Business
Happy Sunday เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ที่ไปเข้าตา Walt Disney
21 ธ.ค. 2020
Happy Sunday เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ที่ไปเข้าตา Walt Disney /โดย ลงทุนเกิร์ล
แบรนด์หลายแบรนด์มักเกิดขึ้นมาจากความหลงใหล
ทำให้แบรนด์เหล่านั้นมีแครักเตอร์ และ DNA ที่เด่นชัด
อย่าง Happy Sunday แบรนด์เครื่องสำอาง ที่มีแครักเตอร์ สนุก ดูมีสีสัน สดใส
จนทำให้แบรนด์ระดับโลกอย่างดิสนีย์ อยากมาร่วมมือด้วย
แล้วแบรนด์ Happy Sunday มีจุดเริ่มต้นมาได้อย่างไร? วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
แบรนด์ Happy Sunday เกิดมาจากคุณไอซ หรือ คุณภาวิดา ชิตเดชะ
ซึ่งเธอรักสวยรักงามตั้งแต่ในวัยเด็ก เวลาเห็นคุณแม่แต่งตัว ก็อยากแต่งบ้าง
ประกอบกับการทำงานด้านนี้มาตั้งแต่เรียนจบ อย่างการเป็น Beauty Blogger
ทำให้คุณไอซ พัวพันอยู่กับผลิตภัณฑ์ความงามมาตลอด
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจกลับมีแพ็กเกจจิงที่ไม่น่ารัก
ส่วนอันที่แพ็กเกจจิงน่ารัก กลับมีคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกใจ
เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ เธอจึงตัดสินใจทำเครื่องสำอางเองเสียเลย
ซึ่งก็คือ แบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
ชื่อแบรนด์ Happy Sunday นี้ก็เรียกได้ว่าแสดงถึงตัวตนของคุณไอซได้เป็นอย่างดี
โดยปกติเธอมีบุคลิกเป็นคนสดใส อารมณ์ดี เหมือนเป็นตัวแทนของความ Happy
แต่คุณโต้ สามีของเธอเสนอว่า เป็น Happy Sunday ดีกว่าหรือไม่
เพราะ Happy คำเดียวน่าจะสั้นเกินไป บวกกับ Sunday ก็คือวันอาทิตย์
ซึ่งเป็นวันที่เราได้พักผ่อน และมีความสุขที่สุดในสัปดาห์
ประจวบเหมาะกับ การที่คุณไอซ เกิดในวันอาทิตย์ด้วย
จึงออกมาเป็นชื่อแบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
Happy Sunday เป็นแบรนด์ที่คุณไอซ
อยากจะส่งมอบสิ่งที่ตัวเองรู้สึกชอบ และดีที่สุด ให้กับลูกค้า
เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีความชื่นชอบเหมือนกับคุณไอซ
และเมื่อ Happy Sunday ปล่อยสินค้าตัวแรกออกมา ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
จากเหล่าแฟนคลับ ที่มีความเชื่อมั่นและอยากสนับสนุนคุณไอซ
ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือเป็นแรงผลักดัน และกำลังใจที่ทำให้คุณไอซพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเรื่อยๆ
นอกจากนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Happy Sunday ประสบความสำเร็จ
คือวัตถุประสงค์ที่ตรงกันระหว่างคุณไอซกับลูกค้าทุกคน
ที่ต้องการของคุณภาพดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความน่ารักด้วย
สินค้าที่ออกมา จึงมีสีสันสดใส ดูสนุกสนาน และยังคงคุณภาพที่ดีไว้อยู่เสมอ
ตามคอนเซปต์และแครักเตอร์ของคุณไอซ
ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาเป็น DNA ที่ชัดเจนของแบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
ที่สำคัญ ความชัดเจนนี้ ยังไปเข้าตาพาร์ตเนอร์อย่าง “Disney Pixar”
เรียกได้ว่าเป็นการร่วมงานครั้งยิ่งใหญ่ของ Happy Sunday กับแบรนด์ระดับโลก
และกลายมาเป็นคอลเลกชันล่าสุด Happy Sunday Toy Story Collection
การร่วมงานครั้งนี้ ยังมีส่วนทำให้แบรนด์ Happy Sunday เติบโตขึ้นไปอีกขั้น
เพราะสินค้าที่ผลิตออกมา ต้องได้มาตรฐานตามฉบับดิสนีย์
นอกจากนั้นยังมีอุปสรรคจากสถานการณ์ของโควิด 19
ที่เพิ่มความยากในการทำงานมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อสื่อสาร
แต่คุณไอซเล่าว่า แม้จะเหนื่อยแต่เธอก็ยังคงมีความสุขกับการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
ปัจจุบัน Happy Sunday ไม่ได้ขายแค่เครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว
แต่เริ่มมีการแตกไลน์สินค้า ไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้าอื่น รวมถึงชุดแต่งกาย
และสำหรับในปีหน้านี้ คุณไอซก็แอบกระซิบว่า
แบรนด์ Happy Sunday ได้เตรียมเซอร์ไพรส์รออยู่แล้ว
ก็คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่า จะเป็นการร่วมมือกับใครอีกหรือไม่
หรือจะเป็นสินค้าสุดพิเศษสำหรับสาวกอย่างเราๆ
แต่ลงทุนเกิร์ลเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็น่าจะมีคนที่ตั้งตารอ
และ Happy Sunday ก็คงไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง
อ่านมาถึงตรงนี้ เรื่องของคุณไอซและแบรนด์ Happy Sunday
คงทำให้เราเห็นว่า การได้ทำในสิ่งที่เรารัก
ทำให้เราสามารถทำมันได้อย่างมีความสุขแม้จะมีอุปสรรค
และการร่วมมือกับคนที่เหมาะสม
ก็จะยิ่งเป็นเหมือนตัวเร่ง ที่จะทำให้ของเราไปได้ไกลและเร็วยิ่งขึ้น..
References:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของแบรนด์
-Youtube Channel ICE PADIE
แบรนด์หลายแบรนด์มักเกิดขึ้นมาจากความหลงใหล
ทำให้แบรนด์เหล่านั้นมีแครักเตอร์ และ DNA ที่เด่นชัด
อย่าง Happy Sunday แบรนด์เครื่องสำอาง ที่มีแครักเตอร์ สนุก ดูมีสีสัน สดใส
จนทำให้แบรนด์ระดับโลกอย่างดิสนีย์ อยากมาร่วมมือด้วย
แล้วแบรนด์ Happy Sunday มีจุดเริ่มต้นมาได้อย่างไร? วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
แบรนด์ Happy Sunday เกิดมาจากคุณไอซ หรือ คุณภาวิดา ชิตเดชะ
ซึ่งเธอรักสวยรักงามตั้งแต่ในวัยเด็ก เวลาเห็นคุณแม่แต่งตัว ก็อยากแต่งบ้าง
ประกอบกับการทำงานด้านนี้มาตั้งแต่เรียนจบ อย่างการเป็น Beauty Blogger
ทำให้คุณไอซ พัวพันอยู่กับผลิตภัณฑ์ความงามมาตลอด
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจกลับมีแพ็กเกจจิงที่ไม่น่ารัก
ส่วนอันที่แพ็กเกจจิงน่ารัก กลับมีคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกใจ
เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ เธอจึงตัดสินใจทำเครื่องสำอางเองเสียเลย
ซึ่งก็คือ แบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
ชื่อแบรนด์ Happy Sunday นี้ก็เรียกได้ว่าแสดงถึงตัวตนของคุณไอซได้เป็นอย่างดี
โดยปกติเธอมีบุคลิกเป็นคนสดใส อารมณ์ดี เหมือนเป็นตัวแทนของความ Happy
แต่คุณโต้ สามีของเธอเสนอว่า เป็น Happy Sunday ดีกว่าหรือไม่
เพราะ Happy คำเดียวน่าจะสั้นเกินไป บวกกับ Sunday ก็คือวันอาทิตย์
ซึ่งเป็นวันที่เราได้พักผ่อน และมีความสุขที่สุดในสัปดาห์
ประจวบเหมาะกับ การที่คุณไอซ เกิดในวันอาทิตย์ด้วย
จึงออกมาเป็นชื่อแบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
Happy Sunday เป็นแบรนด์ที่คุณไอซ
อยากจะส่งมอบสิ่งที่ตัวเองรู้สึกชอบ และดีที่สุด ให้กับลูกค้า
เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีความชื่นชอบเหมือนกับคุณไอซ
และเมื่อ Happy Sunday ปล่อยสินค้าตัวแรกออกมา ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
จากเหล่าแฟนคลับ ที่มีความเชื่อมั่นและอยากสนับสนุนคุณไอซ
ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือเป็นแรงผลักดัน และกำลังใจที่ทำให้คุณไอซพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเรื่อยๆ
นอกจากนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Happy Sunday ประสบความสำเร็จ
คือวัตถุประสงค์ที่ตรงกันระหว่างคุณไอซกับลูกค้าทุกคน
ที่ต้องการของคุณภาพดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความน่ารักด้วย
สินค้าที่ออกมา จึงมีสีสันสดใส ดูสนุกสนาน และยังคงคุณภาพที่ดีไว้อยู่เสมอ
ตามคอนเซปต์และแครักเตอร์ของคุณไอซ
ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาเป็น DNA ที่ชัดเจนของแบรนด์ Happy Sunday นั่นเอง
ที่สำคัญ ความชัดเจนนี้ ยังไปเข้าตาพาร์ตเนอร์อย่าง “Disney Pixar”
เรียกได้ว่าเป็นการร่วมงานครั้งยิ่งใหญ่ของ Happy Sunday กับแบรนด์ระดับโลก
และกลายมาเป็นคอลเลกชันล่าสุด Happy Sunday Toy Story Collection
การร่วมงานครั้งนี้ ยังมีส่วนทำให้แบรนด์ Happy Sunday เติบโตขึ้นไปอีกขั้น
เพราะสินค้าที่ผลิตออกมา ต้องได้มาตรฐานตามฉบับดิสนีย์
นอกจากนั้นยังมีอุปสรรคจากสถานการณ์ของโควิด 19
ที่เพิ่มความยากในการทำงานมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อสื่อสาร
แต่คุณไอซเล่าว่า แม้จะเหนื่อยแต่เธอก็ยังคงมีความสุขกับการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
ปัจจุบัน Happy Sunday ไม่ได้ขายแค่เครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว
แต่เริ่มมีการแตกไลน์สินค้า ไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้าอื่น รวมถึงชุดแต่งกาย
และสำหรับในปีหน้านี้ คุณไอซก็แอบกระซิบว่า
แบรนด์ Happy Sunday ได้เตรียมเซอร์ไพรส์รออยู่แล้ว
ก็คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่า จะเป็นการร่วมมือกับใครอีกหรือไม่
หรือจะเป็นสินค้าสุดพิเศษสำหรับสาวกอย่างเราๆ
แต่ลงทุนเกิร์ลเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็น่าจะมีคนที่ตั้งตารอ
และ Happy Sunday ก็คงไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง
อ่านมาถึงตรงนี้ เรื่องของคุณไอซและแบรนด์ Happy Sunday
คงทำให้เราเห็นว่า การได้ทำในสิ่งที่เรารัก
ทำให้เราสามารถทำมันได้อย่างมีความสุขแม้จะมีอุปสรรค
และการร่วมมือกับคนที่เหมาะสม
ก็จะยิ่งเป็นเหมือนตัวเร่ง ที่จะทำให้ของเราไปได้ไกลและเร็วยิ่งขึ้น..
References:
-สัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของแบรนด์
-Youtube Channel ICE PADIE