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิงเข้าไป

เรื่องราวของคุณ Olivia Cheng และแบรนด์ Dauphinette ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แบรนด์ Dauphinette เริ่มต้นในปี 2018 โดยหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อคุณ Olivia Cheng เธอเป็นสาวชาวบรุกลิน ผู้มีความรักในแฟชั่นตั้งแต่วัยเด็ก

เธอเป็นคนที่ชื่นชอบแฟชั่นเป็นอย่างมาก
แต่เธอก็รู้ตัวดีว่า เธอไม่มีเงินมากพอที่จะเป็นเจ้าของเสื้อผ้าเหล่านั้นได้
เธอจึงทำเสื้อผ้าใส่เอง จากเสื้อผ้าที่เธอได้เห็นบนรันเวย์ต่าง ๆ ในโทรทัศน์

ที่น่าสนใจคือ เธอได้เปลี่ยนความชอบเหล่านี้ให้กลายเป็น “ธุรกิจ”

คุณ Olivia Cheng มีความชื่นชอบในด้านสินค้าสไตล์วินเทจ จึงนำเอาของเหล่านั้นมาขาย
โดยเธอเริ่มต้นจากการออกตระเวนไปยังร้านค้าขายสินค้าวินเทจและสินค้ามือสอง
จากนั้นก็นำของเหล่านั้นมาขายบนแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ 

รวมถึงนำเอาเสื้อผ้าวินเทจไปขายในรูปแบบของ “กล่องสุ่ม”
โดยลูกค้าจะจ่ายเงินให้และบอกไซซ์สินค้าที่ต้องการ
ส่วนคุณ Olivia Cheng จะเป็นคนเลือกเสื้อผ้าใส่กล่องให้

ซึ่งถึงแม้เธอจะทำธุรกิจนี้ได้เพียง 9 เดือน 
แต่มันก็เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญของเธอ

ต่อมาในวันเกิดอายุ 18 ปี ของคุณ Olivia Cheng
เธอก็ได้ใช้เงินที่ได้จากการทำธุรกิจบางส่วนซื้อตั๋วเครื่องบิน และเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส  

โดยในขณะที่เธอท่องเที่ยว และได้มีโอกาสเข้าไปชอปปิงในร้านขายสินค้าวินเทจ 
เธอได้ไปสะดุดตากับเสื้อโคตหนังสัตว์และเสื้อขนสัตว์ 
ซึ่งเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชัน ที่มาจากยุค 50 และ 60 

แต่เมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ร้าน กลับพบว่า คนอื่น ๆ เลือกซื้อเฉพาะสินค้าจากยุค 80 และ 90 เท่านั้น
ตอนนั้นเองที่ทำให้เธอตัดสินใจว่า เธอจะต้องนำเอาสไตล์นี้กลับมาสู่ตลาดให้ได้ 
ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็ยังเป็นการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย

คุณ Olivia Cheng ใช้เวลาศึกษาเรื่องนี้กว่า 1 ปี เพื่อให้บรรลุความตั้งใจของเธอ

เริ่มต้นจากการคิดถึงวัสดุที่จะนำมาใช้ จากนั้นจึงร่างแบบเสื้อผ้ามากมาย
และคิดถึงขั้นตอนการผลิต ว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นจะถูกผลิตอย่างไร 

โดยความตั้งใจของเธอ คือ ต้องคงการผลิตแบบดั้งเดิม 
แต่ทำให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ ของวัสดุที่นำกลับมาใช้อีกครั้ง

ต่อมาเธอจึงเริ่มวางแผนว่า เธอจะทำแบรนด์ของเธอออกมาอย่างไร เรื่องราวจะเป็นแบบไหน
จะสื่อสารออกมาอย่างไร จะทำอย่างไรให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

โดยเธอมอง การทำงานในลักษณะนี้ว่าเป็น การคิดแบบทีละขั้น
คือการที่เธอค่อย ๆ ทำทุกอย่างไปทีละขั้นตอน จนจบครบทุกกระบวนการที่สามารถคิดได้

เมื่อเธอเรียนจบในเดือนสิงหาคม 2018 แบรนด์ Dauphinette ก็ถือกำเนิดขึ้น

โดยการเปิดตัวครั้งแรกของเธอนั้น เธอเริ่มต้นจากการออกแบบเสื้อแจ็กเกตทั้งหมด 36 ตัว
ซึ่งทั้งหมดทำมาจากหนังวินเทจที่ถูกรีไซเคิล ประดับเพิ่มเติมด้วยกระดุมเก๋ ๆ หรืองานปักต่าง ๆ 
และเริ่มต้นวางขายบนเว็บไซต์ของเธอ

หลังจากเปิดตัวเสื้อแล้ว เธอก็ได้ทำกระเป๋าถือออกมาอีกคอลเลกชัน
เพื่อมาช่วยส่งเสริมความสวยงามของเสื้อแจ็กเกตของเธอ 

ที่น่าสนใจคือวัสดุส่วนเกินจากการทำกระเป๋า จะถูกนำกลับมาใช้เป็นวัสดุสำหรับการทำเสื้อผ้าชุด ซึ่งแมตช์กับกระเป๋าใบนั้นอีกที

นี่เป็นตัวอย่างของการคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนของ คุณ Olivia Cheng 
โดยเธอได้ค้นหาข้อมูลมากมาย เพื่อหาสิ่งที่จะเป็นหนทางใหม่ ในการทำแฟชั่นให้ยั่งยืนกว่าเดิม
เธอจึงเลือกใช้วัสดุแบบ By-product หรือวัสดุที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิต

อย่างการนำเศษวัสดุที่เหลือจากการผลิตเครื่องหนังและเสื้อผ้า ซึ่งเป็นการผลิตหลัก
และนำเอาชิ้นส่วนเหล่านั้นที่คนอื่นไม่ได้ใช้ กลับมาใช้เพื่อประกอบเสื้อผ้าของเธอ

นอกจากนั้น เธอยังคิดไปถึงกระบวนการผลิต ที่ไม่สร้างผลกระทบต่อโลก 
โดย Dauphinette ได้ร่วมมือกับโรงงานผลิตหนังแห่งหนึ่ง ในประเทศอิตาลี 
ซึ่งเป็นโรงงานที่ใช้กระบวนการในการฟอกหนังแบบโบราณ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฉะนั้นการทำแบรนด์ Dauphinette จึงไม่ได้ทำเพียง เอาของเก่ามาทำให้สวย
แต่จะต้องเป็นการนำเอาของเก่า มาทำใหม่ ให้ดีขึ้น และสร้างความยั่งยืนด้วย

โดยล่าสุดในปี 2020 หลังจากที่เธอเริ่มมีประสบการณ์ในด้านแฟชั่นมากขึ้น
เธอก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นต่างหู สร้อยคอ และกระเป๋าถือใส ๆ ที่มีลวดลายดอกไม้จาก 
“ดอกไม้จริง”

รวมถึงยังคงคอนเซปต์การทำเสื้อแจ็กเกตอยู่
เหมือนกับการเปิดตัวครั้งแรกของแบรนด์ Dauphinette

ซึ่งคุณ Olivia Cheng ได้กล่าวเอาไว้ว่า  
“ทั้งในตอนแรก และตอนนี้ ฉันก็ยังคงมีเป้าหมายเดิม 
คือการทำเสื้อที่มีความสุขที่สุดในโลก”

สำหรับแบรนด์ Dauphinette เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ ที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจแบบ Fast Fashion 
ซึ่งต้องอาศัยการผลิตเสื้อผ้าในจำนวนมาก ๆ เพื่อลดต้นทุน 
รวมถึงกระตุ้นให้ลูกค้าเปลี่ยนเสื้อผ้าตามเทรนด์ตลอดเวลา
จนหลาย ๆ ครั้งเสื้อผ้าเหล่านั้น ก็จะกลายไปเป็นขยะ ที่คนไม่สนใจ 

ในขณะที่คุณ Olivia Cheng กลับมองเห็นโอกาสจากสิ่งที่คนไม่ให้ค่า และมองว่าล้าหลัง 
โดยนำกลับมาออกแบบใหม่ จนกลายเป็นแบรนด์ที่ไม่เพียงสร้างความสุขให้กับโลก 
แต่สร้างค่านิยมที่ดีให้กับสังคมในปัจจุบันอีกด้วย.. 

References:
-https://www.dauphinette.com/
-https://www.teenvogue.com/story/into-this-dauphinette
-https://www.vogue.com/slideshow/dauphinette-olivia-cheng-fall-2020
-https://suitcasemag.com/articles/designer-spotlight-dauphinette#:~:text=Dauphinette%20founder%20Olivia%20Cheng%20believes,accessories%20can%20lift%20your%20mood.
-https://www.ny1.com/nyc/all-boroughs/news/2019/09/09/new-york-fashion-week-olivia-cheng-dauphinette#:~:text=BROOKLYN%2C%20N.Y.,colorful%2C%20fashion%20brand%20%2D%20Dauphinette.
-https://coveteur.com/2018/12/05/designer-olivia-cheng-sunstainable-vintage-brand-dauphinette/