Business
สรุปประเด็น Forbes ปลด Kylie Jenner จากทำเนียบเศรษฐี เพราะโกหกยอดขาย
1 มิ.ย. 2020
Kylie Jenner ตำนาน มหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก
กำลังจะกลายเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ..
กำลังจะกลายเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ..
เมื่อนิตยสารระดับโลกอย่าง Forbes
ได้ออกมาประกาศว่าจะปลด Kylie Jenner ออกจากอันดับเศรษฐีพันล้าน
ได้ออกมาประกาศว่าจะปลด Kylie Jenner ออกจากอันดับเศรษฐีพันล้าน
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Kylie Jenner?
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Kylie Jenner
เธอคือ หนึ่งในสมาชิก ตระกูล เซเลบริตีไฮไซ “Kardashian และ Jenner”
เธอคือ หนึ่งในสมาชิก ตระกูล เซเลบริตีไฮไซ “Kardashian และ Jenner”
Kylie เป็นน้องสาวแท้ๆ ของ Kendall Jenner
และยังเป็นน้องสาวต่างพ่อ ของ Kim Kardashian
และยังเป็นน้องสาวต่างพ่อ ของ Kim Kardashian
ตระกูล Kardashian และ Jenner มักจะเป็นที่จับจ้องในสังคมอยู่เสมอ
ด้วยไลฟ์สไตล์ และบุคลิกสุดชิค ทำให้มีคนติดตามพวกเขาจำนวนมาก
ด้วยไลฟ์สไตล์ และบุคลิกสุดชิค ทำให้มีคนติดตามพวกเขาจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ Kylie กลับกลายเป็นคนที่โดดเด่นออกมาจากบรรดาพี่น้อง
โดยเธอ ในวัยเพียง 19 ปี ได้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า “Kylie Cosmetics” ขึ้น
โดยเธอ ในวัยเพียง 19 ปี ได้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า “Kylie Cosmetics” ขึ้น
สินค้าที่ออกมาอย่างแรก ก็คือ ลิปสติก
ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายในไม่กี่นาที
ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายในไม่กี่นาที
หลังจากที่ Kylie ประสบความสำเร็จ จากการทำแบรนด์เครื่องสำอาง
ผู้คนต่างพากันชื่นชม ที่เธอสามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะอายุยังน้อย
ผู้คนต่างพากันชื่นชม ที่เธอสามารถสร้างความร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะอายุยังน้อย
และจุดนี้เองที่นิตยสารชื่อดังของโลกอย่าง Forbes ได้เริ่มก้าวเข้ามาวัดมูลค่าทรัพย์สินของเธอ
Forbes ได้จัดให้ Kylie ในวัยเพียง 22 ปี เป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้าน ที่อายุน้อยที่สุดในโลก
ซึ่งคนที่ติดอันดับนี้ จะต้องมีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3 หมื่นล้านบาท
ซึ่งคนที่ติดอันดับนี้ จะต้องมีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3 หมื่นล้านบาท
ต่อมา Kylie ก็ได้ขายหุ้น กว่า 51% ของ Kylie Cosmetics
ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากถึง 19,000 ล้านบาท
ให้กับบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของโลกอย่าง Coty
ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากถึง 19,000 ล้านบาท
ให้กับบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของโลกอย่าง Coty
และหลังจากที่ Coty ได้ประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการ Kylie Cosmetics
หุ้นของบริษัทก็พุ่งสูงขึ้นถึง 6%
หุ้นของบริษัทก็พุ่งสูงขึ้นถึง 6%
จากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนว่ากิจการของเธอจะไปได้ดี
ที่สำคัญคือ ยังได้บริษัทชั้นนำมาช่วยบริหารอีกแรง
ที่สำคัญคือ ยังได้บริษัทชั้นนำมาช่วยบริหารอีกแรง
แต่ล่าสุด นิตยสาร Forbes ได้ออกมาเปิดเผยว่า Kylie กำลังโกหกเราทุกคน
โดยยอดขายของแบรนด์ Kylie Cosmetics ในปี 2017
ที่ Kylie เคยบอกว่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท
กลับเหลือเพียง 3.7 พันล้านบาท ตามการรายงานของ Coty ในปี 2019
ที่ Kylie เคยบอกว่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท
กลับเหลือเพียง 3.7 พันล้านบาท ตามการรายงานของ Coty ในปี 2019
หมายความว่า ยอดขายของแบรนด์นั้นหายไปเกือบ 3 เท่า ซึ่งดูไม่ใช่เรื่องที่ปกติ
นอกจากนี้ในไลน์สินค้า Kylie’s skin care ที่เธอเคยบอกว่า
ในเดือนแรกที่มีการเปิดตัวสินค้า สามารถทำยอดขายได้สูงกว่า 3 พันล้านบาท
ปัจจุบันกลับทำยอดขายอยู่ที่เพียง 8 ร้อยล้านบาทเท่านั้น
ในเดือนแรกที่มีการเปิดตัวสินค้า สามารถทำยอดขายได้สูงกว่า 3 พันล้านบาท
ปัจจุบันกลับทำยอดขายอยู่ที่เพียง 8 ร้อยล้านบาทเท่านั้น
ประเด็นทั้งหมดนี้ทำให้ Forbes ได้ตั้งข้อสงสัยว่า
ที่ผ่านมา Kylie อาจกำลังสร้างยอดขายให้สูงเกินจริง
ที่ผ่านมา Kylie อาจกำลังสร้างยอดขายให้สูงเกินจริง
Forbes จึงถอด Kylie ออกจากตำแหน่ง มหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก
และประเมินมูลค่าทรัพย์สินของเธอ ให้เหลือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งหายไปประมาณ 3 พันล้านบาทจากมูลค่าทรัพย์สินเดิม
และประเมินมูลค่าทรัพย์สินของเธอ ให้เหลือประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งหายไปประมาณ 3 พันล้านบาทจากมูลค่าทรัพย์สินเดิม
ส่วนทางด้าน Kylie ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ผ่านทางทวิตเตอร์แล้ว
โดยมีใจความว่า เธอไม่เคยโกหกตัวเลขใดๆ และไม่คิดว่าเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงจะเปิดเผยตัวเลขที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงตั้งสมมติฐานที่ยังไม่ได้พิสูจน์
นอกจากนั้น Kylie ยังทิ้งท้ายว่า “มีอีกร้อยอย่างที่สำคัญกว่า การรู้ว่าตัวเธอมีเงินเท่าไร”
สุดท้ายแล้ว ตอนนี้เราคงจะไม่สามารถสรุปได้ว่า Kylie โกหกหรือไม่?
ต้องรอดูหลักฐานที่แน่นอนจากทั้งสองฝ่ายเสียก่อน
ต้องรอดูหลักฐานที่แน่นอนจากทั้งสองฝ่ายเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Kylie จะมีชื่อเสียง หรือทรัพย์สินมากแค่ไหน
การมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ ก็คงทำให้เธอกังวลใจได้ไม่น้อย..
การมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ ก็คงทำให้เธอกังวลใจได้ไม่น้อย..
References: CNBC, Forbes, Twitter