Disney ผ่านบททดสอบครั้งประวัติศาสตร์ ไปแล้วเรียบร้อย /โดย ลงทุนเกิร์ล
สรุปผลประกอบการ Disney ปี 2020 รอบบัญชีของบริษัท
เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2019 สิ้นสุด 30 กันยายน 2020

เมื่ออาณาจักรแห่งจินตนาการอย่าง Disney 
ไม่ได้จินตนาการถึงตัวร้าย ที่ชื่อว่าวิกฤติโรคระบาด ซึ่งกำลังเกิดขึ้นบนโลกแห่งความเป็นจริง
ตัวร้ายตัวนี้กลายมาเป็นความท้าทายครั้งประวัติศาสตร์ของ Disney 
ที่ทำธุรกิจบนโลกของเรามาแล้ว 97 ปี

แต่หลังจากประกาศผลประกอบการปีนี้ 
ก็ดูเหมือนว่า Disney สามารถสร้างฮีโร่ ขึ้นมาพิชิตวิกฤติได้สำเร็จ

ผลประกอบการรอบนี้ของ Disney เป็นอย่างไร
แล้วฮีโร่ ที่เกิดขึ้นมาในช่วงวิกฤติคือใคร?
ลงทุนเกิร์ลจะมาสรุปให้ฟัง

ผลประกอบการบริษัท Disney

ปี 2019 
รายได้ 2,113,164 ล้านบาท
กำไร 316,487 ล้านบาท

ปี 2020 
รายได้ 1,985,082 ล้านบาท
ขาดทุน 85,975 ล้านบาท

จากตัวเลขข้างต้นจะเห็นได้ว่า 
รายได้ของ Disney ในปีนี้ลดลง 6%
และกำไรที่เคยทำได้หลายแสนล้าน 
กลับพลิกมาขาดทุนหลายหมื่นล้าน

แม้ว่าผลประกอบการของ Disney อาจจะดูน่าเป็นห่วงแต่จริงๆ แล้ว 
ก็ยังดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

เพราะก่อนหน้านี้ Refinitiv นักวิเคราะห์รายหนึ่งได้เคยออกมาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาสที่ 4 ของ Disney จะลดเหลือ 431,091 ล้านบาท

แต่หลังจากที่ทาง Disney ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ผลปรากฏว่า รายได้ในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 446,482 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้

แล้วรายได้ที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ มาจากไหน?

Disney มีธุรกิจหลักๆ อยู่ทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ

ธุรกิจสวนสนุก
ธุรกิจสตูดิโอภาพยนตร์ 
ธุรกิจเครือข่ายมีเดีย
ธุรกิจสตรีมมิง และเครือข่ายโทรทัศน์ในต่างประเทศ

ซึ่งในปี 2019 ที่ผ่านมา Disney กลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้สูงที่สุดก็คือ ธุรกิจสวนสนุก และสตูดิโอภาพยนตร์

อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิด 19 ในปีนี้ 
กลับส่งผลกระทบต่อรายได้ 2 ส่วนนี้อย่างหนัก

โดยธุรกิจสวนสนุก มีรายได้อยู่ที่ 500,976 ล้านบาท ลดลง 37%
ส่วนธุรกิจสตูดิโอภาพยนตร์ มีรายได้ 292,535 ล้านบาท รายได้ลดลง 13%

โชคดีที่ Disney ยังมีรายได้จากอีก 2 กลุ่มที่ยังเติบโตสวนทางวิกฤติโรคระบาดไปได้ 

ธุรกิจแรกก็คือ เครือข่ายมีเดีย 
ซึ่งกลายมาเป็นกลุ่มที่ทำรายได้สูงที่สุดในปีนี้
โดยทำรายได้ไป 861,728 ล้านบาท เติบโต 14%

และอีกกลุ่มหนึ่งที่เติบโตร้อนแรงจนเปรียบเสมือนฮีโร่ของ Disney ในปีนี้
ก็คือ “ธุรกิจสตรีมมิง และเครือข่ายโทรทัศน์ในต่างประเทศ” 

ธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตสูงถึง 81% และทำรายได้ไปถึง 515,093 ล้านบาท 

ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง Disney+ ที่มีสมาชิกมากถึง 73 ล้านบัญชี

เมื่อรวมกับสมาชิกบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง Espn+ และ Hulu 
ทำให้ Disney มีสมาชิกมากถึง 120.6 ล้านบัญชี 
ซึ่งเติบโตขึ้นมาแข่งขันกับ Netflix ที่มีสมาชิก 195.2 ล้านบัญชีได้อย่างรวดเร็ว 
ทั้งๆ ที่ Disney+ เพิ่งเปิดตัวได้เพียงปีเดียว..

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Disney+ ก็ทำให้คิดได้ว่า
ถ้าหากสามารถกระจายพื้นที่การให้บริการไปได้มากกว่านี้
จำนวนสมาชิกของ Disney+ อาจเพิ่มขึ้นจนเท่า หรือมากกว่า Netflix ก็เป็นได้

นอกจากเรื่องราวของกลุ่มธุรกิจที่สามารถเติบโตขึ้นมาในช่วงวิกฤติสวนทางกับกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแล้ว Disney ก็ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Disney ทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

และก็ดูเหมือนว่าตลาดทุนได้มองข้ามผลกระทบที่เกิดขึ้นปีนี้ 
และได้ข้อสรุปร่วมกันว่า Disney ได้ผ่านบททดสอบครั้งประวัติศาสตร์ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สะท้อนให้เห็นจากมูลค่าบริษัทของ Disney 
ที่ได้ฟื้นตัวจนมีมูลค่ามากกว่าเมื่อช่วงต้นปีไปแล้ว นั่นเอง..

Reference: ผลประกอบการปี 2020 ของ Disney