PR News
“โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า” พร้อมผงาดสู่นักปั้นอาณาจักรลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลก
23 ธ.ค. 2024
“โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า” พร้อมผงาดสู่นักปั้นอาณาจักรลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลก เปิด Head Office ใหม่สุดอลังการ จิ๊กซอว์ตัวสำคัญเติมเต็มประสบการณ์ครบวงจรให้นักลงทุน เผยตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตสดใส ชูหลายทำเลใหม่มาแรง กางโรดแมปโปรเจกต์ปีหน้าเพียบ!
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า (Botanica Luxury Villas) ผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดับลักชัวรีแห่งเกาะภูเก็ตด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญยาวนานกว่า 20 ปี เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการเผยจิ๊กซอว์ตัวสำคัญอย่าง Head Office สุดยิ่งใหญ่อลังการของโบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า พร้อมฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษแห่งการเติบโต ปักหมุดเป็นฮับเพื่อรองรับฐานลูกค้าและนักลงทุนทั้งไทย-ต่างชาติที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยภาพรวมความสำเร็จตลอดปี 2567 และกางโรดแมปปีหน้ากับการเตรียมเผยโฉมหลายโปรเจกต์เพื่อเติมเต็มความครบครันของอาณาจักรไลฟ์สไตล์หรูหราเหนือระดับ โดยพัฒนาจากอินไซต์จริงของกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) ครอบคลุมทั้งโครงการที่อยู่อาศัยงดงามระดับลักชัวรีในทำเลไพรม์ สเปซมิกซ์ยูส พื้นที่รีเทล และอาร์ตมิวเซียมแห่งแรกของภูเก็ต ขานรับตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตโตต่อเนื่อง พร้อมเผยทำเลสุดแรร์-ทำเลใหม่มาแรงที่ราคากำลังทยอยพุ่งบนเกาะ โดยบริษัทฯ เร่งขานรับนโยบายภาครัฐในการผลักดันศักยภาพจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเดสติเนชันระดับเวิลด์คลาสเบอร์ต้นของโลก
นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โบทานิก้า ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาลักชัวรีพูลวิลล่าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง ทั้งในแง่คุณภาพโครงการระดับสากล ดีไซน์อันงดงามพร้อมฟังก์ชันครบ และทำเลที่คิดมาอย่างพิถีพิถัน โดยปัจจุบันเราได้พัฒนาโครงการรวมแล้วถึง 27 โครงการในภูเก็ต กระบี่ และหัวหิน โดยจังหวัดภูเก็ตเรามียูนิตที่อยู่อาศัยยอดสะสมตั้งแต่ปี 2547 ถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2567 รวม 4,081 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการของโบทานิก้าเองถึง 1,095 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 51,000 ล้านบาท (อิงข้อมูลจาก Colliers Thailand เดือนกันยายน 2567) สำหรับปี 2567 โบทานิก้า ได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่โดดเด่น ได้แก่ Botanica Wisdom, Botanica Hythe ซึ่งเป็นโปรเจกต์คอนโดมิเนียมหรูแห่งแรกของแบรนด์, Botanica Pru Jampa (พรุจำปา), Botanica Modern Sea Karon และล่าสุด Botanica Four Seasons ในโซนใหม่ Winter ทุกโครงการได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า นอกจากนี้ จากความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ เราได้ปิดการขายได้แล้วถึง 10 โครงการ และเมื่อเดือนมกราคม 2567 โบทานิก้า ยังได้ทุบสถิติยอดขายสูงสุดในเกาะภูเก็ต ด้วยยอด 1,200 ล้านบาทสำหรับเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักชัวรีในภูเก็ตของเรา ด้วยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญ ทำเลยุทธศาสตร์ที่มีความเป็นส่วนตัวและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์สุดยูนีคโอบรับธรรมชาติรอบด้าน และคุณภาพอันยอดเยี่ยมของโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นดั่งลายเซ็นของโบทานิก้ามายาวนานถึง 20 ปี"
สำนักงานใหญ่ครบวงจรของโบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า สะท้อนความพร้อมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของผู้นำตลาด
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนพื้นที่รวมกว่า 1,885 ตารางเมตร ภายใต้การออกแบบอย่างงดงามลงตัวในคอนเซปต์ Eco Office กับสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกใช้โทนสีอบอุ่นในเฉดน้ำตาล เน้นความโปร่งโล่งสบายตา พร้อมการจัดสรรสเปซให้เชื่อมต่อพื้นที่ภายในและธรรมชาติภายนอกอย่างลงตัว และพื้นที่ทำงานแบบแชร์พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน (Co-Working Space) พร้อมสะท้อนปรัชญาการออกแบบของทุกโครงการหรูของโบทานิก้า โดยบริษัทฯ ตั้งใจให้สำนักงานแห่งนี้เป็นฮับแบบ One-Stop Service รองรับบริการครบวงจรสำหรับลูกค้าและนักลงทุนจากทั่วโลก โดย Head Office ตั้งอยู่ที่ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง บนทำเลกลยุทธ์ที่สามารถเดินทางไป-กลับระหว่างหลากหลายโครงการของโบทานิก้าได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมเปิดพื้นที่รวมโมเดลของทุกโครงการไว้ในที่เดียว ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานมืออาชีพ เพื่อยกระดับบริการก่อนและหลังการขายขึ้นไปอีกขั้น
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ บนพื้นที่รวมกว่า 1,885 ตารางเมตร ภายใต้การออกแบบอย่างงดงามลงตัวในคอนเซปต์ Eco Office กับสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกใช้โทนสีอบอุ่นในเฉดน้ำตาล เน้นความโปร่งโล่งสบายตา พร้อมการจัดสรรสเปซให้เชื่อมต่อพื้นที่ภายในและธรรมชาติภายนอกอย่างลงตัว และพื้นที่ทำงานแบบแชร์พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน (Co-Working Space) พร้อมสะท้อนปรัชญาการออกแบบของทุกโครงการหรูของโบทานิก้า โดยบริษัทฯ ตั้งใจให้สำนักงานแห่งนี้เป็นฮับแบบ One-Stop Service รองรับบริการครบวงจรสำหรับลูกค้าและนักลงทุนจากทั่วโลก โดย Head Office ตั้งอยู่ที่ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง บนทำเลกลยุทธ์ที่สามารถเดินทางไป-กลับระหว่างหลากหลายโครงการของโบทานิก้าได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมเปิดพื้นที่รวมโมเดลของทุกโครงการไว้ในที่เดียว ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานมืออาชีพ เพื่อยกระดับบริการก่อนและหลังการขายขึ้นไปอีกขั้น
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานใหญ่แห่งนี้ ยังได้รับรางวัล “Office Architecture for Thailand” รางวัลสุดพิเศษจากเวที Asia Pacific Property Awards 2024 สุดยอดงานประกาศรางวัลอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเชิดชูการออกแบบออฟฟิศยอดเยี่ยม สะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งเสริมความสุขของพนักงานและสร้างความประทับใจให้แขกผู้มาเยือนทุกคน
ดีมานด์ตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตยังไม่แผ่ว ทำเล “เชิงทะเล” และ “พรุจำปา” ฮอตสุด
Colliers Thailand เผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตปี 2567 พบว่ามูลค่าตลาดเฉพาะกลุ่มวิลล่าที่อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่าสูงถึง 160,000-170,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน โดยมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 30-40 โครงการต่อปี มีโครงการวิลล่ามากกว่า 170 โครงการในปัจจุบัน โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการเปิดตัววิลล่าใหม่กว่า 1,285 ยูนิตจาก 65 โครงการ มูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่จำนวนการเปิดตัวของวิลล่าสูงกว่าจำนวนคอนโดมิเนียม พร้อมยังชี้ว่าตลาดวิลล่าในภูเก็ต กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีความต้องการจากผู้ซื้อชาวรัสเซียและยุโรป ซึ่งมักซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองหรือเป็นการลงทุน สำหรับพื้นที่ที่ขายวิลล่าได้มากที่สุด 4 อันดับแรกในปี 2566 ได้แก่ เชิงทะเล 210 ยูนิต, พรุจำปา 180 ยูนิต, บางโจ 31 ยูนิต และลายัน 28 ยูนิต แสดงถึงความนิยมในพื้นที่เหล่านี้ ปัจจุบัน วิลล่าในทำเลกมลาและบางเทา มีราคาสูงที่สุดบนเกาะ โดยราคายูนิตสูงสุดอยู่ที่ 296.2 ล้านบาทและ 270 ล้านบาทตามลำดับ ทำเลในช่วงราคารองลงมาได้แก่ เชิงทะเลและพรุจำปา ที่กำลังเป็นทำเลมาแรง โดยมีราคากลางอยู่ที่ 114.7 ล้านบาทและ 56.3 ล้านบาทตามลำดับ โดยแนวโน้มในอนาคตพบว่าราคาวิลล่าในพื้นที่กมลา เชิงทะเล บางโจ พรุจำปา และลายัน จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยดีมานด์ที่แข็งแกร่งจากตลาด
Colliers Thailand เผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตปี 2567 พบว่ามูลค่าตลาดเฉพาะกลุ่มวิลล่าที่อยู่ระหว่างการขายมีมูลค่าสูงถึง 160,000-170,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน โดยมีจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นจาก 30-40 โครงการต่อปี มีโครงการวิลล่ามากกว่า 170 โครงการในปัจจุบัน โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการเปิดตัววิลล่าใหม่กว่า 1,285 ยูนิตจาก 65 โครงการ มูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่จำนวนการเปิดตัวของวิลล่าสูงกว่าจำนวนคอนโดมิเนียม พร้อมยังชี้ว่าตลาดวิลล่าในภูเก็ต กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีความต้องการจากผู้ซื้อชาวรัสเซียและยุโรป ซึ่งมักซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองหรือเป็นการลงทุน สำหรับพื้นที่ที่ขายวิลล่าได้มากที่สุด 4 อันดับแรกในปี 2566 ได้แก่ เชิงทะเล 210 ยูนิต, พรุจำปา 180 ยูนิต, บางโจ 31 ยูนิต และลายัน 28 ยูนิต แสดงถึงความนิยมในพื้นที่เหล่านี้ ปัจจุบัน วิลล่าในทำเลกมลาและบางเทา มีราคาสูงที่สุดบนเกาะ โดยราคายูนิตสูงสุดอยู่ที่ 296.2 ล้านบาทและ 270 ล้านบาทตามลำดับ ทำเลในช่วงราคารองลงมาได้แก่ เชิงทะเลและพรุจำปา ที่กำลังเป็นทำเลมาแรง โดยมีราคากลางอยู่ที่ 114.7 ล้านบาทและ 56.3 ล้านบาทตามลำดับ โดยแนวโน้มในอนาคตพบว่าราคาวิลล่าในพื้นที่กมลา เชิงทะเล บางโจ พรุจำปา และลายัน จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยดีมานด์ที่แข็งแกร่งจากตลาด
เปิดแผนขยายพอร์ตจากภูเก็ตสู่หัวเมืองใหญ่ศักยภาพสูง
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ได้ต่อยอดองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาวิลล่าหรูในพื้นที่ภูเก็ต สู่การขยายธุรกิจไปยังเดสติเนชันชั้นนำอื่น ๆ โดยปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนา 2 โครงการสำคัญนอกภูเก็ต ได้แก่ Botanica Luxury Krabi ในจังหวัดกระบี่ และ Botanica Luxury Hua Hin ที่ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ นายอรรถสิทธิ์ กล่าวถึงกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่เมืองอื่น ๆ ว่า "การขยายธุรกิจไปยังกระบี่และหัวหินถือเป็นก้าวสำคัญของโบทานิก้าในการต่อยอดความสำเร็จจากภูเก็ต ที่กระบี่ เราเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่อ่าวนางที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและดีมานด์จากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากยุโรป ออสเตรเลีย และจีน ที่มองหาบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ในทำเลสงบใกล้ธรรมชาติและใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ ประกอบกับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าสนใจถึง 6-8% ต่อปี และราคาที่ดินที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ส่วนที่หัวหิน เรามองว่าเป็นเมืองตากอากาศระดับพรีเมียมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศใกล้ชิดทะเล โดยราคาที่ดินในหัวหินมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 5-10% ต่อปี ทั้งสองโครงการนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจของโบทานิก้า แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในแต่ละพื้นที่ พร้อมสร้างโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจให้ลูกค้าของเรา ในอนาคต เรามีแผนขยายไปยังหัวเมืองสำคัญอื่น ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาทำเลและเสาะหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นที่แข็งแกร่งที่พร้อมโตไปกับเรา"
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ได้ต่อยอดองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาวิลล่าหรูในพื้นที่ภูเก็ต สู่การขยายธุรกิจไปยังเดสติเนชันชั้นนำอื่น ๆ โดยปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนา 2 โครงการสำคัญนอกภูเก็ต ได้แก่ Botanica Luxury Krabi ในจังหวัดกระบี่ และ Botanica Luxury Hua Hin ที่ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ นายอรรถสิทธิ์ กล่าวถึงกลยุทธ์การขยายธุรกิจสู่เมืองอื่น ๆ ว่า "การขยายธุรกิจไปยังกระบี่และหัวหินถือเป็นก้าวสำคัญของโบทานิก้าในการต่อยอดความสำเร็จจากภูเก็ต ที่กระบี่ เราเล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่อ่าวนางที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและดีมานด์จากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากยุโรป ออสเตรเลีย และจีน ที่มองหาบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ในทำเลสงบใกล้ธรรมชาติและใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ ประกอบกับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่น่าสนใจถึง 6-8% ต่อปี และราคาที่ดินที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ส่วนที่หัวหิน เรามองว่าเป็นเมืองตากอากาศระดับพรีเมียมที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศใกล้ชิดทะเล โดยราคาที่ดินในหัวหินมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 5-10% ต่อปี ทั้งสองโครงการนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจของโบทานิก้า แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในแต่ละพื้นที่ พร้อมสร้างโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจให้ลูกค้าของเรา ในอนาคต เรามีแผนขยายไปยังหัวเมืองสำคัญอื่น ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาทำเลและเสาะหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นที่แข็งแกร่งที่พร้อมโตไปกับเรา"
ลุยต่อปี 68 ผุดโปรเจกต์มิกซ์ยูส-ปั้นอาณาจักรไลฟ์สไตล์ลักชัวรีครบวงจร-เตรียมเปิดอาร์ตมิวเซียมแห่งแรกของเมืองภูเก็ต
หลังจากนี้ โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า จะลุยต่อด้วยกลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลกด้วยการขยายพอร์ตสู่โครงการมิกซ์ยูส รีเทล เพื่อปั้นอาณาจักรไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและเติมเต็มความเป็น “ชุมชนโบทานิก้า (Botanica Community)”
หลังจากนี้ โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า จะลุยต่อด้วยกลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านลักชัวรีไลฟ์สไตล์ระดับโลกด้วยการขยายพอร์ตสู่โครงการมิกซ์ยูส รีเทล เพื่อปั้นอาณาจักรไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและเติมเต็มความเป็น “ชุมชนโบทานิก้า (Botanica Community)”
โดยในปี 2568 เตรียมเปิดตัวโครงการวิลล่าหรูใหม่บน 4 ทำเลศักยภาพ เช่น ฉลอง ราไวย์ ภูเก็ตทาวน์ และอ่าวปอ และ 2 โครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในย่านบางเทา-เชิงทะเล โดยโครงการแรกคือ “HYTHE by Botanica (ไฮท์ บาย โบทานิก้า)”ตั้งอยู่ในพื้นที่ “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” เมกะโปรเจกต์ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นใจกลางลากูน่าภูเก็ต ย่านเชิงทะเลใกล้หาดบางเทา ทำเลศักยภาพสูงของแหล่งที่พักอาศัยระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท จับกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน พร้อมด้วยการออกแบบที่มีเอกลักษณ์สะท้อนจุดแข็งของโบทานิก้า สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของหลากหลายไลฟ์สไตล์ และยังคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงอีกด้วย คาดว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหลังล่าสุดกวาดยอดไปแล้วกว่า 40% ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยในปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายสำหรับโครงการ HYTHE by Botanica ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังจะมีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์อีกหนึ่งโครงการ ตั้งอยู่ใจกลางย่านเชิงทะเล หรือโซนทองหล่อของภูเก็ต ทำเลศักยภาพสูงที่แวดล้อมไปด้วยโรงแรม คาเฟ่ ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ และบีชคลับ บนพื้นที่ดินรวมกันกว่า 60 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 18,000 ล้านบาท จับกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ที่มีระยะเดินถึงหาดบางเทาเพียง 500 เมตร พร้อมด้วยการออกแบบพื้นที่โครงการให้มีพื้นที่สีเขียวและ Walking Street ในสไตล์ลักชัวรีสตรีทอาร์ต ที่เชื่อมต่อตัวโครงการและย่านเชิงทะเลอย่างมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายลักชัวรีไลฟ์สไตล์และสะท้อนจุดเด่นของย่านเชิงทะเลที่มีความทันสมัย โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปี 2568 นี้ และตั้งเป้ายอดขายกว่า 500 ล้านบาท รวมเป้ายอดขายเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2568 มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนทยอยเปิดตัวอีกหลายโครงการภายใน 3 ปีนี้
เป้าหมายของโบทานิก้าในอีก 5 ปีข้างหน้า คือการก้าวขึ้นเป็น Top of Mind ในกลุ่ม Luxury Segment ด้วยการพัฒนาโครงการที่ยึดมั่นใน 4 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ Ultra-Luxury Residences การพัฒนาโครงการในเซกเมนต์บ้านพักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี (Ultra-Luxury Residences) เพื่อจับกลุ่ม HNWI (High Net Worth Individual) และนักลงทุนไทยและต่างชาติ มุ่งเน้นไปที่ทำเลหรูที่มอบความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด พร้อมวิวทะเลและชายหาดส่วนตัว (Beachfront) ที่งดงาม ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างสรรค์เพื่อมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับและเอ็กซ์คลูซีฟในทุกมิติ, Mixed-use Development โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นเพื่อการอยู่อาศัย และพาณิชกรรมบนพื้นที่เดียวกัน ในอนาคต โบทานิก้ากำลังมุ่งเน้นการพัฒนา โครงการ Mixed-use Development ที่ครบวงจร ประกอบด้วยโรงแรมระดับพรีเมียม (Hotel), แบรนด์ที่พักอาศัยสุดหรู (Branded Residences), พื้นที่ค้าปลีกเชิงพาณิชย์ (Commercial Retail Units) และคลับเฮาส์มาตรฐานระดับโลก (World-class Clubhouse) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับ Investment Properties อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน เช่น วิลล่าสำหรับปล่อยเช่าระยะยาว หรือโครงการที่มาพร้อมบริการจัดการผู้เช่าอย่างครบวงจร ช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพการลงทุนและความสะดวกสบายในระยะยาว และสุดท้าย Community Enhancement กับโปรเจกต์ Botanica Art Museum การสร้างแรงบันดาลใจผ่านศิลปะและวัฒนธรรม อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่สะท้อนความมุ่งมั่นของโบทานิก้าในการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและเมือง ผ่านการผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และความสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดแสดงงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้ ที่นี่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรงบันดาลใจสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนในชุมชน “เป้าหมายของเราตอนนี้ไม่ใช่แค่การสร้างที่อยู่อาศัย แต่เราตั้งใจรังสรรค์ 'คอมมูนิตี้ของโบทานิก้า' ที่จะมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับอย่างแท้จริงให้ผู้อยู่อาศัย ล่าสุดเราได้เปิดตัว Botanica Privilege Club ที่จะยกระดับการบริการและสิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านในทุกโครงการของเรา เราอยากยกระดับทุกมิติของการใช้ชีวิตที่คุ้มค่าให้แก่ลูกบ้าน ทั้งหมดนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคของโบทานิก้า" นายอรรถสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ในโอกาสเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ครบรอบ 20 ปี โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า มอบโอกาสสุดพิเศษด้วยโปรโมชันส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับวิลล่าหรูจำนวนจำกัดเพียง 20 หลังจากโครงการคุณภาพ อาทิ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว, โบทานิก้า มอนท์เอซัวร์ โบทานิก้า ฟอเรสต้า สอง, โบทานิก้า วิสดอม, โบทานิก้า สกาย วัลเล่ย์, โบทานิก้า เลคไซด์ สอง, โบทานิก้า ลักซูรี่ หัวหิน, โบทานิก้า ลักซูรี่ กระบี่ และ โบทานิก้า โฟร์ ซีซั่นส์ ซึ่งล้วนได้รับการออกแบบอย่างประณีต ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการลงทุน พร้อมความโดดเด่นทั้งดีไซน์และคุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้อเสนอสุดพิเศษครั้งนี้มาพร้อมราคาที่คุ้มค่า อาทิ โบทานิก้า ลักซูรี่ หัวหิน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นเพียง 20 ล้านบาท, โบทานิก้า วิสดอม 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 20.7 ล้านบาท และ โบทานิก้า ฟอเรสต้า สอง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้นเพียง 35 ล้านบาท สัมผัสการใช้ชีวิตเหนือระดับบนทำเลศักยภาพในราคาพิเศษ เริ่มต้นวันนี้ ถึง 31 มกราคม 2568 เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถดูโครงการทั้งหมดของโบทานิก้าได้ที่ botanicaluxuryvilla.com, Facebook: BOTANICA Luxury Villa หรือโทรสอบถามที่ +66 81 324 2999 และ +66 90 399 4497