“ลูกฉันต้องได้สัญชาติอเมริกัน” เบื้องหลังธุรกิจ ลักลอบพาหญิงตั้งครรภ์ คลอดลูกในสหรัฐฯ แลกสัญชาติ /โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อไม่นานมานี้ ศาลสหรัฐฯ ได้ตัดสินโทษคู่รักคู่หนึ่ง ที่ทำธุรกิจ Birth Tourism หรือการท่องเที่ยวเพื่อการคลอดบุตร

หรือก็คือการรับเงินก้อนโต แลกกับการพาผู้หญิงต่างชาติ เช่น จีน รัสเซีย และไนจีเรีย ที่กำลังตั้งครรภ์มาคลอดลูกที่สหรัฐฯ เพื่อให้ลูกของพวกเธอได้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ

ซึ่งธุรกิจนี้ อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายของสหรัฐฯ ในการแสวงหาผลประโยชน์ ทำให้ธุรกิจสีเทานี้ กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์

เบื้องหลังธุรกิจนี้เป็นอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ธุรกิจที่พูดถึงในตอนต้น นั่นก็คือ “USA Happy Baby”
โดยเป็นบริษัทที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ก่อตั้งโดยคุณ Michael Liu และคุณ Phoebe Dong

ซึ่งล่าสุด ในเดือนกันยายน ปี 2024 คุณ Dong และคุณ ​Liu ถูกศาลตัดสินลงโทษข้อหาสมคบคิดและฟอกเงินระหว่างประเทศ จากการดำเนินธุรกิจ USA Happy Baby

เพราะพวกเขาได้ช่วยเหลือหญิงชาวต่างชาติ ในการหลบหลีกเจ้าหน้าที่ ว่าพวกเขาตั้งใจจะมาคลอดลูกในสหรัฐฯ

ตั้งแต่ช่วยเตรียมตัวก่อนเดินทาง, เลือกสนามบินปลายทางที่ผ่อนปรนการตรวจคนเข้าเมือง, แนะนำการแต่งกายเพื่ออำพรางการตั้งครรภ์, วิธีหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ไปจนถึงการจัดหาที่พักฟื้นหลังคลอด แลกค่าบริการราว 1.34 ล้านบาทต่อคน หรือสำหรับลูกค้าระดับ VIP อาจสูงถึง 3.36 ล้านบาท

โดยมีรายงานว่า USA Happy Baby ได้ให้บริการหญิงตั้งครรภ์ชาวจีนไปแล้วกว่า 100 คน คิดคร่าว ๆ ก็คือ พวกเขาได้รับเงินจากธุรกิจนี้ไปแล้วกว่า 134 ล้านบาท

ซึ่งแรงจูงใจสำคัญ ที่ทำให้ผู้คนยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อมาคลอดบุตรที่สหรัฐฯ มาจากรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ที่บัญญัติให้สิทธิในการรับสัญชาติอเมริกัน แก่ผู้ที่เกิดในดินแดนของสหรัฐฯ

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าคุณเกิดในสหรัฐฯ คุณจะเป็นคนอเมริกันทันที แม้ว่าพ่อแม่ของคุณจะไม่ใช่คนอเมริกันก็ตาม ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่า “Jus Soli”

นอกจากนี้ USA Happy Baby ยังมีการโฆษณาเพิ่มเติมอีกว่า การได้สัญชาติอเมริกันให้บุตร เป็นการ “ซื้ออนาคต” ที่สดใส ทั้งในด้านสวัสดิการ โอกาสทางการศึกษา การทำงาน และคุณภาพชีวิต

เพราะเราต่างรู้ดีว่าสหรัฐฯ เป็นดินแดนแห่งโอกาส ที่คนจำนวนไม่น้อยยอมเสี่ยง แม้กระทั่งการหลบหนีวีซ่า เพื่อให้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตในสหรัฐฯ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อลูกของพวกเขามีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ พ่อและแม่ยังสามารถยื่นขอสถานะผู้พำนักถาวร (Permanent Resident) ในสหรัฐฯ ได้อีกด้วย

ต้องบอกว่า เคสของบริษัท USA Happy Baby ไม่ใช่เคสแรกที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ ก็เคยเกิดเคสประมาณนี้มาแล้วหลายครั้ง

โดยมีรายงานว่า มีเด็กมากถึง 40,000 คนต่อปี ที่เกิดจากคุณแม่ที่เดินทางเข้าประเทศด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้ก็อาจจะเชื่อมโยงกับธุรกิจ Birth Tourism ก็ได้

แม้ว่าจะไม่มีกฎหมาย ห้ามผู้หญิงเดินทางไปสหรัฐฯ แต่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จะพิจารณาวันกำหนดคลอด และระยะเวลาที่คนท้องวางแผนจะอยู่ในสหรัฐฯ เพื่อตัดสินว่าจะอนุญาตให้เข้าประเทศหรือไม่

ซึ่งเจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่ง ที่รับผิดชอบการสอบสวนความมั่นคงในลอสแอนเจลิสกล่าวว่า การเดินทางมาสหรัฐฯ เพื่อคลอดลูกนั้นไม่ได้ผิดกฎหมายเสมอไป แต่การให้ข้อมูลเท็จ หรือปกปิดเหตุผลที่แท้จริงของการเดินทาง อาจถือเป็นการ “ฉ้อโกงวีซ่า”

และล่าสุด Donald Trump ก็กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยพยายามกำหนดให้เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ ได้รับสถานะพลเมืองโดยอัตโนมัติ ต่อเมื่อเด็กคนนั้นต้องมีพ่อหรือแม่อย่างน้อย 1 คน เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯ หรือเป็นพลเมืองอเมริกัน

เพราะประธานาธิบดี Trump เชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยขัดขวางความพยายามของผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยอาศัยประโยชน์จากสิทธินี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน อีกทั้งมีการคัดค้านจากหลายฝ่าย

แน่นอนว่า หากนโยบายนี้ผ่านการบังคับใช้จริง ก็น่าจะทำให้ธุรกิจ Birth Tourism ลดน้อยลงในอนาคต

แต่ในปัจจุบัน ที่เรื่องนี้ยังคงครึ่ง ๆ กลาง ๆ และดูเหมือนว่าบทลงโทษสำหรับธุรกิจนี้ยังไม่หนักหนาพอ เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับ

จึงไม่แปลกใจที่ธุรกิจ Birth Tourism จะยังคงดำเนินต่อไป และคงหาวิธีการเลี่ยงข้อจำกัดกันใหม่เรื่อย ๆ

หรือหันไปหาประเทศอื่นที่ใช้หลักการ Jus Soli ในการให้สัญชาติ อย่าง แคนาดา, บราซิล หรืออาร์เจนตินา เป็นทางเลือกแทน..

References:
-https://edition.cnn.com/2025/01/27/us/woman-sentenced-chinese-birth-tourism-intl-hnk/
-https://www.cbsnews.com/news/jing-dong-sentenced-chinese-birth-tourism-scheme/
-https://www.nbcnews.com/news/us-news/feds-raid-l-maternity-hotel-birth-tourists-n315996
-https://www.independent.co.uk/news/world/americas/crime/china-baby-america-birth-passport-
-https://www.help.cbp.gov/s/article/Article1838